เตรียมตัวให้พร้อมก่อนปี 2026 เปิด 5 Soft Skills สำคัญที่โรงเรียนอาจไม่ได้สอน ทั้ง Empathy, CQ และ GenAI Literacy ทักษะไหนจะพาคุณรุ่งในยุค AI เช็กเลย
โลกหมุนเร็วกว่าหลักสูตรการศึกษา คำกล่าวนี้ดูจะไม่เกินจริงเมื่อเรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2026 ปีที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม จนเกิดคำถามสำคัญว่า “มนุษย์ต้องเก่งอะไร ถึงจะไม่ตกงาน?”
รายงานจาก World Economic Forum (WEF) และเทรนด์การจ้างงานทั่วโลกชี้ชัดว่า ใบปริญญาและความรู้เชิงวิชาการ (Hard Skills) คือใบเบิกทาง แต่สิ่งที่จะตัดสินว่าใครจะได้ “ไปต่อ” คือ “Soft Skills” หรือทักษะทางอารมณ์และสังคมที่ AI ยังเลียนแบบได้ยาก ไทยรัฐออนไลน์สรุป 5 ทักษะมาแรงแห่งอนาคต ที่คุณต้องรีบเติมเข้าพอร์ตโฟลิโอด่วน
1. Cultural Intelligence (CQ) ความฉลาดทางวัฒนธรรม
ในยุคที่ “ออฟฟิศ” คือหน้าจอ และเพื่อนร่วมงานอาจนั่งอยู่คนละซีกโลก Cultural Intelligence (CQ) หรือความสามารถในการปรับตัวและทำงานร่วมกับคนต่างวัฒนธรรมจึงสำคัญมาก โดย 90% ของผู้บริหารระดับสูงจาก 68 ประเทศ ระบุว่า "การบริหารจัดการข้ามวัฒนธรรม" (Cross-cultural Management) คือความท้าทายอันดับ 1 ของการทำงานในยุค Global Connectivity
...
ทักษะนี้ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องภาษา แต่รวมถึงการเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติ วิธีคิด และค่านิยมที่แตกต่าง (Diversity & Inclusion) เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างสรรค์งานในทีมระดับ Global ได้อย่างลื่นไหล
2. Critical Thinking & Complex Problem Solving คิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาซับซ้อน
เมื่อข้อมูลท่วมโลก (Information Overload) และ Fake News แพร่กระจายได้เร็วกว่าไวรัส ทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดี 73% คือสัดส่วนขององค์กรที่ระบุว่าความต้องการทักษะ "Creative Thinking" และการคิดวิเคราะห์จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อใช้ตัดสินใจในเรื่องที่ AI ทำแทนไม่ได้
- Connect the Dots: การเชื่อมโยงข้อมูลมหาศาลเพื่อหา “Insight” ที่แท้จริง
- Judgment: การตัดสินใจในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซึ่งต้องใช้จริยธรรมและประสบการณ์มนุษย์ในการชี้ขาด
3. GenAI Literacy มากกว่าแค่ใช้เป็น คือต้อง “คุยให้รู้เรื่อง”
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่านี่คือ Hard Skill สำหรับโปรแกรมเมอร์เท่านั้น ในปี 2025 GenAI Literacy (ความฉลาดทางดิจิทัลและ AI) จะกลายเป็น “ภาษาที่ 3” ของคนทำงานทุกสาขา ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาด นักเขียน หรือ HR
โรงเรียนอาจสอนวิธีเขียนโค้ด แต่โลกการทำงานต้องการคนที่
- Prompt Engineering Mindset: รู้วิธีตั้งคำถามที่ถูกต้องเพื่อให้ AI ทำงานได้ตรงจุด
- AI Ethics & Verification: มีวิจารณญาณในการตรวจสอบข้อมูลที่ได้จาก AI ไม่เชื่อแบบหลับหูหลับตา (AI Hallucination)
- Collaboration: มอง AI เป็น “เพื่อนร่วมงาน” (Co-pilot) เพื่อลดงานซ้ำซ้อนและเอาเวลาไปโฟกัสงานเชิงกลยุทธ์
ผลสำรวจจาก Microsoft Work Trend Index ระบุว่า 82% ของผู้บริหารต้องการพนักงานที่มีทักษะด้าน AI แต่ปัจจุบันมีพนักงานเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มั่นใจในทักษะนี้ โดย 72% ขององค์กรทั่วโลกวางแผนเพิ่มงบประมาณ ในการลงทุนด้าน GenAI และการพัฒนาทักษะพนักงานในปี 2025 ทำให้ทักษะการใช้ AI กลายเป็นทักษะพื้นฐานที่ต้องมี
4. Resilience & Flexibility ล้มให้เร็ว ลุกให้ไว
โลกยุค BANI (Brittle, Anxious, Non-linear, Incomprehensible) เต็มไปด้วยความเปราะบางและความไม่แน่นอน ทักษะสุดท้ายที่โรงเรียนมักไม่ได้สอนเป็นวิชาแกน คือ Resilience (ความยืดหยุ่นทางใจ) โดย 44% ของทักษะหลัก (Core Skills) ที่พนักงานมีอยู่ "จะถูกรบกวน" หรือต้องเปลี่ยนแปลงภายใน 5 ปี ทักษะความยืดหยุ่น (Resilience) จึงเป็นเกราะป้องกันเดียวที่จะช่วยให้คนทำงานรอดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
- Growth Mindset: มองอุปสรรคเป็นโอกาสในการเรียนรู้
- Unlearn & Relearn: กล้าที่จะทิ้งความรู้เดิมที่ล้าสมัย และเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ตลอดเวลาโดยไม่อีโก้
5. Empathy ความเข้าอกเข้าใจ ที่อัลกอริทึมทำไม่ได้
ยิ่งเทคโนโลยีฉลาดขึ้นเท่าไหร่ “หัวใจ” ของมนุษย์ยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้นเท่านั้น Empathy (ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น) คือกุญแจสำคัญที่ทำให้มนุษย์เหนือกว่าหุ่นยนต์ โดยเฉพาะในงานบริการ การแพทย์ และการบริหารทีม โดย 26% คืออัตราการเติบโตของ "ความต้องการ" ทักษะด้านอารมณ์และสังคม ในตลาดแรงงานไปจนถึงปี 2030 ซึ่งสูงกว่าทักษะทางกายภาพ
- Emotional Connection: การอ่านความรู้สึกจากน้ำเสียง สีหน้า และบริบทที่ซับซ้อน
- Trust Building: การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในการเจรจาธุรกิจ ซึ่ง AI ยังไม่สามารถทดแทน “Human Touch” ได้ 100%
...
ปี 2026 ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของมนุษย์ทำงาน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการ “วิวัฒนาการ” การมี Hard Skills ที่เก่งกาจอาจพาคุณเข้าไปนั่งในห้องสัมภาษณ์ได้ แต่ Soft Skills ทั้ง 5 ข้อนี้ จะเป็นตัวตัดสินว่าคุณจะได้งาน ได้เลื่อนตำแหน่ง และเป็นผู้นำที่องค์กรขาดไม่ได้หรือไม่ เริ่มสำรวจตัวเองตั้งแต่วันนี้ ว่าเราขาดทักษะข้อไหน แล้วเติมเต็มก่อนที่โลกจะหมุนหนีคุณไป
ที่มา: World Economic Forum (Future of Jobs Report), LinkedIn Learning Workplace Learning Report, Gartner, McKinsey.