จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้รับวิกฤตอุทกภัย และพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบหลายจุด และรวมถึงพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังเตรียมรับมือน้ำทะลักท่วม เช่น จังหวัดตรัง พัทลุง สตูล ยะลา และปัตตานี กระทบต่อการดำเนินชีวิต การเดินทาง และการติดต่อสื่อสารของประชาชนหลายพื้นที่
ทรู คอร์ปอเรชั่น ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเบื้องต้นแก่ผู้ใช้บริการในภาคใต้ มอบเน็ตฟรี 10 GB ขยายวันใช้งานผ่านเครือข่ายทรูมูฟ เอช และ ดีแทค สำหรับลูกค้าในพื้นที่หาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงประสบวิกฤต พร้อมทั้งนำ “โมเดลทุ่งสง” ที่ปฏิบัติภารกิจกู้สัญญาณการสื่อสารจากน้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช ขยายแผนเข้าดูแลสัญญาณการสื่อสารในพื้นที่หาดใหญ่ และภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
มาตรการนี้ ช่วยเหลือลูกค้าทั้งแบบรายเดือน (Postpaid) และเติมเงิน (Prepaid) ให้ลูกค้าทรูมูฟ เอช และดีแทค ที่อยู่ในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงสามารถติดต่อสื่อสาร ติดตามสถานการณ์ ขอความช่วยเหลือ และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ลูกค้าเติมเงิน (Prepaid)
- มอบเน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ 7 วัน
- ลูกค้าสามารถกดรับสิทธิ์ได้ที่ กด*900*7162# โทรออก ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
- ขยายวันใช้งานเพิ่มอีก 10 วัน เพื่อป้องกันการถูกระงับบริการ
- ตรวจสอบวันใช้งานลูกค้าทรูมูฟ เอช กด *123# (ฟรี) ลูกค้าดีแทค กด *101# (ฟรี)
ลูกค้ารายเดือน (Postpaid)
- มอบเน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ 7 วัน
- ลูกค้าสามารถกดรับสิทธิ์ได้ที่ กด*900*7162# โทรออก ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
- ขยายระยะเวลาชำระค่าบริการออกไปจนถึง 30 พฤศจิกายน 2568
...
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มมาตรการฉุกเฉินในการติดตามสถานการณ์โครงข่ายในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งภาคใต้ พร้อมเตรียมความพร้อมทีมวิศวกรและอุปกรณ์สำรอง เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการติดต่อสื่อสารของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่น้ำท่วม
รวมทั้งยังมีมาตรการฉุกเฉินเสริมความพร้อมเครือข่าย ได้แก่ การเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่สำรองให้สถานีฐานในพื้นที่เสี่ยงไฟฟ้าดับจากน้ำท่วมโดยเฉพาะหาดใหญ่ การจัดรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (Cell on Wheels: COW) เสริมสัญญาณในจุดวิกฤต การเตรียมรถ 4WD และเรือท้องแบนเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย การจัดทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์สำรองดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานต่อเนื่อง การประสานงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน และการใช้ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC ร่วมกับระบบ AI Network Monitoring ดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง