ข้อมูลจากรายงาน "Mapping the World's Prices - 2025" ที่จัดทำโดย Deutsche Bank Research Institute เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2025 แสดงถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตและค่าครองชีพใน 69 เมือง ที่มีความสำคัญต่อตลาดการเงินทั่วโลก

โดยมีการคาดการณ์ว่าประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น ประเทศไทย อยู่ในกลุ่มประเทศที่ราคาค่าครองชีพไม่แพง แต่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในอนาคต

ภาพรวมด้านเศรษฐกิจ

  • ระดับราคาเชิงสัมพัทธ์ตามดัชนี PPP (กำลังซื้อที่เท่าเทียมกัน) ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบราคาของสินค้าหรือบริการหนึ่งกับราคาของสินค้าหรือบริการอื่นๆ หรือกับระดับราคาสินค้าโดยเฉลี่ย โดยพิจารณาว่าสินค้าหรือบริการนั้นมีราคาสูงกว่าหรือต่ำกว่าเมื่อเทียบกับตัวเปรียบเทียบ พบว่าระดับราคาในประเทศไทยอยู่ที่ 30.5 ในปี 2024 และอยู่ในอันดับที่ 44 ของโลกในปี 2024 ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกำลังซื้อสัมพัทธ์สูงขึ้นในระหว่างปี 2000 ถึง 2024 และ 2010 ถึง 2024
  • ส่วนด้านอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 47 จากทั้งหมด 48 ประเทศ ในด้านการเปลี่ยนแปลงอัตราเงินเฟ้อสะสมตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งสะท้อนว่าไทยมีอัตราเงินเฟ้อที่ค่อนข้างต่ำ
  • ด้านอัตราแลกเปลี่ยน (บาทไทยเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ) สกุลเงินบาทไทยอยู่ในอันดับที่ 10 (จาก 48 ประเทศ) ในด้านประสิทธิภาพของสกุลเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2012

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...


ผลสำรวจอัตราค่าครองชีพในกรุงเทพฯ ปี 2025 (สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอันดับจาก 69 เมืองที่สำรวจ)

  • คนไทยมีเงินเดือนเฉลี่ย (สุทธิหลังหักภาษี) ที่ 844 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 28,600 บาท (ติดอันดับที่ 59 จาก 69 เมือง)
  • ราคาการซื้ออพาร์ตเมนต์ในใจกลางเมือง (ต่อตร.ม.) อยู่ที่ 5,974 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 195,000 บาท (ติดอันดับที่ 47 จาก 69 เมือง)
  • ค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ 3 ห้องนอนในใจกลางเมืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,938 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 64,000 บาท (อันดับที่ 50 จาก 69 เมือง)
  • ค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ 1 ห้องนอนในใจกลางเมืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 677 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 23,000 บาท (อันดับที่ 56 จาก 69 เมือง)
  • ดัชนีรายได้หลังหักค่าเช่า (2 คนทำงานและเช่าอพาร์ตเมนต์ 3 ห้องนอน) เฉลี่ยอยู่ที่ -251 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 8,300 บาท (อันดับที่ 66 จาก 69 เมือง) ตัวเลขติดลบนี้สะท้อนให้เห็นว่าอัตราค่าเช่าสูงมากเมื่อเทียบกับรายได้
  • อัตราดอกเบี้ยจำนอง (20 ปี คงที่) อยู่ที่ 5.9% (อันดับที่ 28 จาก 69 เมือง)
  • สัดส่วนภาระจำนองต่อรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 181% (อันดับที่ 10 จาก 69 เมือง) ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก แสดงถึงความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยที่ต่ำ
  • ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานต่อเดือน (สำหรับอพาร์ตเมนต์ 85 ตร.ม.) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 89 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,900 บาท (อันดับที่ 56 จาก 69 เมือง)
  • ราคา iPhone 16 Pro (ขนาด 128GB) เฉลี่ยอยู่ที่ 1,160 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 38,000 บาท (อันดับที่ 30 จาก 41 ประเทศที่สำรวจ) ซึ่งมีราคาสูงกว่าในสหรัฐอเมริกา 8% (ราคาอยู่ที่ 108% เทียบกับสหรัฐฯ)
  • ดัชนีร้านขายของชำ (Groceries index) อยู่ที่ 44 (อันดับที่ 45 จาก 69 เมือง) โดยคิดค่าดัชนีเทียบกับนิวยอร์ก
  • ค่าบุหรี่ (Marlboro 20 มวน) เฉลี่ย 4.4 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 150 บาท (อันดับที่ 48 จาก 69 เมือง)
  • เบียร์ในประเทศ (ขวด 0.5 ลิตร) เฉลี่ยที่ 1.84 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 60 บาท (อันดับที่ 41 จาก 69 เมือง)
  • ดัชนี "โอเอซิส" (เบียร์ 5 ขวด และบุหรี่ 2 ซอง) เฉลี่ยที่ 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 590 บาท (อันดับที่ 50 จาก 67 เมือง)
  • ดัชนี "นัดเดทราคาประหยัด" (Cheap Date Index) อยู่ที่ 175 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5,800 บาท (อันดับที่ 53 จาก 67 เมือง)
  • ไวน์ (ขวดขนาดกลาง) อยู่ที่ 17.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 580 บาท (อันดับที่ 9 จาก 67 เมือง)
  • กางเกงยีนส์ (Levis 501 หรือเทียบเท่า) อยู่ที่ 58 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,900 บาท (อันดับที่ 55 จาก 69 เมือง)
  • ชุดเดรสฤดูร้อนในร้านค้าปลีก เฉลี่ยที่ 39 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,280 บาท (อันดับที่ 53 จาก 69 เมือง)
  • กาแฟคาปูชิโน่ (ขนาดปกติ) เฉลี่ยที่ 2.52 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 85 บาท (อันดับที่ 58 จาก 69 เมือง)
  • โค้ก/เป๊ปซี่ (ขวด 0.33 ลิตร) อยู่ที่ 0.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 25 บาท (อันดับที่ 62 จาก 69 เมือง)
  • เบียร์นำเข้าในร้านอาหาร เฉลี่ยอยู่ที่ 4.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 130 บาท (อันดับที่ 53 จาก 67 เมือง)
  • ราคาอาหารชุดที่ McDonalds (หรืออาหารชุดเทียบเท่า) อยู่ที่ 6.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 210 บาท (อันดับที่ 56 จาก 69 เมือง)
  • ราคาอาหาร 3 คอร์สสำหรับ 2 ท่านในร้านอาหารระดับกลาง เฉลี่ยที่ 31 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,000 บาท (อันดับที่ 61 จาก 69 เมือง)
  • ตั๋วหนัง (ภาพยนตร์ต่างประเทศ 1 ที่นั่ง) เฉลี่ยที่ 7.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 250 บาท (อันดับที่ 53 จาก 68 เมือง)
  • ค่าสมาชิกฟิตเนส (ต่อเดือนสำหรับ 1 ผู้ใหญ่) เฉลี่ยที่ 55 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,800 บาท (อันดับที่ 32 จาก 69 เมือง)
  • ค่าน้ำมันเบนซิน (1 ลิตร) เฉลี่ยที่ 1.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 40 บาท (อันดับที่ 40 จาก 69 เมือง)
  • แพคเกจค่าโดยสารขนส่งสาธารณะรายเดือนเฉลี่ยที่ 37 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,300 บาท (อันดับที่ 50 จาก 69 เมือง)
  • ค่าตั๋วโดยสารขนส่งท้องถิ่น (เที่ยวเดียว) อยู่ที่ 1.23 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 40 บาท (อันดับที่ 45 จาก 69 เมือง)
  • ค่าโดยสารแท็กซี่ (ค่าเริ่มต้น + 5 กม.) อยู่ที่ 7.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 250 บาท (อันดับที่ 46 จาก 69 เมือง)
  • การซื้อรถยนต์ (Volkswagen Golf 1.4 หรือเทียบเท่า) อยู่ที่ 36,941 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.3 ล้านบาท (อันดับที่ 18 จาก 69 เมือง)
  • ค่าอินเทอร์เน็ตต่อเดือน (60 Mbps ขึ้นไป, ไม่จำกัดข้อมูล, เคเบิล/ADSL) เฉลี่ยที่ 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 560 บาท (อันดับที่ 61 จาก 69 เมือง)

