มาอีกแล้วโครงการดีๆ ที่ไม่ค่อยมีคนอ่าน (ตัดพ้อกันไป) พี่แคมปัส จะบอกว่า ประเทศไทยนี่เมืองของคนใจบุญ คนมีน้ำใจ แม้จะดุเดือดเลือดร้อนกันบ้าง แต่ยามน้ำท่วม ภัยพิบัติ คนไทยนี่แหละสายบุญตัวจริง

พี่แคมปัส พบเจอโครงการดีๆ มากมายเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ใช่แต่ตามวัดวาเท่านั้น ใครมีกำลัง เค้าก็ช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม แบ่งรายได้ แบ่งกำไรกันมาทำดีเยอะแยะ พี่แคมปัสรวยๆ ก็จะทำแบบนี้แหละ โดยเฉพาะกับเด็กยากไร้ เด็กด้อยโอกาส เยาวชนเหล่านี้แหละ...กำลังของชาติ

มาเข้าเรื่องดีกว่า พี่แคมปัส ได้ไปร่วมงานดีๆ จึงขอกลับมาเล่ารายละเอียดให้ฟังพร้อมๆ กัน

โครงการแว่นตาเพื่อน้อง
ห้างแว่นท็อปเจริญ ได้ร่วมกับ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จัดขึ้นสนองพระราชประสงค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่เยาวชนที่มีปัญหาด้านสายตาในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ให้มีสุขภาพตาที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ และได้รับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเริ่มต้น
โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 นับตั้งแต่ พ.ศ. 2557 โดย นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการห้างแว่นท็อปเจริญ เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า ทราบมาว่ามูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย อยากทำแว่นตาให้กับเด็ก เราในฐานะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสายตา จึงได้เข้าไปช่วยเรื่องการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่น

ตั้งใจทำ 10 ปี
เราทำมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ความตั้งใจเราจะทำให้ครบ 10 ปี (พ.ศ.2557-2566) โดยมีเป้าหมายจะช่วยเด็กไทยให้ได้กว่า 30,000 คนเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ เราจะให้บริการตรวจสุขภาพด้านสายตา การแก้ไขด้วยสายตา และแก้ปัญหาด้านโรคตาที่เด็กมี ซึ่งถ้าพบเจอ เราจะนำเด็กกลุ่มนี้มาดูแลรักษาต่อไป

...

เด็กทุรกันดาร...ก็ได้นะ
เบื้องต้นเราจะลงพื้นที่เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งในตัวเมืองใหญ่ รวมไปถึงพื้นที่ทุรกันดารไกลๆ ที่ยากแก่การไปถึง โดย 1 ทริปที่เราไปแต่ละครั้ง จะมีเด็กมากกว่า 500 คน ที่เข้ารับบริการ

ต้องทำอะไรบ้าง?
เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจวัด สแกนนิ่ง หาค่าสายตาที่ถูกต้องแล้วก็ให้เด็กเลือกแว่น จากนั้นเราก็นำค่าสายตาเหล่านั้นมาตัด ประกอบเป็นแว่น ก่อนส่งกลับไปให้คุณครูที่โรงเรียนเป็นคนแจก

ยุ่งยากตรงนี้!
เรื่องการสลับหรือผิดผลาดในการมอบแว่นให้แก่เด็ก เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก ชื่อนามสกุลนี้ผิดพลาดไม่ได้เลย เพราะเด็กจะไม่ได้รับโอกาสใดๆ เลย ในการได้รับแว่นที่ผิดไป

เด็กเป็นโรคตา
ส่วนเด็กที่มีปัญหาด้านโรคตา เราต้องตรวจสอบความพร้อมของพ่อแม่ผู้ปกครอง ถ้าเค้ามาได้ เราก็จะพาเค้ามาดูแลรักษาเลย แต่ถ้าเค้ามาไม่ได้ กาชาดพื้นที่จะเป็นผู้ดูแลรักษาต่อไป

เยอะมาก!
ทำมาแล้ว 3 ปี เรารู้สึกได้ว่า เด็กดีใจมากๆ ที่ได้รับแว่น ซึ่งจริงๆ แล้วจะบอกว่า เด็กส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ตัวเองมาก่อน ว่ามีปัญหาด้านสายตา พ่อแม่เองก็ไม่มีโอกาสพาเด็กไปตรวจค่าสายตา เด็กที่มีปัญหาโรคตามีเยอะมาก โรคตาขี้เกียจ โรคจอประสาทตาหลุด เราก็พบบ่อย ซึ่งเราก็จะดูแลเค้าต่อไป

โอกาสดีๆ
ตอนนี้เพิ่งเป็นปีที่ 4 เรายังจะทำต่อไป โดยหวังว่าเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการเรา จะมีโอกาสทางการศึกษาเพิ่มขึ้น

***ล้อมกรอบโรคตา*** จากหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา

- ปัญหาทางด้านสายตาที่พบมากที่สุดในเด็กไทย ที่มีอายุระหว่าง 5-18 ปี คือ ปัญหาสายตาสั้นเทียม โรคตาขี้เกียจ และโรคตาเข/ตาเหล่

- สายตาสั้นเทียมมักพบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากในยุคนี้เราใช้การมองระยะใกล้กันมากขึ้น

...

- อุปกรณ์มือถือ ทั้งจอเล็กและจ้องดูใกล้ ที่สำคัญเพ่งจ้องดูกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน ไม่ละสายตา รวมถึงจ้องดูในบริเวณที่มีแสงน้อยๆ ดังนั้นดวงตาจึงต้องใช้กล้ามเนื้อเพ่ง ต้องทำงานเกร็งตลอดเวลา ทำให้ไม่คลายตัว

-โรคตาขี้เกียจ มีมักพบในเด็กเล็กช่วงวัยเตรียมเข้าโรงเรียน โดยคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้จากพฤติกรรมการจ้องมองสิ่งของรอบตัวของเด็ก อาจลองปิดตาเด็กที่ละข้างแล้วตรวจดูว่า การมองเห็นใกล้เคียงกันไหม ถ้าพบลักษณะผิดปกติอาจต้องพาลูกไปพบจักษุแพทย์

- ผลของโรคตาขี้เกียจ ทำให้การพัฒนาซีกสมองส่วนการมองเห็นไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมองเห็นภาพข้างนั้นไม่ชัดเจน นานวันสมองซีกนั้นจะหยุดการพัฒนาการมองเห็น และเป็นผลทำให้ความสามารถในการมองเห็นสิ้นสุดลงจนอาจเป็นตาเขในระยะยาว

- โรคตาเข/ตาเหล่ เป็นอาการของการรวมภาพของดวงตาทั้งสองข้างไม่ดี โดยมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์  ปัญหาสายตา อุบัติเหตุที่ตาหรือโรคทางสมอง รวมทั้งพฤติกรรมของตัวเด็กเอง อาทิ การชอบนอนอ่านหนังสือ เป็นต้น

- เด็กกลุ่มนี้กะระยะได้ไม่ดี และเมื่อเติบโตขึ้นอาจมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ไม่มั่นใจและมักขี้อาย โรคตาเขในบางครั้งอาจเป็นตลอดเวลา หรือบางครั้งอาจเป็นแบบซ่อนเร้น ซึ่งอาจปรากฏในช่วงที่อ่อนเพลีย

- การตรวจรักษาโดยจักษุแพทย์จะตรวจวินิฉัยว่า เด็กเป็นโรคตาเขประเภทใด กล้ามเนื้อกลอกตามัดไหนมีปัญหา มุมเขมากน้อยเท่าไร และมีปัญหาสายตาอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ส่วนใหญ่จักษุแพทย์จะรักษาต้นเหตุของตาเขก่อน และสุดท้ายจักษุแพทย์จะผ่าตัดกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ตาตรงต่อไป
 
อย่างไรก็ตาม โครงการดีๆ เหล่านี้ยังไม่จบสิ้น ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ ด้วยการกดแชร์วิดีโอ "Double Happiness" โดย 1 การแชร์ มีค่าเท่ากับ 1 ความสุขแบบคูณ 2 ของน้องๆ ใน Facebook.com/TopCharoenOpticalOfficial

...

ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2560 

ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ของเด็กไทยกันนะ.