ร่างกายของเรามี “โหมดทำความสะอาดตัวเอง” ที่ซ่อนอยู่ และมันถูกเรียกว่า Autophagy (ออโตฟาจี) นี่คือชื่อของกระบวนการมหัศจรรย์ที่ร่างกายใช้ “รีไซเคิล” ตัวเอง ซึ่งเป็นหนึ่งกุญแจสำคัญที่อาจช่วยให้เรารู้สึกอ่อนเยาว์ และแข็งแรงขึ้นจากภายใน
ไทยรัฐออนไลน์ ชวนมาไขความลับว่า Autophagy คืออะไร ทำไมมันถึงสำคัญ และเราจะเปิดสวิตช์ของกลไกนี้ เพื่อมาใช้งานได้อย่างไร
Autophagy คืออะไร
Autophagy มาจากภาษากรีก แปลว่า “การกินตัวเอง” คือ กระบวนการเก็บกวาดบ้านครั้งใหญ่ของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งถ้าเปรียบเซลล์ในร่างกายเป็น “บ้าน” เมื่อเวลาผ่านไปย่อมมี “ขยะ” สะสม ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่เสียหาย ออร์แกเนลล์ที่เสื่อมสภาพ หรือของเสียต่างๆ ที่คั่งค้าง โดยกลไกที่เซลล์จะสร้าง “ถุงขยะ” เรียกว่า Autophagosome ขึ้นมาห่อหุ้มขยะเหล่านี้ จากนั้น ถุงขยะนี้จะถูกส่งไปยัง “เตาเผาขยะ” เรียกว่า Lysosome เพื่อย่อยสลายขยะเหล่านั้นให้กลายเป็นวัตถุดิบตั้งต้น
กระบวนการเหล่านี้ไม่ใช่แค่การทำลาย เพราะความเจ๋ง คือ กระบวนการนี้ในร่างกายจะนำวัตถุดิบดีๆ ที่ได้จากการย่อยสลายนี้ กลับมาใช้ใหม่ เพื่อสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเป็นพลังงานให้กับเซลล์ต่อไป
...
Autophagy กินเซลล์เก่าแล้วดียังไง ทำไมถึงเด็กลง
กระบวนการนี้ไม่ใช่แค่การทำความสะอาด แต่คือการฟื้นฟูร่างกายอย่างแท้จริง ประโยชน์หลักๆ ที่ทำให้กระบวนการนี้ถูกเรียกว่า “เทคนิคย้อนวัย” ประกอบด้วย
- การชะลอความเสื่อม หัวใจสำคัญ เพราะเมื่อเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความเหี่ยวย่น ถูกกำจัดออกไป ร่างกายจะมีพื้นที่และวัตถุดิบในการสร้างเซลล์ใหม่ที่สดใสและทำงานได้ดีขึ้น
- ลดการอักเสบเรื้อรัง ขยะเซลล์ที่สะสมเป็นเวลานาน มักเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบซ่อนเร้นในร่างกาย ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายหลายชนิด
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน Autophagy ช่วยกำจัดเชื้อโรค เช่น ไวรัสและแบคทีเรีย ที่บุกรุกเข้ามาในเซลล์ได้
- สมองทำงานดีขึ้น มีงานวิจัยพบว่า Autophagy ช่วยกำจัดโปรตีนพิษในสมองที่อาจเป็นสาเหตุของโรคความจำเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ได้
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ที่เหมือนเครื่องยนต์ที่ได้รับการถ่ายน้ำมันเครื่อง เซลล์ที่สะอาดก็จะทำงานและผลิตพลังงานได้ดีขึ้น
การเปิดสวิตช์ Autophagy กินเซลล์เก่าในร่างกายทำยังไง
เราสามารถกระตุ้นหรือ “เปิดสวิตช์” ให้ร่างกายเข้าสู่โหมด Autophagy ได้บ่อยขึ้นและนานขึ้น ผ่านการปรับไลฟ์สไตล์ โดยวิธีที่ทรงพลังที่สุด มีดังต่อไปนี้
1. การอดอาหารเป็นช่วงๆ (Intermittent Fasting - IF)
วิธีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด เมื่อร่างกายไม่ได้รับอาหารจากภายนอก (โดยเฉพาะน้ำตาลและโปรตีน) เป็นเวลาหนึ่ง ร่างกายจะ “สับสวิตช์” จากโหมด “สะสม” เป็นโหมด “ซ่อมแซม”
เมื่อระดับอินซูลินลดลง และระดับกลูคากอนสูงขึ้น ร่างกายจะเริ่มมองหาพลังงานจากภายใน ซึ่งก็คือการเริ่มกินเซลล์เก่าๆ ที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ การทำ IF เช่น สูตร 16/8 (อด 16 ชั่วโมง, กิน 8 ชั่วโมง) จึงเป็นวิธียอดนิยมในการกระตุ้น Autophagy
2. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบเข้มข้น หรือแบบทนทาน จะทำให้เซลล์เกิดความเครียดเชิงบวก ร่างกายจะตอบสนองด้วยการเริ่มกระบวนการซ่อมแซมและทำความสะอาดตัวเอง เพื่อให้กล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ แข็งแรงขึ้น
3. การนอนหลับที่มีคุณภาพ
ร่างกายใช้เวลาตอนเราหลับในการซ่อมแซมตัวเองมากที่สุด การนอนหลับลึกที่มีคุณภาพจะช่วยส่งเสริมให้กระบวนการ Autophagy (โดยเฉพาะในสมอง) ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ปี 2016 ดร. โยชิโนริ โอซุมิ (Yoshinori Ohsumi) ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ จากการค้นพบกลไกของ Autophagy ซึ่งยืนยันว่ามันเป็นกระบวนการที่สำคัญต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตอย่างแท้จริง Autophagy จึงไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นกลไกการซ่อมแซมตัวเองที่ฉลาดที่สุด ที่ธรรมชาติมอบให้แก่ร่างกาย ดังนั้นการเข้าใจและรู้จักวิธีเปิดสวิตช์นี้ ก็เหมือนกับการช่วยให้ร่างกายรีเซ็ตระบบใหม่ กำจัดของเสีย และสร้างพื้นที่ให้เซลล์ใหม่ที่แข็งแรงได้เติบโต ผลลัพธ์คือร่างกายที่เสื่อมช้าลง และอาจทำให้เรารู้สึกเด็กทั้งกายและใจอย่างแท้จริง