จากผลสำรวจของ Thairath Poll ซึ่งได้สำรวจความนิยมของพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกฯ ในมุมมองผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน จนถึง 15 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 36,000 คน พบว่าคะแนนนิยมในตัวบุคคล และพรรคการเมืองยังคงเทไปที่พรรคประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจและไม่เลือกผู้สมัครคนใดยังคงมีสัดส่วนที่สูงไม่น้อย
หลายคนอาจมีคำถามในใจว่าถ้าไม่อยากเลือกใครเลยควรทำอย่างไร? ระหว่าง “การนอนหลับทับสิทธิ์” อยู่บ้านเฉยๆ กับ “การออกไปกาช่องไม่ลงคะแนนเสียง” มีผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งในเชิงกฎหมายและเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง วันนี้ไทยรัฐออนไลน์สรุปมาให้ครบ จบในที่เดียว
“ไม่ไปเลือกตั้ง” VS “ไม่ลงคะแนนเสียง” ต่างกันตรงไหน?
ในทางกฎหมายและระบอบประชาธิปไตย เจตนาของทั้งสองพฤติกรรมนี้ส่งผลต่อสถานะของคุณและผลการเลือกตั้งที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้
1. การไม่ไปเลือกตั้ง (นอนหลับทับสิทธิ์)
คือการที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่ปรากฏตัว ณ หน่วยเลือกตั้ง และไม่ได้แจ้งเหตุจำเป็นล่วงหน้าหรือหลังเลือกตั้ง
- ผลทางสถิติ: ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่ม “ผู้ไม่มาใช้สิทธิ์” ซึ่งทำให้ฐานคะแนนเสียงรวมดูน้อยลง
- ผลทางกฎหมาย: “เสียสิทธิ์ทางการเมือง” ตามที่กฎหมายกำหนด
2. การไม่ลงคะแนนเสียง (โหวตโน - Vote No)
คือการเดินทางไปที่หน่วยเลือกตั้ง ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน รับบัตร และเข้าคูหาเพื่อกากบาทในช่อง “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด”
- ผลทางสถิติ: ถูกนับเป็น “คะแนนเสียงที่ใช้ได้” (Valid Vote) ในหมวดไม่เลือกใคร แสดงออกถึงพลังบริสุทธิ์ว่าไม่ยอมรับตัวเลือกที่มีอยู่
- ผลทางกฎหมาย: “ไม่เสียสิทธิ์ใดๆ” เพราะถือว่าได้มาทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแล้ว
...
เปิดลิสต์: ไม่ไปเลือกตั้ง เสียสิทธิ์อะไรบ้าง?
ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หากคุณไม่ไปใช้สิทธิ์และไม่ได้แจ้งเหตุอันสมควร คุณจะถูกจำกัดสิทธิ์เป็นเวลา 2 ปี (นับตั้งแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ไม่ได้ไป) ดังนี้
- เสียสิทธิ์ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.
- เสียสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส., สมาชิกสภาท้องถิ่น, ผู้บริหารท้องถิ่น หรือ ส.ว.
- เสียสิทธิ์สมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน
- เสียสิทธิ์ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
- เสียสิทธิ์ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการ/ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
สรุปแล้ว หากท่านไม่ถูกใจผู้สมัครคนใดเลย การออกไป “ไม่ลงคะแนนเสียง” หรือ “โหวตโน” ดูจะเป็นทางเลือกที่มีน้ำหนักและปลอดภัยที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นการสะท้อนความต้องการที่แท้จริงสู่ระบบแล้ว ยังช่วยให้ท่านไม่เสียสิทธิ์สำคัญทางการเมืองที่อาจจำเป็นต้องใช้ในอนาคตอีกด้วย