ถอดรหัส Longevity ทำไม Novak Djokovic ในวัย 38 ปี ถึงยังยืนหนึ่งไม่แพ้นักเทนนิสรุ่นใหม่

ถอดรหัสวิถี Longevity จากนักเทนนิสระดับโลก โนวัค ยอโควิช เลิกทานกลูเตน-เน้นการนอนเป็นหลัก-ฝึกจิตใจ

ในโลกของเทนนิสอาชีพ ยุคสมัยของบิ๊กทรีกำลังจะผ่านพ้นไป หลังหมดยุคของโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และราฟาเอล นาดาล แต่สำหรับโนวัค ยอโควิช ในวัย 38 ปี เขายังทำผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด ทั้งการรับมือกับคาร์ลอส อัลคาราซ นักเทนนิสชาวสเปนในวัย 22 ปี และยานนิค ซินเนอร์ วัย 24 ปี ชาวอิตาลี ได้อย่างสูสี 

อะไรคือความลับที่ทำให้ร่างกายของเขายังคง "อมตะ" และเปี่ยมด้วยพลังงานกันแน่?

คำตอบไม่ใช่ยาวิเศษ หรือยาโด๊ป แต่เป็นวิถีของ Longevity การยืดอายุขัย และชะลอวัย ที่เขาตกผลึกมาจากการรู้จักร่างกายตัวเองอย่างถ่องแท้ และนี่คือ 3 เสาหลักในการใช้ชีวิตของโนวัค ยอโควิช

อาหารคือยา 

ย้อนกลับไปในอดีต ครอบครัวของยอโควิช ทำธุรกิจร้านอาหารอิตาเลียน ดังนั้นแป้งและกลูเตนจึงเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมานาน แต่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2009 เมื่อเขาค้นพบว่าตัวเองมีภาวะแพ้กลูเตน

เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้ยอโควิชตัดสินใจตัด 3 สิ่งออกไปจากชีวิตก็คือ นมวัว, น้ำตาลขัดสี และกลูเตน ซึ่งสามเดือนหลังจากนั้น เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล 

อย่างไรก็ดี ยอโควิชไม่ได้บอกให้ผู้คนทำตามเขาเป๊ะๆ เพราะหัวใจสำคัญในมุมมองของเขาคือ การให้ความสำคัญกับอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง และมีความเข้าใจที่มาของวัตถุดิบ สิ่งนี้คือเชื้อเพลิงสะอาดที่ทำให้ร่างกายลดการอักเสบ และมีพลังงานยืนระยะได้ยาวนาน

ฟื้นฟูร่างกายด้วยการนอน

นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารแล้ว ยอโควิชยังได้ให้ความสำคัญเรื่องการนอนมากขึ้น เพราะการนอนหลับคือเวลาที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมในระดับเซลล์ การให้ความสำคัญกับการนอนจึงเป็นกุญแจสำคัญของการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

ยอโควิชบอกเคล็ดไม่ลับของเขาต่อไปว่า เมื่อระบบการกินเปลี่ยน ระบบหายใจก็ดีขึ้น และเมื่อหายใจได้เต็มปอด คุณภาพการนอน (Sleep Quality) ก็ตามมา โดยเฉพาะเมื่อการหายใจได้เต็มปอด หายใจได้ดี จะไม่รู้สึกคัดจมูก สิ่งที่ตามมาคือ จะเล่นกีฬาได้ดีขึ้น มีพลังมากขึ้น และการนอนหลับได้ลึกขึ้น มันคือวงจรแห่งสุขภาพที่ดี 

ความเชื่อมโยงของกาย-ใจ

ยอโควิชมองว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ระบบมีความเชื่อมโยงกัน โดยไม่สามารถแยกอารมณ์ออกจากร่างกาย และร่างกายออกจากอารมณ์ สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตส่วนตัวย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เขาจึงให้ความสำคัญกับ Mindfulness และการจัดการความเครียด เป็นกระบวนการที่ไม่จบสิ้น เพื่อเรียนรู้และเท่าทันอารมณ์ตัวเอง 

เขาย้ำว่า ถ้าคุณดูแลครบทุกด้าน ทั้งกาย ใจ รวมถึงจิตวิญญาณ ชีวิตคุณจะสมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัว

ที่มา: Business Insider

ภาพ: Novak Djokovic