พายุฟงวองใครตั้งชื่อ เช็กที่มา พร้อมเส้นทางพายุและสถานการณ์ล่าสุด

อัปเดตพายุลูกใหม่ "พายุฟงวอง" ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 26 ของปีนี้ ที่ก่อตัวขึ้น กำลังทวีความรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อหลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ ไทยรัฐออนไลน์สรุปข้อมูลพายุฟงวองใครตั้งชื่อ สถานการณ์ล่าสุดอยู่ที่ไหน เข้าไทยหรือไม่ เช็กได้ที่นี่

ที่มาพายุฟงวองใครตั้งชื่อ

พายุฟงวอง (FUNG-WONG) ความหมาย คือ ฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นชื่อยอดเขาชื่อดังของมณฑลเหลียวหนิง มีลักษณะสูงชัน เส้นทางคดเคี้ยว และค่อนข้างหวาดเสียว ตั้งโดยเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เป็นพายุลูกที่ 26 ของปีนี้

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การตั้งชื่อพายุแต่ละชื่อนั้นจะมาจากภาษาท้องถิ่นของประเทศสมาชิกทั้งหมด 14 ประเทศ ได้แก่ จีน, ไทย, กัมพูชา, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, มาเก๊า, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ, ฟิลิปปินส์, ไมโครนีเซีย, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยประเทศเหล่านี้จะเสนอชื่อคนละ 10 ชื่อ โดยจะใช้ชื่อไปตามลำดับจนครบทั้งหมด

พายุฟงวองเข้าฟิลิปปินส์ ล่าสุดอยู่ที่ไหน

สถานการณ์พายุฟงวองเข้าฟิลิปปินส์อย่างรุนแรง หลังจากมีตำแหน่งศูนย์กลางที่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และเคลื่อนตัวเข้าประชิดชายฝั่งตะวันออกของประเทศ โดยล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาได้อัปเดตเส้นทาง (บ่ายของวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา) ว่ากำลังเคลื่อนเข้าสู่เกาะลูซอล ประเทศฟิลิปปินส์แล้ว

นอกจากนี้ เมื่อพายุเคลื่อนผ่านฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว จะวกกลับ เคลื่อนตัวไปทางเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศทางมุ่งไปยังเกาะไต้หวัน แต่จะเริ่มอ่อนกำลังลงเร็ว เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงประเทศจีนตอนใต้ในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย

พายุฟงวองเข้าไทยไหม เช็กสภาพอากาศไทยล่าสุด

จากเส้นทางพายุล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาประกาศว่า "พายุฟงวองไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย และไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด จึงไม่น่ากังวลและวิตก" อีกทั้งในวันนี้ (10 พฤศจิกายน 2568) ไทยยังไม่มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก 

ทั้งนี้ ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนภาคกลางมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าพายุฟงวองจะไม่เข้าไทย แต่สถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง แนะนำให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา