แคนดิเดตนายกฯ ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ประชาชนควรรู้ก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง เพราะสะท้อนว่าพรรคการเมืองต้องการผลักดันใครขึ้นเป็นผู้นำประเทศ ช่วยให้ประชาชนเห็นทิศทางการเมืองและตัดสินใจเลือกพรรคได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้งปี 2569 ไทยรัฐออนไลน์จะพามาทำความรู้จักความหมายของแคนดิเดตนายกฯ มีที่มาจากไหน และทำไมพรรคการเมืองเลือกตัวแทนผู้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค
เปิดความหมาย "แคนดิเดตนายกฯ" คืออะไร
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายถึง บุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อเพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบว่า พรรคอยากให้คนนี้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง โดยการเสนอชื่อเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งจริง ซึ่งรัฐธรรมนูญไทยฉบับปี 2560 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถแจ้งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อประกาศให้ประชาชนทราบล่วงหน้า สิ่งนี้ช่วยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นภาพว่าพรรคการเมืองต่างๆ ต้องการผลักดันใครขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลถัดไป
แคนดิเดตนายกฯ มีที่มาจากไหน มีความสำคัญอย่างไร
หลักการของแคนดิเดตนายกฯ มาจาก บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ระบบการเลือกตั้งและกติกาก่อนหน้านั้นมีการปรับปรุงใหม่ โดยเปิดช่องให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อผู้ที่พรรคเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนเลือกตั้งจริง ถูกประกาศให้ประชาชนเห็นโดย กกต. การมีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ มีความสำคัญทางการเมืองหลายด้าน เช่น
...
- เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์ของพรรค ในการสื่อสารจุดยืนและภาพลักษณ์การเป็นผู้นำ
- สร้างข้อมูลให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตัดสินใจ ว่าพรรคใดมีแนวคิดหรือบุคคลที่คาดว่าจะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่ตนต้องการ
- มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เพราะรายชื่อที่พรรคเสนออาจกลายเป็นตัวเจรจาต่อรองในกระบวนการตั้งรัฐบาลร่วม
ทำไมพรรคการเมืองต้องเลือก "แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี" ก่อนการเลือกตั้ง 2569
พรรคการเมืองต้องเลือกแคนดิเดตนายกฯ ก่อนเลือกตั้ง เพราะเป็นข้อกำหนดตามรัฐธรรมนูญ และยังมีความสำคัญทางการเมืองหลายด้าน ได้แก่
1. ทำให้ประชาชนรู้ล่วงหน้า เพราะประชาชนจะได้เห็นชัดว่าพรรคการเมืองต้องการเสนอใครเป็นผู้นำประเทศ ไม่ได้เลือกแค่พรรค แต่เลือก "ตัวบุคคล" ไปพร้อมกัน
2. สร้างความโปร่งใสในการเมือง โดยการประกาศชื่อแคนดิเดตล่วงหน้า ช่วยลดความคลุมเครือหลังเลือกตั้ง ว่าใครมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี
3. เป็นกลยุทธ์หาเสียงของพรรค เนื่องจากแคนดิเดตนายกฯ มักถูกใช้เป็นจุดขาย สะท้อนภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และแนวคิดการบริหารประเทศของพรรค
4. ใช้เป็นฐานในการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง หากไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะมีผลต่อการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม
สรุปคือ การเลือกแคนดิเดตนายกฯ ก่อนเลือกตั้ง 2569 ช่วยให้การเมืองชัดเจนขึ้น ทั้งต่อประชาชน พรรคการเมือง และกระบวนการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งนั่นเอง แคนดิเดตนายกฯ ไม่เพียงแค่ชื่อบุคคล แต่ยังสะท้อนแนวคิด นโยบาย และทิศทางการเมืองของแต่ละพรรคอย่างชัดเจน ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตยได้อย่างเต็มที่