ไขคำตอบ ออกเสียงประชามตินอกเขตคืออะไร ต่างจากเลือกตั้ง สส. ไหม? ไม่ไปออกเสียงจะเสียสิทธิทางการเมืองหรือไม่ สรุปเรื่องยากให้เข้าใจง่าย อ่านจบเตรียมตัวลงทะเบียนได้เลย
ช่วงนี้กระแส “แก้รัฐธรรมนูญ” กำลังมาแรง และคำศัพท์ที่ได้ยินบ่อยที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น “การออกเสียงประชามติ” โดยเฉพาะใครที่ตัวอยู่ไกลบ้านแต่ชื่ออยู่ทะเบียนบ้านอีกที่ ต้องรีบทำความเข้าใจเรื่อง “การออกเสียงประชามตินอกเขต” เราสรุปมาให้แล้วว่ามันคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และถ้าเราเลือกที่จะไม่ไป จะมีผลกระทบอะไรกับชีวิตเราหรือไม่ อ่านจบเข้าใจทันที
ออกเสียงประชามตินอกเขต คืออะไร?
อธิบายแบบรวบรัด “การออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัด” คือบริการพิเศษจาก กกต. ที่ช่วยให้คนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดหนึ่ง แต่ตัวจริงทำงาน เรียน หรืออาศัยอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง สามารถใช้สิทธิออกเสียงได้ในจังหวัดที่ตัวเองอยู่ปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ให้ประชาชนต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพียงเพื่อไปกากบาทลงคะแนน 1 ใบ ช่วยให้ยอดผู้มาใช้สิทธิดีขึ้น และสะท้อนเสียงของประชาชนได้ครอบคลุมที่สุด
“ประชามติ” ต่างจาก “เลือกตั้ง สส.” อย่างไร?
หลายคนสับสนว่าเหมือนกันไหม เพราะวิธีการกากบาทคล้ายกัน แต่เป้าหมายต่างกันสิ้นเชิง
- การเลือกตั้ง (Election): คือการเลือก “คน” (สส./อบต./ผู้ว่าฯ) เข้าไปทำงานแทนเรา
- ประชามติ (Referendum): คือการเลือก “กติกา” หรือการตัดสินใจเรื่องใหญ่ของประเทศ เช่น จะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่?
...
ดังนั้น การออกเสียงประชามติ หมายถึงเราไม่ได้เลือกใครไปเป็นนายกฯ แต่เรากำลังเลือกว่าจะใช้กฎกติกาแบบไหนในการปกครองประเทศต่อไป
ไม่ไปลงประชามติ ผิดไหม เสียสิทธิอะไรหรือเปล่า
นี่คือคำถามยอดฮิต ปกติแล้วถ้าเราไม่ไปเลือกตั้ง สส. เราจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง เช่น ห้ามลงสมัคร สส., ห้ามเป็นข้าราชการการเมือง ฯลฯ
แต่สำหรับการออกเสียงประชามติ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ถือเป็น “หน้าที่” ของปวงชนชาวไทยที่ต้องไปใช้สิทธิ แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีบทลงโทษชัดเจนเรื่องการถูกตัดสิทธิทางการเมืองเหมือนการเลือกตั้ง สส. หากท่านไม่ไปใช้สิทธิประชามติ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในทางกฎหมายอาจไม่โดนตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่ในทางสังคมและการเมือง ท่านจะเสีย “โอกาส” อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น
- เสียโอกาสกำหนดอนาคต: รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดที่กระทบทุกอย่าง ตั้งแต่สิทธิเสรีภาพ สวัสดิการ ไปจนถึงระบบการเมือง ถ้าท่านไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง เสียงของท่านก็หายไป
- ยอมรับการตัดสินใจของคนอื่น: หากท่านไม่ออกเสียง เท่ากับท่านยอมรับผลที่คนอื่นเลือกให้ ไม่ว่าจะออกมาในทางที่ท่านชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
ทำไมจึงต้องตื่นตัวเรื่องการออกเสียงประชามติ
การทำประชามติครั้งนี้ (ก.พ. 2569) คือกุญแจดอกแรกที่จะไขไปสู่การ “รื้อระบอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560” ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงกันมานาน หากประชามติ “ผ่าน” เราจะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาเขียนกติกาใหม่ แต่ถ้า “ไม่ผ่าน” หรือคนมาใช้น้อยจนขาดความชอบธรรม เราก็จะใช้กติกาเดิมต่อไป
หากรู้ตัวว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ไม่สามารถกลับภูมิลำเนาได้แน่ๆ แนะนำว่าควรลงทะเบียนประชามตินอกเขต ในวันที่ 3 – 5 มกราคม 2569 เพื่อไปใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขตในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้ง