อีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว เชื่อว่าหลายคนกำลังลิสต์สิ่งที่อยากทำกันยาวเหยียด แต่ก่อนจะเติมอะไรใหม่ๆ เข้าไปในชีวิต ลองย้อนกลับมาดู “นิสัยเดิมๆ” ที่ฉุดรั้งสุขภาพเราอยู่หรือเปล่า

ถ้าอยากให้ปีหน้าเป็นปีที่เราตื่นมาแล้วสดชื่น มีพลัง และภูมิใจในตัวเองมากขึ้น นี่คือ 5 นิสัยทำร้ายสุขภาพ ที่เราอยากชวนให้คุณ “โยนทิ้ง” ไว้ที่ปีเก่านี้ไปด้วยกัน

5 นิสัยทำร้ายสุขภาพ

  • นิสัย “ไถมือถือ” จนลืมเวลานอน

หลายคนติดนิสัย Revenge Bedtime Procrastination หรือการไถโซเชียลแก้แค้นที่ทั้งวันไม่ได้พัก จนเบียดบังเวลานอน แสงสีฟ้าจากจอไม่เพียงแต่ทำร้ายสายตา แต่ยังยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน ทำให้หลับไม่สนิท ตื่นมาแล้วเพลียสะสม ให้ลองเปลี่ยนมาอ่านหนังสือ หรือฟัง Podcast เบาๆ แทน เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อนจริงๆ

  • นิสัย “กินดับเครียด”

ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน “ของหวาน” หรือ “บุฟเฟต์” มักจะเป็นรางวัลที่เราให้ตัวเองบ่อยเกินไป จนกลายเป็นความเคยชินที่ใช้ของกินบำบัดอารมณ์ ซึ่งส่งผลเสียต่อระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำหนักตัวในระยะยาว

ชวนหาช่องทางระบายความเครียดแบบอื่น เช่น การออกเดินเล่น, ทำงานอดิเรก หรือดื่มน้ำเปล่าแก้วใหญ่ๆ เมื่อรู้สึกอยากกินของจุกจิก

  • นิสัย “ผลัดวันประกันพรุ่ง” เรื่องออกกำลังกาย

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเริ่ม” เป็นคำพูดติดปากที่ทำให้ชุดออกกำลังกายในตู้ยังคงมีป้ายราคาติดอยู่ หลายคนติดภาพว่าการออกกำลังกายต้องไปยิม 1-2 ชั่วโมงถึงจะนับ แต่จริงๆ แล้วการขยับร่างกายเพียงเล็กน้อยก็มีค่า

ใช้กฎ 10 นาที ลองขยับร่างกายสั้นๆ ที่บ้าน หรือเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ ขอแค่ให้ได้เริ่ม รับรองว่านิสัยเราจะขยับตัวมาออกกำลังกายได้อย่างแน่นอน

...

  • นิสัย “ดื่มน้ำน้อย” แต่ดื่มคาเฟอีนหนัก

กาแฟ 3 แก้ว ชานมอีก 1 แก้ว แต่ดื่มน้ำเปล่าไม่ถึงลิตร นิสัยนี้ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวพรรณไม่สดใส และระบบขับถ่ายรวน การปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเรื้อรังส่งผลต่อสมาธิและการทำงานของสมองอย่างมาก ให้ลองตั้งเป้าดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 2 ลิตร โดยการวางขวดน้ำไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา

  • นิสัย “ละเลยสัญญาณเตือน” จากร่างกาย

ปวดหลังนิดหน่อยก็กินยาแก้ปวด ปวดตาก็หยอดตาแล้วฝืนต่อ การเมินสัญญาณเล็กๆ ที่ร่างกายพยายามบอก คือจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพเรื้อรังในอนาคต หันมาฟังเสียงร่างกายตัวเองให้มากขึ้น สังเกตความผิดปกติ ด้วยการเริ่มไปตรวจสุขภาพประจำปี และติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ

ปีใหม่นี้อยากชวนทุกคนมาลอง Reset ตัวเองกันใหม่ เริ่มต้นจากการ “ตัด” สิ่งที่ไม่จำเป็นออก แล้วคุณจะพบว่าการมีสุขภาพดี... ไม่ได้ยากอย่างที่คิด