วัดปากน้ำภาษีเจริญ หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาของประเทศไทย วัดขึ้นชื่อที่มีคนศรัทธา และนิยมของพุทธศาสนิกชนชาวไทย ที่ตั้งอยู่บริเวณปากคลองด่านเชื่อมกับคลองบางกอกใหญ่ ในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
ประวัติวัดปากน้ำภาษีเจริญ
วัดปากน้ำภาษีเจริญนั้นก่อตั้งขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง สันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 200-300 ปี โดยวัดตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณปากคลองด่าน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับคลองบางกอกใหญ่ ทำให้เป็นที่มาของชื่อ "วัดปากน้ำ"
วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อสด (พระมงคลเทพมุนี) เป็นที่รู้จัก และศรัทธาอย่างกว้างขวาง โดยในปี พ.ศ. 2459 หลวงพ่อสด จันทสโร ได้เข้ามาเป็นเจ้าอาวาส และมีการพัฒนาวัด พลิกฟื้นทำให้วัดปากน้ำเป็นที่รู้จัก และกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
หลวงพ่อสดมรณภาพ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 แต่สรีระสังขารของท่านยังคงได้รับการเก็บรักษาไว้ ณ หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิรมิต ภายในวัด เพื่อให้ประชาชนได้สักการะมาจวบจนปัจจุบัน
วัดปากน้ำภาษีเจริญ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พุทธศาสนิกชน และพระสงฆ์นิยมมาปฏิบัติธรรม กราบไหว้หลวงพ่อสด จนกลายเป็นศูนย์กลางธรรมที่มีภิกษุ สามเณร และประชาชนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ไฮไลต์น่าสนใจวัดปากน้ำภาษีเจริญ
ศาสนสถานภายในวัดปากน้ำภาษีเจริญ มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล เจดียืเก่าแก่ที่สร้างในปี พ.ศ. 2547 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2555
พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล เป็นเจดีย์ในรูปแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ และล้านนาประยุกต์ มีความสูง 80 เมตร ฐานของเจดีย์ได้รับแรงบันดาลใจจากวัดโลกโมฬี จังหวัดเชียงใหม่
...
พระพุทธธรรมกายเทพมงคล พระใหญ่เด่นเป็นสง่า ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 40 เมตร สูง 69 เมตร ได้ถูกสร้างขึ้นตามนิมิตของหลวงพ่อสด จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วัดปากน้ำภาษีเจริญจึงเป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน เฉพาะอย่างยิ่งจากการฟื้นฟูและพัฒนาโดยหลวงพ่อสด จันทสโร ที่ทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางการปฏิบัติธรรมชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศไทย
การเดินทางไปยังวัดปากน้ำภาษีเจริญ
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ ลงสถานีวุฒากาศ (Wutthakat) ต่อด้วยวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีค่าโดยสารประมาณ 20-30 บาท หรือเดินประมาณ 600 เมตร อีกเส้นทางหนึ่งให้ลงสถานีตลาดพลู (Talat Phlu) จะสามารถต่อรถสองแถวที่ยังวัดปากน้ำได้ หรือเลือกลงสถานีบางหว้า (Bang Wa) สามารถต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่วัดได้เช่นกัน
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ ให้ลงสถานีบางไผ่ (Bang Phai) จากนั้นต่อด้วยนั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่วัดได้ หรือจะเดินเข้าไปก็ได้ (ประมาณ 800 เมตร) หากเลือกลงสถานีท่าพระ (Tha Phra) สามารถเดินไปที่วัดปากน้ำภาษีเจริญได้ประมาณ 6 นาที
เดินทางด้วยเรือไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ สามารถนั่งเรือจากคลองภาษีเจริญได้ โดยลงที่ท่าเรือวัดปากน้ำภาษีเจริญ
และอีกทางเลือกหนึ่ง คือ รถยนต์ส่วนตัว และแท็กซี่ ซึ่งสามารถขับรถไปได้ และมีที่จอดรถให้บริการที่วัด แต่ถนนทางเข้าวัดค่อนข้างแคบ อาจมีการจราจรติดขัดได้ และต้องระมัดระวัง
ภาพ และข้อมูล: istock, วัดปากน้ำภาษีเจริญ (Watpaknam.bkk)