วันฤกษ์ดีมาถึงแล้วกับ เทศกาลดิวาลี (Diwali) หรือ เทศกาลแห่งแสงสว่าง" ซึ่งเปรียบเหมือนวันขึ้นปีใหม่ของชาวอินเดีย
เทศกาลดิวาลี ถือเป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าองค์เทพจะประทานพรได้ดีที่สุด โดยเฉพาะ "พระแม่ลักษมี" (เทพีแห่งความมั่งคั่ง) และ "พระพิฆเนศ" (เทพแห่งความสำเร็จ) ที่ผู้คนจะนิยมบูชาคู่กัน (ลักษมี-คเณศ ปูชา) เพื่อขอพรรับความสำเร็จและความมั่งคั่ง และปีนี้ก็ยิ่งใหญ่กว่าเดิมโดย ททท. ร่วมกับ กทม. ได้จัดงาน "Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025" ที่จัดเต็มแสงสีเสียงตระการตาบริเวณพาหุรัด-คลองโอ่งอ่างในวันที่ 16 - 31 ตุลาคม 2568 นี้
ไทยรัฐออนไลน์ มาร่วมเปิดลายแทงมูรับแสงแห่งชีวิต ที่จะพาทุกคนไปไหว้ 3 พิกัดเทพสถานศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้เคียงงาน เพื่อรับสิริมงคลให้เต็มที่ แล้วค่อยไปเดินเที่ยวชมไฟสวยๆ กันต่อในงาน Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025
ปักหมุด 3 สถานที่สำคัญ ที่สายมูห้ามพลาดเด็ดขาดในช่วงเทศกาลดิวาลี
- พิกัดที่ 1: วัดเทพมณเฑียร (ศูนย์รวมมหาเทพ พลังแห่งพระแม่ลักษมี) ชั้น 3 อาคารเทพมณเฑียร (ใกล้ รร.เบญจมราชาลัยฯ) เวลาเปิด-ปิด ตั้งแต่ วันจันทร์–วันศุกร์ 06.00–20.00 น. และ เสาร์–อาทิตย์ 08.30–20.30 น.
เริ่มต้นที่จุดศูนย์รวมศรัทธากว่า 100 ปี ที่นี่เปรียบเสมือน "บ้านขององค์เทพ" ที่เปี่ยมไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เพราะปฏิมากรรมหินอ่อนทั้งหมดอัญเชิญมาจากอินเดียโดยตรง
โดยมีองค์ประธาน คือ "พระนารายณ์" และ "พระแม่ลักษมี" ซึ่งประดิษฐานเคียงคู่กัน เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาขอพร "ลักษมี-คเณศ ปูชา" ในช่วงดิวาลีนี้ โดยการบูชาพระนารายณ์ ถือเป็นการขอพรความสำเร็จ การปกป้องคุ้มครอง และพระแม่ลักษมี ที่ขอพรด้านโชคลาภ ความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรือง
...
สิ่งสำคัญ คือ ต้องเริ่มต้นด้วยการสักการะพระพิฆเนศ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเป็นลำดับแรกเสมอ เพื่อเป็นการเปิดทางแห่งความสำเร็จ ขจัดอุปสรรคทั้งปวง พร้อมมูต่อได้ที่ พระศิวะ, พระพรหม, พระแม่ทุรคา, พระกฤษณะ-พระแม่ราธา และศิวลึงค์ ให้สักการะครบจบในที่เดียว
- พิกัดที่ 2: เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ (รากเหง้าแห่งรัตนโกสินทร์) ถนนบ้านดินสอ ย่านเสาชิงช้า เวลาเปิด-ปิด ทุกวัน 09.00 - 16.30 น.
ขยับมาที่ย่านเสาชิงช้า ที่นี่คือศูนย์กลางของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู แห่งราชสำนักไทย สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และเข้มขลังที่สุดแห่งหนึ่ง
จุดเด่นคือสถาปัตยกรรมแบบโบสถ์ 3 หลัง แยกกันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสถานพระพิฆเนศ (โบสถ์กลาง) ที่มีไฮไลต์คือ พระพิฆเนศ 3 องค์ ที่เป็นโลหะโบราณตั้งแต่สมัยสุโขทัย เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาขอพรด้านปัญญา การเริ่มต้นสิ่งใหม่ และการเรียนการงาน ต่อด้วยสถานพระอิศวร สักการะพระศิวะ มหาเทพผู้ทำลายสิ่งชั่วร้าย (ปางประทานพร และปางนาฏราช) และปิดจบด้วยสถานพระนารายณ์ (พระวิษณุ) ร่วมสักการะพระนารายณ์ ผู้ปกปักษ์รักษาความสมดุล
- พิกัดที่ 3: เทวลัยพระวิษณุ บริเวณเกาะกลางถนน บริเวณสี่แยกวัดสุทัศน์ฯ
จุดมูที่สาม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโบสถ์พราหมณ์ ที่นี่เป็นเทวาลัยกลางแจ้งที่สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะได้สะดวก โดยมีองค์พระนารายณ์ (พระวิษณุ) แกะสลักจากหินอ่อนในปางประทับบนอนันตนาคราชที่งดงามมาก ที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องขอพร ด้านความคุ้มครอง ปกปักษ์รักษา ความเป็นสุข และความสำเร็จ สามารถแวะสักการะได้ง่าย อยู่บริเวณเกาะกลางถนน เป็นจุดที่คนนิยมมาไหว้ขอพรอย่างต่อเนื่อง
หลังจากไหว้เทพมงคลครบทั้ง 3 พิกัด รับพลังบวก รับสิริมงคลกันเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเฉลิมฉลอง ที่งาน "Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025" บริเวณพาหุรัดและคลองโอ่งอ่าง ที่ตอนนี้ประดับไฟ "Art Wall" และมีกิจกรรมมากมายไปตั้งแต่วันที่ 16 - 31 ตุลาคม 2568 นี้ เรียกได้ว่านี่เป็น One Day Trip ที่ครบรส ทั้งอิ่มบุญ อิ่มตา และยังสามารถแวะไปอิ่มท้องกับขนมมงคลและอาหารอินเดียในย่านพาหุรัดต่อได้เลย
ข้อมูล และภาพ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย