กินเจ 2568 เริ่มตั้งแต่วันที่ 21-29 ตุลาคม 2568 ส่วนข้อห้ามกินเจมีอะไรบ้างนั้น เรารวมมาให้แล้ว
ตามปฏิทินจันทรคติจีนช่วงเทศกาลกินเจจะตรงกับขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ไปสิ้นสุดในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 สำหรับปีนี้ เทศกาลกินเจ 2568 เริ่มตั้งแต่วันที่ 21-29 ตุลาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 9 วัน โดยในบางพื้นที่เวลาอาจจะต่างกันเล็กน้อย อาจจะเริ่มก่อน หรือสิ้นสุดช้ากว่า
กินเจ ห้ามกินอะไรบ้าง
ข้อห้ามหลักๆ ในการกินเจ มีหลายประการ โดยเน้นที่การงดเว้นเพื่อความบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ได้แก่
1. ห้ามกินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด ได้แก่
- เนื้อสัตว์ทุกชนิด เช่น หมู วัว ไก่ ปลา อาหารทะเล ฯลฯ
- ไขมันสัตว์, ไข่, นม, เนย
- น้ำผึ้ง
2. เครื่องปรุงรสที่มีส่วนผสมจากสัตว์ เช่น น้ำปลา, น้ำมันหอย, ซอสที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์หรือกระดูก รวมถึงห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด หรือ "ผัก 5 อย่าง" ได้แก่
- กระเทียม เช่น หัวกระเทียม, ต้นกระเทียม
- หัวหอม เช่น ต้นหอม, ใบหอม, หอมแดง, หอมหัวใหญ่
- กุยช่าย
- หลักเกียว เป็นพืชตระกูลหอม คล้ายกระเทียมโทนจีน
- ใบยาสูบ รวมถึงการสูบบุหรี่ และของเสพติดมึนเมา
เพราะเชื่อว่าผักเหล่านี้มีกลิ่นรุนแรงและมีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์และกามราคะ ทำให้จิตใจไม่สงบ และทำลายพลังธาตุในร่างกาย
...
3. ห้ามดื่มสุราและของมึนเมาทุกชนิด เช่น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า, เบียร์, ไวน์ และของเสพติดทุกชนิด เพื่อรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์และมีสติ
4. ห้ามกินอาหารรสจัด เช่น
- รสเผ็ดจัด, หวานจัด, เปรี้ยวจัด, เค็มจัด เพราะเชื่อว่ารสจัดจะไปกระตุ้นต่อมต่าง ๆ ของร่างกายและทำลายพลังธาตุ ทำให้จิตใจไม่สงบ
5. ข้อปฏิบัติอื่น ๆ ที่ควรระวัง ได้แก่
- ห้ามใช้ภาชนะปะปนกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ ควรใช้ภาชนะสำหรับอาหารเจโดยเฉพาะ
- รักษาศีล 5 และประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม
- แต่งกายด้วยชุดขาว หรือสีขาว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ซึ่งข้อนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ใช่ข้อห้ามที่เคร่งครัดเท่าการงดอาหารบางชนิด
- ไม่พูดคำหยาบ หรือคิดร้ายต่อผู้อื่น
ดังนั้นการกินเจจึงไม่ใช่แค่การงดเนื้อสัตว์ แต่เป็นการถือศีล บำเพ็ญตน และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ควบคู่กันไป
อย่างไรก็ตาม หาก “เจแตก” หรือเผลอรับประทานอาหารที่เป็นข้อห้ามกินเจในระหว่างที่ถือศีลอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (ไข่ นม น้ำปลา), ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด, สุราและของมึนเมา ก็ยังสามารถกลับมากินเจต่อได้
เนื่องจากแก่นแท้ของการกินเจคือ ความตั้งใจที่ดีที่จะละเว้นการเบียดเบียนและการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ดังนั้นหากเผลอหรือไม่ได้ตั้งใจ ให้ถือว่าเป็นการผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปแล้ว แล้วกลับมาตั้งใจใหม่ ด้วยการกินเจต่อตามปกติ เพื่อให้การถือศีลดำเนินต่อไปจนครบตามกำหนด การเลิกกินเจไปเลยเพราะ "เจแตก" เพียงครั้งเดียว ถือเป็นการเสียดายความตั้งใจเดิม
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเจแตกโดยไม่ตั้งใจ คือให้ตั้งจิตสำนึกผิดและตั้งใจว่าจะระมัดระวังให้มากขึ้นในมื้อต่อไป แล้วกลับมากินเจต่อได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มนับวันใหม่ตั้งแต่ต้น