จากห้องวิจัยสู่ยิมสุดไฮเทค ทำไมซิลิคอน แวลลีย์กำลังทุ่มเงินและไอเดียเพื่อยืด “ช่วงอายุที่แข็งแรง” 

กระแสอยากอยู่ยืนอย่างมีคุณภาพไม่ใช่แค่ความฝันของนักอนาคตศาสตร์อีกต่อไป เมื่อบรรดามหาเศรษฐีสายเทคโนโลยีเริ่มเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทั้งการตั้งบริษัทวิจัย ไปจนถึงพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยา โดยมีเป้าหมายคือชะลอโรคจากความเสื่อมและยืดเวลาที่ร่างกาย-สมองยังทำงานได้เต็มที่ มากกว่าการให้อายุยืนยาวด้วยตัวเลขของอายุ

แซม อัลท์แมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งโอเพนเอไอ
แซม อัลท์แมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งโอเพนเอไอ


ภาพใหญ่ที่เห็นชัดคือ แซม อัลท์แมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งโอเพนเอไอ (OpenAI) ทุ่มเงินกว่า 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้ Retro Biosciences ปั้นภารกิจยืดอายุที่แข็งแรงไปอีก 10 ปี รวมถึงการใช้ชีวิตที่ดีในลักษณะกินดี นอนให้พอ ออกกำลังกายให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว 

...

ทางด้านแลร์รี เอลลิสัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทออราเคิล เคยตั้ง Ellison Medical Foundation ที่เทงบสนับสนุนงานสูงวัยรวมแล้วหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังต่อยอดสู่สถาบันการแพทย์-วิทยาศาสตร์อื่นๆ ไม่ต่างจากแลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล ที่ทำการศึกษาเรื่องความแก่ และการพัฒนายา รวมถึงเซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลอีกหนึ่งคน ซึ่งใช้แรงผลักดันส่วนตัวจากประวัติพันธุกรรมด้านพาร์กินสันส์ ทำให้เขาตัดสินใจทุ่มเงินก้อนโตเพื่อสนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับโรคนี้โดยตรง อีกทั้งยังมีโครงการวิทยาศาสตร์สุขภาพต่างๆ ภายใต้ร่มของบริษัทอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล

ขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และภรรยาพริสซิลลา ชาน ก็มีการผลักดันด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะด้านยีนบำบัด และการผลักดันชีววิทยาสมัยใหม่

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอเมตา
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอเมตา


ส่วนเจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้งแอมะซอน ก็มีการลงทุนในบริษัทด้านการแพทย์ที่มุ่งเน้นงานการฟื้นคืนสภาพเซลล์ (cellular rejuvenation) พร้อมกับวินัยฟิตเนสส่วนตัวที่เข้มข้นไม่แพ้ใคร ซึ่งจะเห็นได้จากกล้ามแขนของเขา

ทั้งหมดนี้สะท้อนประเด็นสองอย่าง นั่นคือ ความพยายามในการรีเซ็ตอายุเซลล์ การเอาชนะเซลล์ที่ชราภาพ อีกด้านหนึ่งคือ การให้ความสำคัญต่อพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เริ่มกลับไปเน้นความเรียบง่าย กินดี นอนดี ออกกำลังกาย และการจัดการความเครียด 

แม้คำตอบสุดท้ายเรื่องการหยุดยั้งความแก่ จะยังอีกไกล และต้องพิสูจน์ทั้งประสิทธิผลและความปลอดภัยในมนุษย์ แต่ผลที่เกิดขึ้นแล้ววันนี้คือเงินทุน ความสนใจสาธารณะ และเศรษฐีระดับโลก เริ่มให้ความสนใจเทคโนโลยีการแพทย์มากขึ้น 

สำหรับคนทั่วไปอย่างเราๆ อาจไม่ต้องมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ใช้วิธีการนอนให้พอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่ดีต่อหัวใจและเมตาบอลิซึม จัดการความเครียด และมีการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ก็อาจยืดอายุ ด้วยการจัดการคุณภาพชีวิตของตัวเอง

ที่มา: Business Insider