สารต้านอนุมูลอิสระในอาหารธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ช่วยให้ผิวพรรณดี แต่เป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับ “ความเครียดจากอนุมูลอิสระ” ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความเสื่อมของเซลล์และโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับอายุ การบริโภคอาหารที่หลากหลายจึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการส่งเสริมอายุยืนและสุขภาพดี

ไทยรัฐออนไลน์ ได้รวบรวม 7 อาหารช่วยต้านอนุมูลอิสระเพื่อความอายุยืน และส่งผลดีต่อสุขภาพ

7 อาหารมหัศจรรย์ต้านชรา สารต้านอนุมูลอิสระกับอายุยืน

  • ตระกูลเบอร์รี

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี, แบล็คเบอร์รี, ราสเบอร์รี, ข้าวกล้องหอมนิล มีแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่ให้สีม่วงเข้ม/น้ำเงิน/แดง โดยสารแอนโธไซยานินแสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก ช่วยปกป้องดีเอ็นเอและเซลล์ประสาท การศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า สารสกัดจากบลูเบอร์รีและแบล็คไรซ์สามารถยืดอายุขัยได้ถึง 10-14% ในสิ่งมีชีวิตบางชนิด โดยการควบคุมยีนที่เกี่ยวข้องกับความชรา

  • ชาเขียว และกาแฟ

มีสารสำคัญอย่างคาเทชินในชาเขียว และ โพลีฟีนอล (Polyphenols) ในกาแฟ สารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาภาวะเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคทางระบบประสาท โดยการศึกษาพบว่า การบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณต่ำ (รวมถึงวิตามิน C, E, และเบต้าแคโรทีน) อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งและอัตราการเสียชีวิตในผู้ชายบางกลุ่มได้

  • มะเขือเทศและแตงโม

มะเขือเทศและแตงโม มีสารไลโคพีนประสิทธิภาพสูงในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงหลอดเลือด ไม่ว่าจะเป็นการนำมะเขือเทศไปปรุงอาหารผ่านความร้อนจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมไลโคพีนไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น

...

  • บรอกโคลีและผักตระกูลกะหล่ำ

ผักตระกูลกะหล่ำ และบรอกโคลีมีสารที่เรียกว่าอินโดล และ เควอซิทิน กลไกต้านชรา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของอัตราการเสียชีวิตโดยรวม โดยเควอซิทิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่พบมากในบรอกโคลีและหอมหัวใหญ่ มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ

  • ถั่วและเมล็ดพืช

ถั่ว และเมล็ดพืชมีสารสำคัญ คือ วิตามินอี (Vitamin E) ในรูปของโทโคฟีรอล โดยวิตามินอีนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ การบริโภคถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ วอลนัท และเมล็ดทานตะวัน จึงเป็นวิธีธรรมชาติในการได้รับวิตามินอีและสารประกอบฟีนอลิกเพื่อสุขภาพที่ดี

  • ฝรั่งและมะขามป้อม

ผลไม้เหล่านี้มีสารสำคัญอย่างวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่ละลายในน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม วิตามินซีถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน จึงควรรับประทานผักและผลไม้เหล่านี้ในรูปแบบสดให้มากที่สุด

  • ข้าวกล้องและธัญพืชเต็มเมล็ด (หลากหลาย)

ธัญพืชส่วนใหญ่มักอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี และสารพฤกษเคมี ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงข้าวกล้องหอมนิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ดังนั้นการเลือกบริโภคธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ แทนข้าวขาวและขนมปังขาว ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจได้

แม้ว่าอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจะให้ประโยชน์ต่ออายุขัยและสุขภาพอย่างชัดเจน แต่การศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่ได้แสดงให้เห็นว่า การบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบอาหารเสริมในปริมาณสูง อาจให้ผลตรงกันข้าม โดยบางงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาจเพิ่มอัตราการเสียชีวิตเล็กน้อยในบางกรณี เน้นย้ำว่า “อาหารทั้งองค์ประกอบ” เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด เพราะร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาให้ดูดซึมและใช้สารต้านอนุมูลอิสระจากแหล่งธรรมชาติที่มีสารประกอบหลากหลายทำงานร่วมกัน