อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ผ่านทั้งเวทีเพาะกาย ฮอลลีวูด และการเมืองมาแล้ว แต่ความท้าทายที่ใหญ่กว่าบทเทอร์มิเนเตอร์ หรือเพรดเดเตอร์ คือการแก่ไปอย่างมืออาชีพ

อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ วันนี้เขาอายุ 78 ปีแล้ว ผ่านทั้งอุบัติเหตุจากการเล่นสกี ชั่วโมงยกเหล็กอันยาวนาน และงานแอ็กชั่นสุดโหด จนร่างกายสะสมทั้งอาการเจ็บ และการผ่าตัด ตั้งแต่เปลี่ยนสะโพกไปจนถึงผ่าตัดหัวใจหลายครั้ง เจ้าตัวยอมรับตรงไปตรงมาว่า ร่างกายไม่ได้ถูกออกแบบให้รับทุกอย่างแบบนั้น ทว่าพลังชีวิตของเขายังทะยานเหมือนเดิม ทั้งในฟิตเนส และในสายตาสาธารณะ

หนังสือ Be Useful ผลงานฉบับงานเขียนของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์
หนังสือ Be Useful ผลงานฉบับงานเขียนของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์


ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ยังคงเป็นนักสื่อสารเรื่องสุขภาพชั้นยอด เขาออกหนังสือ Be Useful มีสารคดีใน Netflix เปิดตัวแอปฟิตเนสของตัวเองชื่อ The Pump และคุยกับผู้ติดตามกว่า 30 ล้านคนผ่านโซเชียลมีเดีย จดหมายข่าว และช่องทางพอดแคสต์ 

...

แนวคิดของอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เน้นที่ความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง เริ่มจากให้กำลังใจตัวเอง รักษาวินัย และเฉลิมฉลองในชัยชนะเล็กๆ ทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกาย ล่าสุดเขาจับมือบริษัทอุปกรณ์การแพทย์ Zimmer Biomet กับแคมเปญ You’ll Be Back ในบทบาท Chief Movement Officer เพื่อย้ำว่าความเจ็บปวดไม่ควรเป็นกำแพงขวางการเคลื่อนไหว

อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ในช่วงที่ยังออกกำลังกายอย่างยาวนานมาราธอน
อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ในช่วงที่ยังออกกำลังกายอย่างยาวนานมาราธอน


หัวใจของความเป็นไอคอนอายุยืนของอาร์โนลด์อยู่ที่การปรับตัวอย่างฉลาด เขาเลิกยกเหล็กมาราธอนวันละห้าชั่วโมง เหลือแค่ประมาณ 90 นาทีต่อวัน พร้อมกับเปลี่ยนจากบาร์เบลหนักๆ เป็นเครื่องฝึกต้านทาน และปั่นจักรยานเพื่อลดแรงกระแทกต่อไหล่และเข่า เขาย้ำเสมอว่าเครื่องไม่ได้ดีกว่าฟรีเวท สำหรับคนเริ่มต้นและยังแข็งแรง ควรเรียนรู้การควบคุมร่างกายผ่านดัมเบล บาร์เบล หรือเคตเทิลเบลก่อน แต่เมื่อเวลาเดินไปและข้อต่อเริ่มประท้วงร่างกาย การใช้เครื่องออกกำลังกายคือทางเลือกที่ชาญฉลาด

แม้จะลดดีกรีความโหดในการออกกำลังกาย แต่เขายังยึดหลักการเดิม อย่าสลับซับซ้อนเกินจำเป็น ยืนพื้นด้วยท่าพื้นฐานอย่างสควอต เดดลิฟต์ โรว์ เบนช์เพรส และท่าโปรดตลอดกาลของเขาคือคลีนแอนด์เพรส เพราะทำให้ทั้งร่างกายทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ดี เขาเน้นความสม่ำเสมอ ในทุกวันเขาเวทประมาณยี่สิบห้าเซ็ตและคาร์ดิโอราวสี่สิบห้านาที จะมีหลุดบ้างก็แค่ปรับ ไม่ใช่หยุด อย่างวันที่ยางรถจักรยานรั่ว เขาก็เปลี่ยนครึ่งหนึ่งของคาร์ดิโอเป็นการเดินกลับบ้านแทน

การปรับตารางการออกำลังกายของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เปลี่ยนไปตามวัย
การปรับตารางการออกำลังกายของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เปลี่ยนไปตามวัย


วิธีการกินของอาร์โนลด์ก็สะท้อนหลักคิดเดียวกัน เขาลดโปรตีนเชคและลดการกินเนื้อ หันไปสู่โปรตีนจากพืชเป็นหลักราว 70% เพื่อควบคุมคอเลสเตอรอล แต่ไม่ได้เคร่งจนกดดันตัวเอง เวลาเดินทางเขายังกินพาสต้าในโรมหรือชนิทเซิลในเยอรมนีได้ตามใจ แล้วกลับมาคุมคุณภาพอาหารในชีวิตประจำวันและขยับให้มากขึ้น 

...

บทเรียนสำคัญอีกข้อคืออย่าปล่อยให้ความเจ็บกลายเป็นวงจรเสื่อม เขาเตือนว่าเมื่อเริ่มเจ็บแล้วหยุดทำกิจกรรม สุดท้ายจะทำได้น้อยลงเรื่อยๆ ทางออกที่ถูกต้องคือ “แก้ให้ไว” ไม่ฝืน ไม่เพิกเฉย ไม่ว่าจะเป็นอาการที่หลังหรือข้อต่อก็ตาม ยิ่งจัดการเร็ว ยิ่งกลับมาเคลื่อนไหวได้ไว และนั่นคือแก่นของคำพูดที่เขามักจะพูดเสมอ ว่า “Movement is life” หยุดขยับเมื่อใด ก็เหมือนเริ่มเดินเข้าสู่จุดจบของสมรรถนะทางร่างกายทันที

คาร์ดิโอง่ายๆ สไตล์คนเหล็ก
คาร์ดิโอง่ายๆ สไตล์คนเหล็ก "ปั่นจักรยาน"


ทุกวันนี้ เราสามารถกล่าวได้ว่า อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กำลังนิยามความแก่รูปแบบใหม่ให้ชัดเจนขึ้น มันไม่ใช่การฝึกเป็นยอดมนุษย์ แต่เน้นการทำพื้นฐานให้ดีอย่างต่อเนื่อง ปรับการฝึกให้สอดคล้องกับข้อจำกัด ดูแลหัวใจและข้อต่อ และเมื่อเจ็บ แก้มันเสียตั้งแต่วันนี้ 

ถ้าจะสรุปเป็นประโยคเดียวสำหรับคนที่อยากมีอายุยืนแบบใช้งานได้จริง เขาคงบอกว่า “อย่าหยุดเคลื่อนไหว” และปล่อยให้การเคลื่อนไหวทุกวันเล็กๆ เป็นหลักฐานของความยืนยาว

...

ที่มา: Business Insider [1], [2]

ภาพ: Arnold [1], [2], [3]