"องค์นรสิงห์" รูปปั้นจำลองประจำตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำการย้ายรูปปั้นองค์นรสิงห์จำลองจากตึกแสงอาทิตย์ มาไว้ประจำไว้ที่ตึกไทยคู่ฟ้าตามเดิม พร้อมดีเดย์เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการวันแรก 1 ตุลาคมนี้ สังเกตว่ามีการทำฉัตรทอง 7 ชั้น ครอบองค์นรสิงห์ไว้ 

ไทยรัฐออนไลน์ ชวนมาทำความรู้จักประวัติที่มาและความเชื่อเกี่ยวกับ "องค์นรสิงห์" พร้อมพูดคุยกับ "ซินแซเข่ง" วิเคราะห์ฤกษ์ยามการย้ายองค์นรสิงห์ของนายกฯ อนุทิน กระทบดวงชะตา มีเกณฑ์ประสบปัญหายุ่งยาก

ทำความรู้จัก "องค์นรสิงห์" คืออะไร 

องค์นรสิงห์ (Narasimha) เป็นหนึ่งในอวตารของพระนารายณ์ ผู้มีร่างกายท่อนล่างเป็นมนุษย์และท่อนบนเป็นสิงโต โดยร่างอวตารนี้เกิดขึ้นเพื่อปราบอสูรที่ก่อความเดือดร้อน ฟื้นฟูธรรม และยุติการกดขี่ข่มเหง องค์นรสิงห์จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจ ความกล้าหาญ และการปกป้องผู้บริสุทธิ์จากความชั่วร้าย

ประวัติ "องค์นรสิงห์" ตามความเชื่อคติพราหมณ์ มีที่มาอย่างไร

ตามตำนานเล่าว่า "หิรัณยกศิปุ" เป็นอสูรที่ได้บำเพ็ญตบะจนได้รับพรจากพระพรหมให้ไม่มีวันตาย ไม่ถูกฆ่าโดยมนุษย์ สัตว์ เทวดา อาวุธ หรือมือ อีกทั้งไม่ตายทั้งในเรือนหรือนอกเรือน ไม่ตายในเวลากลางวันหรือกลางคืน ด้วยอำนาจพรนี้ทำให้หิรัณยกศิปุอาละวาดไปทั่วสามภพ จนพระอินทร์ต้องทูลเชิญพระนารายณ์ให้อวตารมาปราบ

พระนารายณ์จึงอวตารเป็น "องค์นรสิงห์" ครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงโต และสังหารหิรัณยกศิปุด้วยกรงเล็บ ณ กึ่งกลางบานประตูในยามโพล้เพล้ ซึ่งไม่เข้าข่ายเงื่อนไขของพรใดๆ จึงทำให้พรสลายไปสิ้น เทวดาทั้งหลายต่างแสดงความยินดี และภาพศิลปกรรมมักถ่ายทอดฉากนี้ พร้อมรูปเทวดาองค์เล็กๆ แสดงกิริยายกมือเฉลิมฉลองอยู่เบื้องล่าง

...

ประวัติ "องค์นรสิงห์จำลอง" รูปปั้นคู่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

หากย้อนกลับไปในอดีต พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของตึกไทยคู่ฟ้า เดิมคือ "บ้านนรสิงห์" ของเจ้าพระยารามราฆพ โดยมีองค์นรสิงห์ประดิษฐานอยู่ตั้งแต่แรก และยังคงเป็นสัญลักษณ์คู่สถานที่แห่งนี้เรื่อยมาจนปัจจุบัน

องค์นรสิงห์จำลอง จึงถูกสร้างขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีการสั่งทำจากโรงหล่อและอัญเชิญมาประดิษฐานตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2564 เพื่อใช้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับสักการะบูชา

ในสังคมไทย องค์นรสิงห์จำลอง ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งสะท้อนความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ฮินดูเท่านั้น แต่ยังถูกตีความเชิงสัญลักษณ์ว่าเป็น ผู้พิทักษ์คุ้มครองบ้านเมือง แทนความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ และพลังในการปกป้องประชาชน อันเป็นคุณสมบัติที่ผู้นำและผู้บริหารประเทศพึงมี

นายกฯ อนุทิน ย้ายรูปปั้นองค์นรสิงห์จำลอง กลับมาประจำตึกไทยคู่ฟ้า

จากกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้อัญเชิญรูปปั้น "องค์นรสิงห์จำลอง" (เดิมตั้งไว้ที่ตึกแสงอาทิตย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566) ย้ายกลับไปตั้งที่บริเวณระเบียงด้านหน้า ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล (บริเวณเดิมที่เคยตั้งไว้เมื่อสมัยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ในเวลา 12.49 น. โดยตั้งองค์นรสิงห์จำลองชิดกับกำแพง และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

ทั้งนี้ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ดีเดย์เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาลวันแรก โดยถือเป็นวันที่ 1 ของการทำงานในกรอบ 120 วันของรัฐบาล และเป็นที่สังเกตว่ารูปปั้นองค์นรสิงห์จำลองที่ย้ายกลับมาตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2568 นั้น มีการทำฉัตรทอง 7 ชั้น ครอบด้านบนรูปปั้นด้วย โดยนายกฯ ให้เหตุผลว่าเป็นความเชื่อเรื่องความร่มเย็นเป็นสุขนั่นเอง

...

