ผลโพลชี้ประชาชนอยากได้โครงการคนละครึ่ง เวอร์ชั่นใหม่ ภายใต้รัฐบาลอนุทิน ขอใช้ง่าย ซื้อของหลากหลาย และเพิ่มวงเงิน

จากผลสำรวจไทยรัฐโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชนในหัวข้อ “คุณอยากให้รัฐบาลอนุทินปรับปรุงโครงการ “คนละครึ่ง” อะไรบ้าง” สะท้อนให้เห็นเสียงเรียกร้องที่ชัดเจนจากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 4,093 คน ในการ "อัปเกรด" โครงการให้ตอบโจทย์ค่าครองชีพในปัจจุบันมากขึ้น โดยมี 3 ประเด็นหลักที่ประชาชนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด

ข้อแรกเรื่องของการใช้ง่าย ซื้อของได้มากขึ้น คือเสียงส่วนใหญ่เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุดในโครงการ "คนละครึ่ง" ประชาชนกว่า 1 ใน 3 (36.36%) ต้องการให้สามารถ "ซื้อของได้หลากหลายประเภทกว่าเดิม" ตามมาติดๆ ด้วยความต้องการให้ "ขั้นตอนการลงทะเบียนง่ายขึ้น" (33.56%) ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ถือเป็นเสียงเรียกร้องสำคัญจากผู้ใช้งานจริง นอกจากนี้ ปัญหา "ระบบล่ม" ยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนกังวลและอยากให้แก้ไข (15.65%)

ทำให้ผลโพลที่ออกมา สื่อถึงอันดับในสิ่งที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลอนุทินปรับปรุงในโครงการ “คนละครึ่ง” ดังนี้

...

  • อันดับ 1: ซื้อของได้หลายประเภทกว่าเดิม (36.36%)
  • อันดับ 2: ขั้นตอนลงทะเบียนง่ายๆ (33.56%)
  • อันดับ 3: อย่าให้ระบบล่ม (15.65%)

ส่วนการใช้จ่ายเพื่อชีวิตประจำวัน จากผลสำรวจนั้นชี้ว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในโครงการ "คนละครึ่ง" จะมุ่งเน้นไปที่สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพเป็นหลัก โดย "ของใช้ในบ้าน" คือสิ่งที่ประชาชนตั้งใจจะซื้อมากที่สุด (35.67%) แซงหน้า "ค่าอาหารในแต่ละมื้อ" (27.33%) และ "วัตถุดิบอาหารสด" (23.16%) สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในแต่ละเดือน

เสียงเรียกร้องท่วมท้น ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นพ้องต้องกันมากที่สุดคือเรื่อง "วงเงิน" โดยประชาชนถึง 3 ใน 4 หรือ 75.65% ต้องการให้รัฐบาล "เพิ่มวงเงิน" ที่รัฐช่วยจ่ายให้ต่อวัน จากเดิมที่ไม่เกิน 150 บาท ซึ่งสอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่มีเพียง 21.10% ที่มองว่าวงเงินเท่าเดิมนั้นดีอยู่แล้ว

โดยสรุป ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าโครงการ "คนละครึ่ง" ยังคงเป็นโครงการที่ประชาชนคาดหวังและต้องการให้มีต่อไป แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งในมิติของความสะดวกในการใช้งาน ความหลากหลายของสินค้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มวงเงินเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น