ผู้ประกันตน ม.33 เตรียมตัวจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเพิ่มตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป เพราะสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะเริ่มใช้สูตรคำนวณเงินสมทบใหม่แบบขั้นบันได 3 ระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตน

การปรับปรุงครั้งนี้จะมีการขยับเพดานค่าจ้างขั้นสูงที่ใช้ในการคำนวณเงินสมทบ ซึ่งหมายความว่าคนที่มีรายได้สูงขึ้นจะต้องจ่ายเงินสมทบมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จะได้สิทธิประโยชน์ในกรณีต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

รายละเอียดการปรับเพดานค่าจ้างและเงินสมทบ

ระยะที่ 1: ปี 2569-2571

เพดานค่าจ้างจะปรับขึ้นเป็น 17,500 บาท เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่ายต่อเดือนคือ 875 บาท

เงินทดแทนและเงินสงเคราะห์กรณีต่างๆ

  • เจ็บป่วย: 8,750 บาท/ครั้ง
  • คลอดบุตร: 26,250 บาท/ครั้ง
  • ทุพพลภาพ: 8,750 บาท/เดือน
  • กรณีตาย: 105,000 บาท
  • ว่างงาน: 8,750 บาท/ครั้ง
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 15 ปี): 3,500 บาท/เดือน
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 25 ปี): 6,125 บาท/เดือน

ระยะที่ 2: ปี 2572-2574

เพดานค่าจ้างจะปรับขึ้นเป็น 20,000 บาท เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่ายต่อเดือนคือ 1,000 บาท

เงินทดแทนและเงินสงเคราะห์กรณีต่างๆ

  • เจ็บป่วย: 10,000 บาท/ครั้ง
  • คลอดบุตร: 30,000 บาท/ครั้ง
  • ทุพพลภาพ: 10,000 บาท/เดือน
  • กรณีตาย: 120,000 บาท
  • ว่างงาน: 10,000 บาท/ครั้ง
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 15 ปี): 4,000 บาท/เดือน
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 25 ปี): 7,000 บาท/เดือน

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...


ระยะที่ 3: ปี 2575 เป็นต้นไป

เพดานค่าจ้างจะปรับขึ้นเป็น 23,000 บาท เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่ายต่อเดือนคือ 1,150 บาท

เงินทดแทนและเงินสงเคราะห์กรณีต่างๆ

  • เจ็บป่วย: 11,500 บาท/ครั้ง
  • คลอดบุตร: 34,500 บาท/ครั้ง
  • ทุพพลภาพ: 11,500 บาท/เดือน
  • กรณีตาย: 138,000 บาท
  • ว่างงาน: 11,500 บาท/ครั้ง
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 15 ปี): 4,600 บาท/เดือน
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 25 ปี): 8,050 บาท/เดือน

ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2567 - ปัจจุบัน ผู้ประกันตน ม.33 มีเพดานค่าจ้างอยู่ที่ 15,000 บาท เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่ายต่อเดือนคือ 750 บาท ได้รับเงินทดแทนและเงินสงเคราะห์กรณีต่างๆ ดังนี้

  • เจ็บป่วย: 7,500 บาท/ครั้ง
  • คลอดบุตร: 22,500 บาท/ครั้ง
  • ทุพพลภาพ: 7,500 บาท/เดือน
  • กรณีตาย: 90,000 บาท
  • ว่างงาน: 7,500 บาท/ครั้ง
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 15 ปี): 3,000 บาท/เดือน
  • บำนาญ (ส่งเงินมา 25 ปี): 5,250 บาท/เดือน

ดังนั้น การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะส่งผลให้สิทธิประโยชน์ทั้ง 6 กรณีของผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้ เงินสงเคราะห์ต่างๆ และเงินบำนาญในอนาคต

ที่มา: สำนักงานประกันสังคม