กระแส “Longevity” หรือ “ศาสตร์แห่งการมีชีวิตที่ยืนยาว” กำลังเป็นเมกะเทรนด์ที่เขย่าโลก ตั้งแต่มหาเศรษฐีใน Silicon Valley ที่ทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาวิธี ชะลอวัย ไปจนถึงวงการแพทย์และเวลเนสทั่วโลกที่กำลังตื่นตัวกับการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ

แต่ท่ามกลางความพยายามที่จะ ยืดอายุขัย หรือ Lifespan ให้แตะหลัก 100 หรือ 120 ปี ความจริงที่สำคัญกว่าซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ “Healthspan หรือ ช่วงเวลาของชีวิตที่ยังมีสุขภาพดี”

คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ “เราจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน” แต่คือ “เราจะมีชีวิตที่แข็งแรงและมีความสุขได้นานแค่ไหน” เพราะคงไม่มีใครอยากมีอายุยืนถึง 100 ปี หาก 20 ปีสุดท้ายต้องป่วยติดเตียง

แล้วคนไทยล่ะ? เรามองเทรนด์ระดับโลกนี้อย่างไร ไทยรัฐโพลได้สำรวจความคิดเห็นและไขรหัสชีวิตของคนไทยในประเด็นนี้ ในหัวข้อ "ถอดรหัสชีวิตยืนยาว คนไทยเตรียมพร้อมแค่ไหนสำหรับสังคมอายุยืน" ที่มีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม  8,199 คน และผลลัพธ์ที่ได้ก็ชัดเจนจนน่าสนใจว่า คนไทยได้เลือกแล้วว่า “คุณภาพ” สำคัญกว่า “ระยะเวลา”

...

เป้าหมายของชีวิต: 70-80 ปี ที่ยังแข็งแรง คือ “คำตอบ”

เมื่อถูกถามว่า “อยากมีอายุถึงกี่ปี หากยังช่วยเหลือตัวเองได้และมีสุขภาพดี” คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการชีวิตที่ยืนยาวเป็นอมตะ แต่เลือกความสมจริงที่จับต้องได้ ดังนี้

  • อันดับ 1 (46.01%): เลือกอายุ 70 - 80 ปี โดยให้เหตุผลว่าต้องการ “ใช้ชีวิตเต็มที่ในช่วงที่ยังแข็งแรง”
  • อันดับ 2 (25.30%): ขอไปต่ออีกนิดที่ 81 - 90 ปี
  • อันดับ 3 (16.86%): กลุ่มที่อยากท้าทายขีดจำกัดวิทยาศาสตร์ที่ 120+ ปี
  • อันดับ 4 (11.83%): ขอแตะหลักไมล์สำคัญที่ 100 ปี

ตัวเลขเกือบครึ่งหนึ่งที่เลือก 70-80 ปี สะท้อนชัดเจนว่า คนไทยไม่ได้มองตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้น แต่โฟกัสที่คุณภาพของช่วงเวลานั้น พวกเขาอยากมีพลังที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มากกว่าการมีชีวิตที่ยืนยาวแต่ไร้ซึ่งพลัง ความกลัวที่แท้จริง ไม่ใช่ความตาย แต่คือการ “ป่วยติดเตียง”

สิ่งที่ตอกย้ำแนวคิด “คุณภาพสำคัญกว่าระยะเวลา” มากที่สุด คือคำตอบของคำถามว่า “อะไรคือความกังวลที่สุดเกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว” โดยความกังวลสูงสุด (31.08%) คือการที่ “อายุขัยยาวกว่าช่วงที่สุขภาพดี” หรือที่เราเรียกกันว่าภาวะ “ป่วยติดเตียง” ตามมาด้วย (24.62%) ที่ “การเงินไม่เพียงพอ” ต่อการใช้ชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และ (16.91%) กลัว “โรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์”

ผลโพลชี้ว่า “ฝันร้าย” ที่สุดของคนไทยไม่ใช่ความตาย แต่คือการมีชีวิตที่ต้องทนทุกข์ ทรมาน หรือเป็นภาระ นี่คือเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงเลือกหยุดอายุขัยไว้ที่ 80 ปี หากนั่นหมายถึงการการันตีว่าพวกเขาจะยังแข็งแรงอยู่

นิยามของ “อายุดี” (Quality of Life) ในวัย 80+

เมื่อเป้าหมายคือ “อายุดี” ไม่ใช่แค่ “อายุยืน” แล้วอะไรคือตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตในวัย 80+ ของคนไทย

ลำดับที่ 1 การยังเคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่ว (48.37%) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบโพลยกให้ “ความคล่องตัว” มาเป็นอันดับหนึ่ง มันหมายถึงอิสรภาพในการใช้ชีวิต การช่วยเหลือตัวเองได้ และการไม่เป็นภาระ

ลำดับที่ 2 การเงินที่มั่นคง (24.70%) เพราะเงินอาจซื้อสุขภาพดี 100% ไม่ได้ แต่เงินคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เข้าถึงการดูแลที่ดี และลดความกังวลในการใช้ชีวิต

ลำดับที่ 3 การมีครอบครัว หรือลูกหลานดูแล (9.61%) ความอบอุ่นทางใจยังคงสำคัญ แม้จะตามหลังเรื่องร่างกายและการเงิน

ลำดับที่ 4 ความจำและความคิดที่ยังเฉียบคม (9.08%) กลัวร่างกายเสื่อมไม่พอ ยังกลัวสมองเสื่อมตามมา

กุญแจสู่ชีวิตยืนยาวและสุขภาพดี ส่วนใหญ่คนไทยพึ่ง “ไลฟ์สไตล์” ไม่ใช่ “นวัตกรรม”

ในเมื่อเป้าหมายชัดเจนแล้ว แล้วคนไทยเชื่อว่า “อะไร” คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะพาพวกเขาไปสู่จุดนั้น ผลสำรวจชี้ว่าคนไทยเชื่อใน “การกระทำของตัวเอง” มากที่สุด

โดยอันดับ 1 (53.72%) มองว่า “ไลฟ์สไตล์” (อาหาร, ออกกำลังกาย, การนอนหลับ) คนไทยเกินครึ่งเชื่อว่าสุขภาพดีสร้างได้ด้วยวินัยในชีวิตประจำวัน ลำดับต่อมาเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันถึง 20.58% คือเรื่องสุขภาพจิต เพราะเชื่อว่าการจัดการความเครียด มีทัศนคติที่ว่าร่างกายดีอย่างเดียวไม่พอ ใจต้องดีด้วย

สภาพแวดล้อมและสังคมที่ดี อยู่ในอันดับ 3 ถึง 15.44% ที่น่าสนใจคือ ปัจจัยอย่าง “นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์” (6.63%) และ “การแพทย์เชิงป้องกัน” (3.63%) กลับรั้งท้ายอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนว่าคนไทยยังคงยึดมั่นในหลักการพื้นฐาน ทำและกินอย่างไร มากกว่าการรอความหวังจากเทคโนโลยีในอนาคต รวมไปถึงค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ยังสูงจนเกิดเป็นความกังวล

...

เมื่อรู้ว่าไลฟ์สไตล์คือคำตอบ คนไทยได้ลงมือทำอะไรเพื่อ “ยืดช่วงเวลาสุขภาพดี” บ้างหรือยัง โดย 44.31% ให้คำตอบว่าได้ลงมือทำแล้ว โดยการออกกำลังกาย และคุมอาหารอย่างเข้มงวด ตามมาด้วย 28.30% ที่อยู่ในระยะ “สนใจ แต่อ่านศึกษาข้อมูลเท่านั้น” ส่วนอีก 13.56% เลือกทางลัด (ทานวิตามิน / อาหารเสริม) และ 8.83% ยังไม่สนใจ และคิดว่าไกลตัว แม้ตัวเลขผู้ลงมือทำจะนำมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีกลุ่มใหญ่เกือบ 30% ที่ยังคง “รู้ แต่ยังไม่ทำ” ซึ่งเป็นช่องว่างสำคัญที่ต้องก้าวข้าม

บทสรุปรหัสชีวิตของคนไทยในอนาคต

ผลสำรวจจากไทยรัฐโพลครั้งนี้ฉายภาพที่ชัดเจนว่า คนไทยในยุคปัจจุบันได้ “ออกแบบ” ชีวิตหลังเกษียณของตนเองไว้แล้ว พวกเขาไม่ได้ปรารถนาชีวิตนิรันดร์ แต่ปรารถนาอิสรภาพทางสุขภาพ

พวกเขาเลือกที่จะมีชีวิตถึง 70-80 ปี ที่ยังเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วเพราะความกลัวสูงสุดคือการป่วยติดเตียง โดยเชื่อว่ากุญแจสำคัญคือไลฟ์สไตล์ที่สร้างได้ด้วยตัวเอง

ทั้งหมดคือเทรนด์ใหม่ของสังคมไทยที่ “คุณภาพ” ได้เอาชนะ “ปริมาณ” และเป้าหมายของชีวิตไม่ได้อยู่ที่การมีอายุยืนอีกต่อไป แต่อยู่ที่การมีอายุดีในทุกวันที่ยังมีลมหายใจ