ภัยจากการหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ ยังคงสร้างความเสียหายให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการไม่ได้ของ ของไม่ตรงปก ของปลอม หรือถูกโกงผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ

ข้อมูลจาก ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ (1212 ETDA) พบว่า ปัญหาออนไลน์ที่ผู้บริโภคร้องเรียนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.- ส.ค.) มีสูงถึง 27,332 เรื่อง โดยปัญหาซื้อขายสินค้าออนไลน์ เป็นอันดับหนึ่ง ด้วยจำนวน 10,306 เรื่อง หรือคิดเป็น 41.79% รองลงมาคือปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย

4 วิธีง่ายๆ ป้องกันตัวเองก่อนซื้อของออนไลน์

ในช่วงที่ช่องทางการซื้อขายออนไลน์มีข้อเสนอมากมาย คนไทยสามารถป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้ง่ายๆ โดย Meta แนะนำ 4 วิธีสำคัญ ที่ควรทำทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ

1. เช็กโปรไฟล์ผู้ขายให้ชัดเจน

ตรวจสอบประวัติการขาย อ่านรีวิวจากลูกค้า และดูความน่าเชื่อถือของบัญชี ระวังเป็นพิเศษ หากเป็นบัญชีเพิ่งเปิดใหม่ หรือมีรีวิวในแง่ลบเยอะ

2. ขอหลักฐานยืนยันว่ามีสินค้าจริง

ขอรูปหรือวิดีโอสินค้าที่ถ่ายจากมุมอื่นๆ นอกเหนือจากรูปโฆษณา เพื่อมั่นใจว่าผู้ขายมีสินค้าอยู่จริง

3. คุยกันบนแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยเท่านั้น

ห้ามย้ายไปคุยหรือตกลงซื้อขายนอกแพลตฟอร์ม เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น คุณอาจไม่สามารถเรียกร้องความช่วยเหลือได้

4. นัดรับของในที่สาธารณะ

หากนัดรับสินค้า ควรเลือกสถานที่ที่มีคนเยอะเพื่อความปลอดภัย และตรวจสอบสินค้าด้วยตัวเองก่อนจ่ายเงิน

จำไว้เสมอว่า มิจฉาชีพออนไลน์มักจะเปลี่ยนกลโกงไปเรื่อยๆ ดังนั้นควรมีสติและตรวจสอบข้อเสนอทุกครั้ง โดยเฉพาะสินค้าที่ ราคาถูกผิดปกติ หรือข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง

...

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock


ที่ผ่านมา Meta ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจในการป้องกันภัยออนไลน์ เช่น การจัดโร้ดโชว์ด้านความปลอดภัยในกว่า 32 จังหวัดตั้งแต่ปี 2565 และการร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางเปิดตัวแคมเปญต่อต้านการหลอกลวง “Legit or Leg It” ในไทย

ปัจจุบัน Meta ยังคงสานต่อความร่วมมือกับ 6 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), ETDA, กรุงเทพมหานคร (กทม.), กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.), กสทช., และ ก.ล.ต. เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ ผ่านแคมเปญ "Is This Legit?" (อันนี้จริงหรือหลอก?)

แคมเปญนี้มีสื่อการเรียนรู้ที่เข้าใจง่าย และ เกมออนไลน์แบบโต้ตอบ (interactive game) เพื่อฝึกให้ผู้ใช้รู้จักสังเกตและจับพฤติกรรมน่าสงสัยของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมากับการซื้อขายออนไลน์

สามารถเรียนรู้วิธีการจับกลโกงของมิจฉาชีพเพิ่มเติมได้จากแคมเปญ "Is This Legit?" ของ Meta และพันธมิตรภาครัฐ ได้ที่นี่