ภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี หรือที่เรียกขานในทางการเมืองว่า “ครม.อนุทิน 1” พบว่าโครงสร้างหลักยังคงเป็นนักการเมืองที่คุ้นหน้าคุ้นตาและผู้บริหารจากภาคธุรกิจ แต่ก็มีปรากฏการณ์ที่น่าจับตาเป็นพิเศษนั่นคือ การดึงทีมเศรษฐกิจ "คนนอก" เข้ามาเสริมทัพ
อ่านเพิ่มเติม:
“ไม่ติดหรูแต่ติดหรอย” เปิดร้านโปรด-เมนูเด็ดของนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
ครม.อนุทิน 1 อายุเฉลี่ย 56.8 ปี
...
จากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ อายุเฉลี่ยของคณะรัฐมนตรีชุดนี้อยู่ที่ 56.8 ปี โดยรัฐมนตรีที่อาวุโสที่สุดคือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีอายุเท่ากันที่ 70 ปี
ขณะที่รัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดก็คือ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ในวัย 35 ปี ซึ่งน่าจับตามองไม่น้อยในฐานะที่เป็นทายาททางการเมืองของนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่โรงเรียนการเมืองของพรรคภูมิใจไทย และเป็นคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามาทำงานการเมือง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอายุเฉลี่ยอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เนื่องจากยังไม่พบข้อมูลอายุของรัฐมนตรีช่วยว่าการ บางคน เช่น น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เดิมพันรัฐมนตรี "คนนอก" กอบกู้วิกฤตปากท้อง
แม้ภาพรวมรัฐมนตรีส่วนใหญ่ กว่า 2 ใน 3 จะมีอายุเกิน 50 ปี และเป็นนักการเมืองที่รู้จักกันดี แต่จุดที่สร้างความน่าสนใจกลับอยู่ที่การดึง "เทคโนแครต" และ "มืออาชีพ" จากนอกวงการการเมืองเข้ามาคุมบังเหียนกระทรวงเศรษฐกิจโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รมว.คลัง, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน และโดยเฉพาะ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
...
ด้วยประสบการณ์โชกโชนจากการเป็นผู้บริหารระดับสูงของ IBM, และอดีตซีอีโอไทยคม และล่าสุดในตำแหน่งซีอีโอเครือดุสิตธานี ภารกิจของนางศุภจีจึงหนักหน่วงและเป็นที่คาดหวังอย่างสูงในการแก้ปัญหาค่าครองชีพและเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ที่ถูกตั้งความหวังว่าจะเข้ามาบริหารประเทศในช่วงเวลาสั้นๆ