เจาะเทรนด์ตลาดงานปี 2568 ผลสำรวจชี้สวัสดิการ Well-being และวันลาสุขภาพจิต (Mental Health Day Off) กลายเป็นปัจจัยหลักในการดึงดูดคนทำงานยุคใหม่ พร้อมส่องทิศทางโบนัสและการปรับเงินเดือนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การรีเซ็ตตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของคนทำงานในช่วงปลายปี Jobsdb by SEEK เผยผลสำรวจล่าสุดชี้ชัดว่า "สวัสดิการที่ยกระดับคุณภาพชีวิต" คือปัจจัยอันดับ 1 ในการตัดสินใจสมัครงาน โดยเฉพาะ "วันลาสุขภาพจิต" และความโปร่งใสของผลตอบแทนที่เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาคนเก่งไว้กับองค์กรอย่างยั่งยืน
เทรนด์สวัสดิการ 2568 เมื่อ "ความสุข" สำคัญพอๆ กับ "เงินเดือน"
ในโลกการทำงานยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความกดดัน สมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) ไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่เป็น "ทางหลัก" ที่คนทำงานมองหา ข้อมูลจากรายงาน Hiring, Compensation & Benefits (HCB) Report 2025 ระบุว่า องค์กรไทยเริ่มปรับตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยให้ความสำคัญกับสุขภาวะ (Well-being) มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหาที่ทำงานที่มองเห็นค่าของความเป็นมนุษย์
...
คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ Jobsdb by SEEK ประเทศไทย ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ว่า
“การปรับตัวให้เข้ากับคนทำงานรุ่นใหม่และโลกการทำงานยุคดิจิทัลนั้นต้องอาศัยตัวแปรที่ดึงดูดความเชื่อมั่นของบุคลากรให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เราเชื่อว่าความยั่งยืนขององค์กรเริ่มต้นจากการดูแล ‘คน’ อย่างแท้จริง”
เปิดสถิติ "วันลาพิเศษ" ที่องค์กรเตรียมเพิ่มให้พนักงาน
จากผลการสำรวจพบว่า นอกเหนือจากวันลาพักร้อนมาตรฐาน องค์กรไทยกว่าหลายแห่งมีแผนจะยกระดับสวัสดิการวันลาเพื่อดูแลใจและคนรอบข้าง ดังนี้
- 11% ขององค์กร เตรียมเพิ่ม "วันลาสุขภาพจิต" (Mental Health Day Off) เพื่อลดภาวะ Burnout
- 15% ขององค์กร เตรียมเพิ่ม "วันลาพิเศษเพื่อดูแลครอบครัว" (Family Care Leave) โดย วันลาในวันเกิด ยังคงเป็นสวัสดิการยอดนิยมที่สร้างความรู้สึกพิเศษและสะท้อนการดูแลพนักงานในฐานะปัจเจกบุคคล
ความมั่งคั่งที่โปร่งใส โบนัสและอัตราการขึ้นเงินเดือนปี 2568
มิติของ Well-being ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องใจ แต่รวมถึง "ความมั่นคงทางการเงิน" ด้วย ปัจจุบันคนทำงานต้องการความชัดเจนในระบบผลตอบแทน ซึ่งผลสำรวจระบุว่า 79% ขององค์กรไทย เริ่มเปิดเผยวิธีการคำนวณโบนัสอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความไว้ใจในระยะยาว
สรุปภาพรวมผลตอบแทนในตลาดงาน
- 84% ขององค์กร ยังคงจ่ายโบนัสตามผลงาน (Performance Bonus)
- 85% ขององค์กร มีนโยบายปรับขึ้นเงินเดือนในปีหน้า
- 1.8 เดือน คือค่าเฉลี่ยโบนัสภาพรวมที่พบจากการสำรวจ
- 1-5% คืออัตราการปรับขึ้นเงินเดือนส่วนใหญ่ในตลาด
กลยุทธ์การบริหารคนในปี 2568 ไม่ใช่เพียงการแข่งขันที่ตัวเลขเงินเดือน แต่คือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นและเห็นคุณค่าของชีวิตพนักงาน องค์กรที่สามารถส่งมอบสวัสดิการที่จับต้องได้จริง ทั้งวันลาพักใจ ความโปร่งใสของรายได้ และการสนับสนุนด้านครอบครัว จะเป็นผู้ชนะในสมรภูมิการดึงตัวคนเก่ง และสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกับพนักงาน