โครงการ "คนละครึ่งพลัส 2568" กลับมาให้ลงทะเบียนอีกครั้งในวันนี้ (20 ตุลาคม 2568) และหัวใจสำคัญในการใช้สิทธิก็คือแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยเฉพาะส่วนที่เรียกว่า G-Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เราต้องเติมเงินเข้าไป เพื่อใช้สแกนจ่ายคู่กับสิทธิที่ได้รับจากรัฐบาล (รัฐช่วย 50% เราจ่าย 50% ผ่าน G-Wallet)
G-Wallet (จี-วอลเล็ท) คืออะไร ทำไมจำเป็นสำหรับ "คนละครึ่งพลัส 2568"
G-Wallet คือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่อยู่ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง หน้าที่หลักของ G-Wallet ในปัจจุบันคือการเป็น "กระเป๋าเงินฝั่งของเรา" สำหรับใช้จ่ายในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะ "คนละครึ่งพลัส 2568" นอกจากนี้ G-Wallet ยังเปรียบเสมือนกระเป๋าเงินออนไลน์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสดได้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้การใช้จ่ายสะดวก รวดเร็ว และลดการสัมผัส ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด
G-Wallet ในแอปเป๋าตัง ทำอะไรได้บ้าง
หลังจากเปิดใช้งาน G-Wallet เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดังนี้
- ใช้สิทธิตามมาตรการรัฐ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส 2568
- ชำระค่าสินค้าและบริการ สแกน QR จ่ายเงินที่ร้านค้า "ถุงเงิน" (ร้านค้าที่รับสแกนจ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง)
- โอนเงินเข้า-ออกบัญชีธนาคาร
- เติมเงินมือถือระบบต่างๆ
- จ่ายบิลชำระบิลค่าน้ำ ค่าไฟ และบิลอื่นๆ
วิธีเปิดใช้งาน G-Wallet รับสิทธิคนละครึ่งพลัส 2568
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" (Paotang) ติดตั้งบนสมาร์ทโฟน
- เปิดแอปฯ และตั้งรหัสผ่าน (PIN) 6 หลัก
- เลือกแถบเมนูบริการ G-Wallet และกดยอมรับเงื่อนไข
- เลือกวิธีการยืนยันตัวตน (เช่น ยืนยันผ่าน Krungthai NEXT หรือ สแกนใบหน้า)
- ทำตามขั้นตอนกรอกรายละเอียดและยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย
- เมื่อสำเร็จ ก็สามารถเริ่มใช้งาน G-Wallet ได้เลย
...
การเติมเงินเข้า G-Wallet เตรียมใช้คนละครึ่งพลัส 2568
ปัจจุบันสามารถเติมเงินเข้า G-Wallet ได้ 4 ช่องทางหลัก เพื่อเตรียมใช้สิทธิ "คนละครึ่งพลัส 2568" ดังนี้
ช่องทางที่ 1 : เติมผ่าน Mobile Banking (แอปฯ ธนาคาร) โดยใช้ G-Wallet ID
1. คัดลอกรหัส G-Wallet ID (เลข 15 หลัก) ของคุณจากแอปเป๋าตัง
2. ไปที่แอปฯ ธนาคาร เลือกเมนู "เติมเงิน" (Top-up) หรือ "เติมเงิน e-Wallet/พร้อมเพย์"
3. วางเลข G-Wallet ID 15 หลัก และใส่จำนวนเงินที่ต้องการเติมแล้วยืนยัน
ช่องทางที่ 2 : เติมผ่าน QR Code
1. เข้าไปที่แอปเป๋าตัง และสร้าง QR Code สำหรับรับเงิน
2. บันทึก QR Code นั้น
3. เปิด Mobile Banking ของธนาคารใดก็ได้ แล้วเลือกเมนู "สแกน"
4. สแกน QR Code ที่บันทึกไว้ หรือเลือกจากอัลบั้มรูป
5. ใส่จำนวนเงินและกดยืนยัน
ช่องทางที่ 3 : เติมผ่านตู้ ATM
1. ไปที่ตู้ ATM ของธนาคาร (เช่น กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย ฯลฯ)
2. เลือกเมนู "เติมเงิน" หรือ "โอนเงิน"
3. เลือก "เติมเงิน G-Wallet" หรือ "เติมเงิน e-Wallet"
5. กรอก G-Wallet ID 15 หลัก และจำนวนเงิน
ช่องทางที่ 4 : เติมผ่านแอปฯ Krungthai NEXT (สำหรับผู้มีบัญชีกรุงไทย)
แอปเป๋าตัง เมื่อกด "เติมเงิน" และเลือก "ธนาคารกรุงไทย" ระบบจะเชื่อมไปที่แอป Krungthai NEXT ให้คุณใส่จำนวนเงินและยืนยันได้ทันที
ขั้นตอนการเติมเงิน G-Wallet แบบละเอียด
- เปิดแอป เป๋าตัง เลือกแถบเมนู G-Wallet
- ที่หน้าหลัก G-Wallet (จะเห็นชื่อ-นามสกุล และยอดเงินคงเหลือ) ให้กดปุ่ม "เติมเงินเข้า G-Wallet"
- เลือกธนาคารที่คุณต้องการใช้โอนเงินเข้า (เช่น กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ ฯลฯ)
- แอปจะแสดงช่องทางการเติมเงิน ให้เลือก "เติมเงินผ่าน QR Code" (หรือ QR รับเงิน)
- ระบบจะสร้าง QR Code ประจำตัว G-Wallet ของคุณขึ้นมา ให้กด "บันทึก QR" (รูปจะถูกเก็บในอัลบั้มมือถือ)
- สลับไปเปิด แอปฯ Mobile Banking ของธนาคารที่คุณต้องการใช้โอนเงิน (เช่น K PLUS, SCB EASY)
- เลือกเมนู "สแกน" หรือ "สแกน QR"
- กดที่ "ไอคอนรูปภาพ" เพื่อเลือกรูปจากอัลบั้ม และเลือกรูป QR Code ที่คุณบันทึกไว้เมื่อครู่
- แอปฯ ธนาคารจะแสดงข้อมูลผู้รับ (ชื่อ-นามสกุลของคุณ และ G-Wallet ID)
- ใส่จำนวนเงิน ที่ต้องการเติม (เช่น 500 บาท) และกดยืนยันการโอน
- เมื่อโอนเงินสำเร็จ ให้กลับไปที่แอป เป๋าตัง จะพบว่ายอดเงินใน G-Wallet อัปเดตเรียบร้อย
เพียงเท่านี้ G-Wallet ของคุณก็พร้อมสำหรับใช้จ่ายในโครงการ "คนละครึ่งพลัส 2568" แล้ว แนะนำให้เติมเงินเตรียมไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาใช้สิทธิจะได้สแกนจ่ายได้อย่างรวดเร็ว โดยเงินที่เติมเข้าไปหากใช้ไม่หมด ก็จะคงอยู่ใน G-Wallet สำหรับใช้จ่ายครั้งต่อไปได้
ข้อมูล : krungthai