โลกการทำงานหลังยุคระบาดใหญ่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของภาวะผู้นำไปอย่างสิ้นเชิง แนวคิดการเป็นผู้นำแบบดั้งเดิมที่เน้นการควบคุม สั่งการ และจัดการทุกรายละเอียด กำลังถูกแทนที่ด้วยทักษะที่เน้นความยืดหยุ่น ความเห็นอกเห็นใจ และการสร้างบุคลากรให้เติบโต
ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในปี 2025 และอนาคต คือผู้ที่เข้าใจและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ หากเป้าหมายของคุณคือการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
การพัฒนา 6 คุณสมบัติต่อไปนี้คือสิ่งจำเป็น และโอกาสสำคัญในการเติมเต็มช่องว่างในองค์กร พัฒนาอาชีพ และเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของคุณ
6 คุณสมบัติผู้นำแห่งอนาคตปี 2568
ผลการวิจัยล่าสุดจาก McKinsey บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลก เป็นที่รู้จักในด้านการดำเนินงานทั่วโลก ความเชี่ยวชาญเชิงลึกทั้งในด้านการทำงานและอุตสาหกรรม และการมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของลูกค้าและทักษะความเป็นผู้นำ ระบุว่า 6 คุณสมบัติเหล่านี้คือสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำยุคใหม่
- พลังบวกและแรงบันดาลใจ: ความสามารถในการสร้างบรรยากาศที่ดี มองโลกในแง่ดี สร้างสมดุลในชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมก้าวไปข้างหน้า
- ภาวะผู้นำในบทบาทผู้สนับสนุน: การให้ความสำคัญกับทีมเป็นอันดับแรก รับฟัง และสนับสนุนให้พวกเขาเติบโตและทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
- การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและความอ่อนน้อมถ่อมตน: มีแนวคิดแบบ Growth Mindset เปิดรับความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ และยอมรับว่าตนเองไม่ได้รู้ทุกเรื่อง
- ความอดทนและความยืดหยุ่น: ความสามารถในการยืนหยัดและฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ โดยไม่ย่อท้อ
- ความร่าเริงและอารมณ์ขัน: การใช้อารมณ์ขันอย่างเหมาะสมช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นการมีส่วนร่วม และสร้างแรงจูงใจได้ดี โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กดดัน
- ทักษะการบริหารจัดการ: ยังคงเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการวางแผน จัดการทรัพยากร และนำทีมไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
...
หัวใจสำคัญของคุณสมบัติเหล่านี้คือ "การให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นศูนย์กลาง" ในยุคที่อนาคตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากเทคโนโลยี AI และการเลิกจ้าง พนักงานต้องการความรู้สึกมั่นคง การมีส่วนร่วม และความหวังในอาชีพ องค์กรจึงต้องการผู้นำที่สามารถเข้าถึงใจคน ให้ความสำคัญกับพนักงาน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของทีมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน
ปัจจุบันทักษะความเป็นผู้นำเป็นที่ต้องการอย่างสูง แม้กระทั่งในตำแหน่งที่ยังไม่มีลูกน้องโดยตรง จากข้อมูลของ DoFollow.com ที่สำรวจโปรไฟล์พนักงานกว่า 600,000 คนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ พบว่า "ทักษะผู้นำ" เป็นที่ต้องการมากที่สุด แซงหน้าทักษะด้าน AI และเทคโนโลยีด้วยซ้ำ”
ข้อมูล : Forbes