จากผลสำรวจพบว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าอาหารในร้านอาหารถูกที่สุด ในการสำรวจนี้ระบุว่าเมืองขนาดใหญ่ในตลาดเกิดใหม่ เช่น กรุงเทพฯ มักจะมีคะแนนต่ำกว่าในดัชนีคุณภาพชีวิตหลายรายการ เนื่องจากค่าที่อยู่อาศัยแพง การเดินทางไกล และมีมลภาวะสูง

รวมทั้งมีการคาดการณ์ว่าประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เช่น ประเทศไทย ที่ยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่ราคาไม่แพงนัก แต่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในอนาคต อาจทำให้การจัดอันดับเปลี่ยนแปลงไปในการสำรวจครั้งถัดไป

ประเทศลักเซมเบิร์ก ติดอันดับ 1 ใน 5 เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี (ภาพจาก iStock)
ประเทศลักเซมเบิร์ก ติดอันดับ 1 ใน 5 เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี (ภาพจาก iStock)


สำหรับเมืองที่ติดอันดับด้านคุณภาพชีวิตที่ดี 5 อันดับแรกได้แก่ ประเทศลักเซมเบิร์ก, เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก, เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์, เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย และเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยประเทศลักเซมเบิร์กขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง แทนที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์

...

ขณะที่เมืองซูริกและเมืองเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์หลุดจาก 5 อันดับแรก เนื่องจากค่าครองชีพที่แพงที่สุดในโลกทำให้ส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับ

เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ติดอันดับที่ 26  ได้คะแนนด้านคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยที่แพง การเดินทางที่ยาวนาน และมีมลพิษสูง (ภาพจาก iStock)
เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ติดอันดับที่ 26 ได้คะแนนด้านคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยที่แพง การเดินทางที่ยาวนาน และมีมลพิษสูง (ภาพจาก iStock)


ด้านเมืองศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก เช่น โตเกียว (อันดับ 26), ปารีส (อันดับ 44), ฮ่องกง (อันดับ 48), ลอนดอนและนิวยอร์ก (อันดับ 50 ร่วม) ได้คะแนนด้านคุณภาพชีวิตต่ำกว่า โดยปัจจัยที่เป็นอุปสรรคคือราคาที่อยู่อาศัยที่แพง การเดินทางที่ยาวนาน และมลพิษสูง

...

อย่างไรก็ตามมาตรวัดนี้เป็นมาตรวัดที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจสูง โดยพิจารณาจากอำนาจซื้อ (PPP), ความปลอดภัย, การดูแลสุขภาพ, ค่าครองชีพ, ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย, เวลาการเดินทาง, มลพิษ และสภาพภูมิอากาศ