"ซินแซเข่ง" เผยฤกษ์ นายกฯ อนุทิน ย้ายองค์นรสิงห์จำลอง มีผลกระทบดวงชะตา

ไทยรัฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับ "ซินแซเข่ง" เกี่ยวกับความเชื่อเรื่ององค์นรสิงห์ โดยระบุว่า องค์นรสิงห์เป็นอวตารในศาสนาฮินดู ท่อนบนเป็นสิงโต ท่อนล่างเป็นมนุษย์ แต่หากยึดตามความเชื่อของคนไทยก็จะเชื่อว่า องค์นรสิงห์เป็นยักษ์แคระที่คุ้มครองปกปักรักษา ไม่ให้สิ่งชั่วร้าย หรือสิ่งที่เป็นอมนุษย์ มาสร้างปัญหาในที่นั้นๆ

นอกจากนี้ ซินแซเข่งยังกล่าวว่า "องค์นรสิงห์ไม่จำเป็นต้องใช้ฉัตร แต่ถ้าพระภูมิ พระพรหม พระพุทธเจ้า ใช้ฉัตร 9 ชั้น ส่วนการวางองค์นรสิงห์เหมือนกับวางองค์พระพรหม คือต้องหันหน้าไปในทิศทางที่มีคนเข้าออก เพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่ดี"

จากกรณีที่นายกฯ อนุทิน ได้ทำการย้ายองค์นรสิงห์จำลองมาไว้ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ทางด้านซินแซเข่ง ให้ความเห็นว่า "การย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งที่เคารพบูชา สำหรับหาที่ตั้งใหม่นั้น จะต้องวางฤกษ์ยามให้เป็นมงคลแก่ผู้ที่อัญเชิญ ทีนี้ในดวงชะตาของคุณอนุทินเนี่ย เกิดวันอังคารที่ 13 เดือนกันยายน พ.ศ. 2509 เป็นปีมะเมีย เวลาที่ย้ายคือ 12.49 น. เป็นเวลาของยามมะเมีย ซึ่งมีผลกระทบเกิดขึ้นต่อดวงชะตาของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล เกี่ยวกับเรื่องของการเบียดเบียนให้อึดอัดไม่สบายใจ ปัญหาจุกจิก เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก่อให้มีความวิตกกังวลเกิดขึ้น มีผลต่อดวงชะตาของนายกรัฐมนตรี"

นอกจากนี้  "วันที่ย้ายองค์นรสิงห์คือวันที่ 26 กันยายน เป็นวันเสริมดวงนายก แต่เวลาที่ย้ายไม่เหมาะสม หากเป็นเวลาช่วง 9.00 น. หรือเวลา 13.00 น. จะเป็นเวลาที่เสริมดวงนายกมากกว่า เนื่องจากนายกฯ เกิดปีมะเมีย 2509 เสริมด้วยวันจอ วันขาล และเวลามะแม ก็คือเวลา 13.00-14.59 น. แต่เวลา 12.49 น. นั้นเป็นเวลาที่ไม่เหมาะและอาจจะมีผลกระทบเกิดขึ้น เหมือนกับย้ายไปในเวลาผิด แล้วช่วงจังหวะมรสุมของนายกฯ ก็จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมกับมกราคม นี่อาจจะมีผลรุนแรงเกิดขึ้นก็ได้" ซินแซเข่งกล่าวเสริมปิดท้าย

...

อย่างไรก็ตาม ซินแซเข่งได้แนะนำเพิ่มเติมว่าวิธีที่จะแก้เคล็ดได้นั้น ต้องหาฤกษ์ยามที่ดีใหม่ โดยเวลาดีของนายกฯ ซึ่งเกิดในปีมะเมียก็คือ เวลา 13.00-14.59 น. แล้วกล่าวคำขอขมาต่อองค์นรสิงห์

"ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำการเคลื่อนย้ายด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ให้ปรากฏว่าเป็นฤกษ์ยามที่เป็นอัปมงคลแก่ตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตถือฤกษ์งามยามดีใหม่ในการเคลื่อนย้าย จึงขอขมาต่อองค์นรสิงห์ ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ข้าพเจ้าจึงขอขมา ณ โอกาสนี้"