ขึ้นชื่อว่า “เด็กมหาลัย” นอกจากอิสระที่มาพร้อมกับการใช้ชีวิตแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนเริ่มสนใจคือ “บัตรเครดิต” ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้มากมาย
แต่กระนั้นมีคำถามมากมายที่หลายคนต่างก็สงสัยว่า “เป็นนักศึกษามีบัตรเครดิตได้หรือไม่?” ซึ่งในปัจจุบันนี้ การที่นักศึกษาจะทำบัตรเครดิตนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป โดยสำหรับผู้มีสิทธิ์สมัครบัตรเครดิต คือ บุคคลที่มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป และต้องมีรายได้ประจำตามที่สถาบันการเงินกำหนด (ปัจจุบันคือ ขั้นต่ำ 15,000 บาท/เดือน หรือ 180,000 บาท/ปี) ในบางรายอาจได้รับบัตรเสริมจากผู้ปกครอง ซึ่งผู้มีสิทธิ์ได้รับบัตรเสริม คือ บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป และต้องมีเอกสารหนังสือยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้แทนโดยชอบธรรมตามกฎหมาย
ดังนั้นการเป็นนักศึกษาไม่ได้ถูกจำกัดว่าห้ามมีบัตรเครดิตแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่ต้องการใช้ ก็จะต้องบริหารการใช้บัตรเครดิตให้ดี และรู้จักใช้อย่างระมัดระวัง หากใช้ไม่ถูกวิธีก็อาจกลายเป็นกับดักหนี้สินที่สร้างปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน
ฉะนั้นหากคุณเป็นคนที่อยู่ในวัยนักศึกษา และคิดอยากจะมีบัตรเครดิตใบแรก นอกจากคุณสมบัติในการสมัครข้างต้นแล้ว ถ้ามี “ใบแรก” ใช้ยังไงให้คุ้ม บทความนี้จะแนะนำวิธีใช้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้บัตรเครดิตเป็น “ตัวช่วย” ไม่ใช่ “ภาระ” เลี่ยงปัญหาหนี้ท่วมหัว และยังเป็นการวางรากฐานทางการเงินที่ดีก่อนก้าวเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว
เด็กมหาลัยกับ 6 วิธีใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด
1. ทำความเข้าใจหลักการทำงานของบัตรเครดิต
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า บัตรเครดิตไม่ใช่เงินสด ที่เรามีอยู่จริง ๆ แต่เป็นเหมือนวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารให้เรายืมมาใช้จ่ายก่อน แล้วเรามีหน้าที่ต้องจ่ายคืนตามรอบบิลที่กำหนด ถ้าเราจ่ายเต็มจำนวนตรงเวลา เราก็จะไม่เสียดอกเบี้ยเลย แต่ถ้าจ่ายขั้นต่ำหรือจ่ายไม่ครบ ส่วนที่เหลือจะถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก ซึ่งอาจจะพอกพูนจนกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ได้ในที่สุด
2. เลือกบัตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง
ปัจจุบันมีบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาหรือสำหรับคนเริ่มต้นทำงานมากมาย แต่ละใบก็มีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ลองสำรวจดูว่าบัตรไหนที่ให้สิทธิประโยชน์ตรงกับสิ่งที่เราใช้บ่อยที่สุด เช่น
- เน้นการเดินทางขนส่งสาธารณะ: เลือกบัตรที่ร่วมรายการกับรถไฟฟ้า หรือมีส่วนลดในการเดินทาง
- เน้นดูหนัง ฟังเพลง: เลือกบัตรที่ให้ส่วนลดหรือคะแนนสะสมพิเศษสำหรับความบันเทิง
- เน้นช้อปปิ้งออนไลน์: เลือกบัตรที่ให้เครดิตเงินคืนหรือส่วนลดสำหรับร้านค้าออนไลน์
การเลือกบัตรที่ตรงจุดจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากบัตรเครดิต
3. ตั้งวงเงินการใช้จ่าย และยึดตามนั้นอย่างเคร่งครัด
การมีวงเงินเครดิตที่สูงอาจจะฟังดูน่าตื่นเต้น แต่ก็อาจจะทำให้เราใช้จ่ายเกินตัวได้ง่ายขึ้น ลองเริ่มต้นด้วยการขอวงเงินที่ไม่สูงจนเกินไป และที่สำคัญคือ ตั้งงบประมาณการใช้จ่าย สำหรับบัตรเครดิตในแต่ละเดือน เมื่อใช้ถึงยอดที่กำหนดแล้วให้หยุดทันที การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะช่วยให้เห็นภาพรวมและควบคุมตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
4. จ่ายบิลตรงเวลาและจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง
กฎข้อนี้เป็นหัวใจสำคัญของการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกต้อง หากเราไม่สามารถจ่ายเต็มจำนวนได้ ควรพิจารณาจ่ายให้มากกว่ายอดขั้นต่ำเท่าที่จะทำได้เสมอ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น และสิ่งสำคัญคือ ห้ามลืมจ่ายบิลเด็ดขาด เพราะการจ่ายล่าช้าจะทำให้เกิดค่าปรับและดอกเบี้ยตามมา แถมยังส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตในอนาคตอีกด้วย
