สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม และผามออีแดงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่และจรวด BM-21 ที่กัมพูชาใช้โจมตีไม่เว้นแม้ปราสาทโดนตวล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) วัย 58 ปี ผู้ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบัญชาการ "แผนจักรพงษ์ภูวนารถ" เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 26 และศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 37 เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพ อาทิ แม่ทัพภาคที่ 1 และเสนาธิการทหารบก ก่อนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ. คนที่ 44 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2570

ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชาที่กำลังร้อนระอุในเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 68 ที่ผ่านมา สถานการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีการใช้อาวุธหนักประเภท อาร์พีจี (RPG) ในการโจมตี

...

เมื่อเวลา 09.20 น. มีรายงานว่าการปะทะได้ขยายวงกว้างไปตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดงและปราสาทเขาพระวิหาร โดยฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดรวมถึง BM21 ในขณะที่ฝ่ายไทยได้เข้าปะทะตามแผนที่วางไว้ พร้อมตอบโต้ด้วยปืนใหญ่สนาม ในเวลาเดียวกัน หลังจากนั้นกองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ข้อความยืนยันสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยระบุว่า "09.40 น. เขมรเล่นหนัก ไม่สนประชาชน ใช้จรวด BM-21 ยิงจากฐานยิงเขาแหลมตกใส่ ปราสาทโดนตวล จ.ศรีสะเกษ" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์และการไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่จากฝ่ายกัมพูชา 

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบัญชาการสถานการณ์และวางแผนรับมือกับภัยคุกคามอธิปไตยของชาติ ที่มีชื่อว่า "แผนจักรพงษ์ภูวนารถ" เพื่อปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเผยว่า “เป็นแผนรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนด้านตะวันออกของกองทัพบก ให้เหมาะสมกับแต่ละระดับความขัดแย้งและเป็นไปตามขั้นตอนของการใช้กำลังทางทหาร⁣” บทบาทอันแข็งแกร่งของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน จึงเป็นที่จับตาของสาธารณชน

พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ คือ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่มีอำนาจเต็มในการสั่งการกำลังทางบก และสามารถประสานขอกำลังหนุนจากทางอากาศ และทางเรือเพื่อสนับสนุนภารกิจสำคัญนี้ 

เปิดประวัติ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เส้นทางชีวิตและการศึกษาของ  

พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ หรือที่เรียกขานกันว่า "บิ๊กปู" ปัจจุบันอายุ 58 ปี (เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510) มีพื้นเพเดิมอยู่ที่ ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

ชีวิตในครอบครัวของ พล.อ.พนา คลุกคลีอยู่กับวงการทหารมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจาก บิดาของท่านคือ พล.อ.ปรีชา แคล้วปลอดทุกข์ อดีตนายทหารผู้มีตำแหน่งสำคัญในกองทัพ ทั้งที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และข้าราชการในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ส่วนมารดาชื่อ วงศ์พรรณ แคล้วปลอดทุกข์ และมีคู่สมรสคือ สุภัทรา แคล้วปลอดทุกข์ 

ด้านการศึกษา พล.อ.พนา เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 26 (ตท.26) และสำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 37 ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทั้งด้านการทหารและวิชาการ

ตำแหน่งสำคัญสู่ผู้นำสูงสุดของทัพบก

พล.อ.พนา ได้สั่งสมประสบการณ์ในกองทัพบกมายาวนาน ผ่านการดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ มากมาย ทั้งอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์, ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11, แม่ทัพภาคที่ 1 และเสนาธิการทหารบก 

ผลงานและความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2567 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนที่ 44 ของประเทศไทย โดยเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 และจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2570

...

บทบาทของ พล.อ.พนา ในฐานะผู้นำกองทัพบกในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด ว่าภายใต้การนำของ "บิ๊กปู" นี้ ทิศทางของกองทัพและสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา จะดำเนินไปในรูปแบบใด