กรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองที่เดินแล้วสนุกเสมอ ทั้งวัดเก่า คาเฟ่ใหม่ ห้างล้ำ และสตรีทฟู้ดข้างทางที่หอมตั้งแต่หัวมุมถนนไปจนถึงปากซอย 

จากการสแกนบทสนทนาโดยโซเชียลมีเดียด้วย dxt:360 ตั้งแต่ 22 ก.ค.–22 ก.ย. 2568 โดย Dataxet ตอกย้ำว่าความป๊อปของ “ย่าน” ต่างๆ ไม่ได้วัดกันที่แลนด์มาร์กอย่างเดียว แต่คือสไตล์การเที่ยวที่สะท้อนตัวตนของคนเมืองยุคนี้

ย่านที่มาแรงที่สุดในกรุงเทพฯ
ย่านที่มาแรงที่สุดในกรุงเทพฯ


ภาพรวมยังคงชัดเจน ย่านสุขุมวิทนำโด่งด้วยสัดส่วนการเอ่ยถึง 33 เปอร์เซ็นต์ เมืองในเมืองที่ครบหมด ตั้งแต่ EmDistrict–Terminal 21 ไปจนถึงสวนเบญจกิติสำหรับวิ่งยามเย็น แล้วค่อยแวะทองหล่อ–เอกมัย ฮอปคาเฟ่บาร์ที่เปิดถึงดึก ขณะที่ พระนครยังหวานใจสายประวัติศาสตร์ มีตัวเลขการกล่าวถึง 27.8 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเสน่ห์พระบรมมหาราชวัง วัดโพธิ์ ภูเขาทอง ไปจนถึงเสาชิงช้าและท่ามหาราชที่เย็นย่ำทีไรวิวก็รู้สึกดีทุกครั้ง

เยาวราชพื้นที่สตรีทฟู้ดในตำนาน
เยาวราชพื้นที่สตรีทฟู้ดในตำนาน

...


ฝั่งสยาม รับบทศูนย์กลางแฟชั่น–พิพิธภัณฑ์ (8.6 เปอร์เซ็นต์) เดินจากบีทีเอสไปยังสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี แล้วตัดซอยเข้าหอศิลป์กรุงเทพฯ จิบกาแฟสักแก้วก่อนค่อยไปต่อ ส่วนเยาวราช ยังคือเวทีใหญ่ของสตรีทฟู้ด (7.9%) แวะถ่ายรูปที่ถนนทรงวาดเสร็จ ค่อยไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่ เรียบง่ายแต่ลงตัว

กลางคืนอยากแฮงเอาต์ รัชดา–ห้วยขวาง ก็ตอบโจทย์ (7.3%) ขณะที่ ลาดพร้าว (5.7%) คือความชิลครบวงจร โดยมีเซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์ และสวนจตุจักร สวนรถไฟที่ชวนปูเสื่อในบ่ายดีๆ วันอาทิตย์ 

ทางด้านสีลม–สาทร (5.2%) ยังคงมีจุดเด่นที่ร้านกาแฟระดับ Fine Dining และ Rooftop จากมหานครถึง One Bangkok และโปรเจ็กต์ใหม่อย่าง Dusit Central Park ปิดท้ายด้วย ดุสิต (4.5%) ที่ร่มรื่นและคลาสสิก วัดเบญจมบพิตร พระที่นั่งอนันตสมาคม และวังเก่าที่เล่าเรื่องเมืองได้อย่างงดงาม

เที่ยวแบบไหนโดนใจสายทัวร์
เที่ยวแบบไหนโดนใจสายทัวร์


เมื่อดูแนวเที่ยวที่ดึงเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) สูงสุด ภาพก็ยิ่งชัดว่า Gen Z  และ Millennial นิยมเที่ยวแบบ Lifestyle & Café Hopping ถึง 65.2 เปอร์เซ็นต์ ความสวยงามแบบ Instagrammable และมุมถ่ายรูปที่เล่าอัตลักษณ์คือหัวใจ 

ต่อมาคือ Shopping & Urban Life 24.6 เปอร์เซ็นต์ ที่เน้นความสะดวก ทำหลายอย่างได้ในวันเดียว ส่วน Experience & Creative Activity 5.2 เปอร์เซ็นต์ แม้เป็นกลุ่มเฉพาะ แต่น่าจับตาเพราะเติบโต เวิร์กช็อป งานอาร์ต คอนเสิร์ตที่ “ได้ทำ” มากกว่าดูเฉยๆ ยังคงดึงดูดเสมอ 

ด้าน Culture 3.4 เปอร์เซ็นต์ และ Nature 1.6 เปอร์เซ็นต์ อาจไม่ใช่กระแสหลัก แต่ยังเป็นที่พึ่งทางใจของคนที่ชอบเดินช้าๆ เข้าใจเมืองผ่านวัด พิพิธภัณฑ์ และพื้นที่สีเขียว

พฤติกรรมบนโลกโซเชียล
พฤติกรรมบนโลกโซเชียล


แพลตฟอร์มที่ผู้คนเสพคอนเทนต์เที่ยวก็มีบุคลิกชัดเจน TikTok กินสัดส่วนเอ็นเกจเมนต์ 58 เปอร์เซ็นต์ เพราะวิดีโอสั้นสร้างแรงบันดาลใจได้เร็วมาก ตามด้วย Facebook 30 เปอร์เซ็นต์ ที่คนยังใช้ปรึกษา รีวิวก่อนวางแผนทริป Instagram 7 เปอร์เซ็นต์ เหมาะเก็บภาพและรีลสวยๆ ส่วน YouTube 2 เปอร์เซ็นต์ รับหน้าที่เล่าเรื่องยาวแบบลงรายละเอียดจริงจัง ส่วนที่เหลือ 3 เปอร์เซ็นต์ กระจายบน X และ Pantip

...

จากพฤติกรรมนี้ จึงเกิดวัฏจักรที่ชัดเจน ค้นพบแรงบันดาลใจบน TikTok, ไปคุย–ถาม–ขอคำแนะนำใน Facebook, ตัดสินใจด้วยรีวิวยาวบน YouTube แล้วค่อยกลับมา “ส่งต่อ” ความทรงจำบน Instagram วงจร 4D ได้แก่ Discover > Discuss > Decide > Deliver หมุนไปเรื่อยๆ เมื่อโพสต์ของเรา กลายเป็นจุดเริ่มต้นของใครอีกคน

เสียงของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังดังชัดเจน คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ของการกล่าวถึงทั้งหมด พวกเขาหลงรักทั้งแลนด์มาร์ก โรงแรม สตรีทฟู้ด นวดแผนไทย และชื่นชมความสะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะสถานที่ที่แนบแน่นกับรถไฟฟ้าและรถใต้ดิน นี่คืออีกเหตุผลว่าทำไมบางย่านจึงติดเทรนด์แบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สวนเบญจกิติ
สวนเบญจกิติ


เหนือสิ่งอื่นใด กรุงเทพฯ ยังมี “มุมที่ต้องออกไปเจอเอง” ซ่อนอยู่เสมอเช่นในตรอกเล็กๆ ในพระนครที่โชว์สตรีทอาร์ตกับกรงหน้าต่างเหล็กดัดลายเก่า ซอยลึกในเยาวราชที่มีก๋วยเตี๋ยวโบราณรสยาวนาน คาเฟ่วินเทจในสุขุมวิท–ทองหล่อ บาร์ดีไซน์ที่ทำให้ค่ำคืนอ่อนนุ่ม หรือเช้าวันหยุดที่สวนเบญจกิติและสวนรถไฟซึ่งแดดลอดยอดไม้กำลังดี เรื่องราวเล็กๆ แบบนี้ เมื่อถูกเล่าด้วยภาพสวยและข้อความพอดีๆ มักกลายเป็นเช็กอินใหม่ในเวลาไม่นาน

...

สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายฮอป สายชอป หรือสายพิพิธภัณฑ์ เมืองนี้ยังมีมุมให้คุณ “เป็นตัวเองในแบบที่ดีกว่าเดิม” เสมอ และฟีดของเราก็พร้อมจะพาใครอีกหลายคนเริ่มต้นทริปถัดไปจากเรื่องราวของคุณ

ข้อมูล: dxt:360 (Social Listening & Media Monitoring) โดยบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด เก็บข้อมูลช่วงระหว่างวันที่ 22 ก.ค.–22 ก.ย. 2568