งานวิจัยของแพทย์ฮาร์วาร์ดแนะวิธีการป้องกันสมองเสื่อมด้วยการขยับร่างกายเพียงวันละ 3,000-5,000 ก้าว โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีอะไมลอยด์สะสม ก็มีแนวโน้มช่วยชะลอการเสื่อมของสมองได้

นพ.จัสมีร์ ชัตวาล (Jasmeer Chhatwal) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด (Harvard Medical School) เปิดเผยกิจวัตรประจำวันที่เขาทำทุกบ่ายเพื่อดูแลสมองของตัวเอง นั่นคือการลุกจากโต๊ะทำงาน เดินออกจากออฟฟิศไปซื้อกาแฟ เป็นระยะทางประมาณ 2 ไมล์ หรือราว 20 นาที 

นายแพทย์จัสมีร์ ชี้ว่านี่คือยาที่ดีสำหรับสมอง โดยอันที่จริงแล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องของการเติมคาเฟอีนเข้าร่างกาย แต่เป็นกลยุทธ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง

ใช้กาแฟเป็นข้ออ้างในการเดิน หรือขยับเคลื่อนไหวให้มากขึ้น
ใช้กาแฟเป็นข้ออ้างในการเดิน หรือขยับเคลื่อนไหวให้มากขึ้น


วิทยาศาสตร์เบื้องหลังการเดิน จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งติดตามกลุ่มตัวอย่างอายุ 50-90 ปี เกือบ 300 คน นานถึง 14 ปี พบความเชื่อมโยงที่น่าทึ่งสองอย่างด้วยกัน

...

อย่างแรก ผู้ที่เดินวันละ 5,000-7,000 ก้าว มีโอกาสที่สุขภาพสมองโดยรวมดีกว่า และมีการสะสมของโปรตีนเทา หรือ Tau Protein ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์ และอาการหลงลืม น้อยกว่าคนที่นั่งติดที่ หรือเคลื่อนไหวน้อย

ไม่ต้องวิ่งมาราธอน แต่เปลี่ยนมาเดิน และเคลื่อนไหวให้มากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว
ไม่ต้องวิ่งมาราธอน แต่เปลี่ยนมาเดิน และเคลื่อนไหวให้มากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว


อย่างที่สองก็คือ เพียงการเดินเล็กๆ น้อยๆ เพียงวันละ 3,000 ก้าวต่อวัน หรือประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีการสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์ ก็ยังมีแนวโน้มช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ 

หมอจัสมีร์ย้ำว่า การป้องกันอัลไซเมอร์ไม่ได้แปลว่าต้องไปวิ่งมาราธอน เพียงแค่การขยับร่างกายเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็สร้างความเปลี่ยนแปลงมหาศาล และงานวิจัยนี้พิสูจน์แล้วว่า ไม่สายเกินไปที่จะเริ่ม เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้สมองของคุณเอง

ที่มา: Business Insider