5. ใช้บัตรเครดิตกับสิ่งจำเป็นเท่านั้น
ในช่วงแรกที่ยังไม่คุ้นเคยกับการใช้บัตรเครดิต ควรจำกัดการใช้จ่ายให้อยู่ในสิ่งจำเป็นก่อน เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายที่วางแผนไว้แล้ว หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อของฟุ่มเฟือยหรือสิ่งของที่เกินตัว การมีวินัยในการใช้จ่ายจะช่วยให้คุณอยู่ห่างจากหนี้บัตรเครดิตได้อย่างแน่นอน
6. ตรวจสอบใบแจ้งหนี้เป็นประจำ
หมั่นตรวจสอบใบแจ้งหนี้ในทุกรอบบิล เพื่อให้แน่ใจว่ายอดใช้จ่ายถูกต้องตรงตามที่เราใช้ไป หากพบความผิดปกติควรรีบแจ้งธนาคารทันที การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น และยังช่วยให้เราติดตามการใช้จ่ายของตัวเองได้อย่างใกล้ชิด
การมีบัตรเครดิตเป็นครั้งแรกถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้การบริหารจัดการเงินในวัยผู้ใหญ่ หากใช้อย่างมีสติและมีความรับผิดชอบ บัตรเครดิตจะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างวินัยทางการเงินและปูทางไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในอนาคตได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ บัตรเครดิตของนักศึกษา! มีจริงแต่จะมีเงื่อนไขหลัก ๆ คือ ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้น เนื่องจากตามข้อกฎหมาย ผู้บรรลุนิติภาวะเท่านั้น จึงจะสามารถทำธุรกรรมด้านการเงินได้เอง โดยไม่ต้องขอคำอนุมัติจากผู้ปกครอง ส่วนรายได้ขั้นต่ำ ขึ้นอยู่กับบัตรเครดิตนั้น ๆ โดยสามารถแบ่งประเภทการสมัครบัตรเครดิตนักศึกษา ทั้งหมดออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1.บัตรเครดิตทั่วไป
เป็นบัตรเครดิตทั่วไป สามารถเลือกสมัครได้ตามไลฟ์สไตล์ของตน แต่ข้อกำหนดของผู้สมัครเข้าข่ายแม้ว่าจะเป็นนักศึกษา ไม่ว่าจะเรื่องอายุของผู้สมัคร หรือรายได้ขั้นต่ำที่ถึงเกณฑ์ที่ทางสถาบันการเงินกำหนด
ดังนั้น นักศึกษาที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่บัตรเสริมที่พ่วงคู่กับบัตรอื่น ๆ จำเป็นต้องมีรายได้ที่สม่ำเสมอ หรือมีอาชีพหลัก อาชีพเสริม ที่แสดงให้ทางสถาบันการเงินมั่นใจได้ว่า คุณเป็นผู้มีรายได้แล้ว จึงจะสมัครและได้รับการอนุมัติผ่าน
2.บัตรกดเงินสด
อาจมีคนสงสัยว่า ทำไมต้องสมัครบัตรกดเงินด้วย ทั้ง ๆ ที่ต้องการบัตรเครดิตนักศึกษา? เพราะบัตรกดเงินสด คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้บัตรเครดิต นอกจากจะสมัครง่าย รายได้ขั้นต่ำเฉลี่ยต่อเดือนน้อยกว่าบัตรเครดิตแล้ว ทุกวันนี้ บัตรกดเงินสดสามารถใช้รูดผ่อนซื้อสินค้าได้ไม่ต่างจากบัตรเครดิต บางบัตรกดเงินสด ให้ผ่อนสินค้า 0% ได้นาน 24 เดือน
3.บัตรเครดิตเสริม
เป็นบัตรเครดิตเสริม หรือ บัตรเสริม คือ บัตรเครดิตที่พ่วงกับบัตรหลักและใช้วงเงินร่วมกัน และต้องมีบัตรเครดิตที่เป็นบัตรหลักก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถสมัครบัตรเสริมได้
สำหรับการสมัครบัตรเครดิตเสริมนี้ จะเหมาะกับนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้ แต่ผู้ปกครองเล็งเห็นว่าลูกหลานของตนสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ และทางผู้ปกครองเองก็สามารถเช็กรายละเอียดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
4.บัตรเครดิตแบบมีเงินฝากค้ำประกัน
สำหรับบัตรเครดิตแบบค้ำประกันเงินฝาก คือ การสมัครบัตรเครดิตด้วยการเปิดบัญชีออมทรัพย์ หรือฝากประจำ เพื่อค้ำประกันการใช้บัตรเครดิตแทนการยื่นเอกสารแสดงรายได้แทน และเป็นการเสริมความมั่นใจว่า แม้มีหนี้บัตรเครดิต ก็จะสามารถนำเงินมาจ่ายคืนได้ โดยมีข้อจำกัดบางอย่างแลกเปลี่ยน เช่น ขอเพิ่มวงชั่วคราวไม่ได้ และไม่สามารถเพิ่มวงเงินในอนาคตได้
นอกจากนี้ สถาบันการเงินบางแห่งมักมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และต้องมีเงินฝากเป็นประกันขั้นต่ำแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสถาบันการเงิน เช่น บางแห่งจะเปิดโอกาสให้สมัครได้ ต้องมีเงินฝากถึง 10,000 บาท
ซึ่งการสมัครบัตรเครดิตชนิดนี้ จะเหมาะกับ นิสิตนักศึกษา ผู้กำลังเริ่มประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ ผู้ที่ยังมีเงินเดือนไม่มาก รวมไปถึงคนที่ต้องการรักษาวินัยทางการเงินอีกด้วย
อ้างอิง rabbitcare , krungsri , cardx