การไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งใน Bucket list ของหลายคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง ซึ่งการจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดให้คุ้มค่าเงิน แถมใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ลำบาก และยังสนุกสนานด้วย สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงเริ่มต้นจากการวางแผนทริปล่วงหน้า โดยเรามีวิธีมาแนะนำดังนี้

1. จองตั๋วเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน

เที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดเริ่มต้นจากการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน มักจะมีค่าเดินทางถูกกว่าการจองในเวลากระชั้นชิด โดยเฉพาะถ้าต้องการไปเที่ยวในฤดูยอดฮิตอย่างฤดูใบไม้ร่วงที่ได้ชมใบไม้เปลี่ยน ฤดูหนาวที่ได้เจอหิมะ และฤดูใบไม้ผลิที่ได้ชมดอกซากุระ

ส่วนการเดินทางนั้น เที่ยวบินตรงจะมีราคาสูงกว่าเที่ยวบินที่ต่อเครื่องพอสมควร เพราะสะดวกสบายและถึงที่หมายเร็วกว่า แต่ถ้าหากคิดว่าถึงช้าหน่อยไม่เป็นไร ขอราคาจับต้องได้ก็พอ เลือกเที่ยวบินที่ต้องต่อเครื่องก็ไม่แย่เสมอไป และมีสายการบินให้เลือกมากมาย ทั้งแบบ Full service และแบบ Low cost ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบความสะดวกระดับไหน

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

ขณะเดียวกัน บางคนอาจจะชอบรอโปรโมชั่นลดราคาหรือโปรไฟไหม้ที่บางสายการบินมักจะประกาศออกมาเป็นระยะๆ แต่บางครั้งพอเข้าไปเลือกแล้วกลับพบว่าช่วงเวลาที่เราต้องการเดินทางกลับมีราคาสูงกว่าที่โปรโมชั่นตั้งไว้ หรือระยะเวลาเดินทางที่จัดโปรกระชั้นชิดเกินไปบ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนว่าแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน

2. จองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน

เมื่อจองตั๋วเครื่องบินได้แล้ว ต่อมาคือจองที่พักล่วงหน้าก็ช่วยให้เที่ยวญี่ปุ่นประหยัดลงด้วยเช่นกัน บางแพลตฟอร์มมีโปรโมชั่นจองล่วงหน้าแล้วจ่ายทีหลังในวันเข้าพักหรือจ่ายก่อนวันเดินทางไม่กี่วัน ทำให้เรามีเวลาตัดสินใจได้ และมักจะได้ราคาที่ดีกว่าตอนจองใกล้ๆ วันเดินทางอีกด้วย

สำหรับที่พักหากอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนักมักจะมีราคาสูงกว่าที่พักที่อยู่ในย่านที่พักอาศัยพอสมควร แต่ถ้าเน้นความสะดวกสบาย ไม่อยากเดินลากกระเป๋าไกลๆ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าทีเดียว โดยเฉพาะทริปที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุไปด้วย

3. วางแผนกิจกรรมในทริปล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน

ต่อมาคือการวางแผนกิจกรรมในทริปล่วงหน้าว่าอยากทำอะไรบ้างจะช่วยให้การไปเที่ยวญี่ปุ่นประหยัดและคุ้มค่ายิ่งขึ้น เช่น การจองตั๋วเข้าสวนสนุก เข้าชมนิทรรศการ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่หลายแพลตฟอร์มสามารถจองและระบุวันเข้าใช้บริการล่วงหน้าได้ในราคาที่ถูกกว่าจ่ายหน้างาน ซึ่งช่วยให้เราสามารถประหยัดเงินในการเที่ยวญี่ปุ่นได้พอสมควร

4. เลือกร้านอาหารราคาที่จับต้องได้

ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที่ ก็ต้องไม่พลาดการกินอาหารญี่ปุ่นร้านอร่อยๆ ที่มีคนรีวิวหรือแนะนำเยอะๆ ซึ่งบางร้านอาจมีราคาค่อนข้างสูง ถ้าอยากต้องการประหยัดด้วย ลองสลับเลือกร้านอาหารที่ราคาจับต้องได้ในบางมื้อดูบ้าง ซึ่งมีให้เลือกมากมายที่รสชาติดีและราคาไม่แพง โดยเฉพาะเชนร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านท้องถิ่น เพื่อคุมงบประมาณค่าอาหารในทริปไม่ให้บานปลาย แต่ก็ยังได้ความอร่อยและคุ้มค่าไปพร้อมกัน

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

นอกจากนี้ การซื้ออาหารอุ่นร้อนจากร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พักสำหรับเป็นมื้อเช้าหรือมื้อเย็นก็เป็นตัวเลือกในการประหยัดที่คุ้มค่าด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากราคาไม่แพงแล้วยังสะดวกสบายมากๆ อีกด้วย

5. วางแผนการเดินทางให้ตรงกับความต้องการ

การเดินทางในญี่ปุ่นด้วยรถไฟนับว่าสะดวกสบายมากๆ แต่ก็ควรวางแผนรูปแบบการเดินทางให้คุ้มค่ากับความต้องการด้วย หากมีแผนเดินทางข้ามภูมิภาคหรือไปเที่ยวหลายเมืองในระยะเวลาสั้นๆ การใช้แพ็คเกจรถไฟ Japan Rail Pass (JR Pass) ก็คุ้มค่า แต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปเที่ยวหลายเมือง การใช้รถไฟท้องถิ่นและรถไฟใต้ดินเป็นวิธีที่คุ้มค่าและสะดวกที่สุด แนะนำให้ซื้อบัตร IC Card (เช่น Suica, Pasmo, Icoca) เพื่อความสะดวกในการแตะเข้า-ออกสถานีโดยไม่ต้องซื้อตั๋วบ่อยๆ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

บางเมือง การเดินทางด้วยรถบัสอาจคุ้มค่ากว่ารถไฟ และสามารถพาไปยังสถานที่ที่รถไฟไปไม่ถึง นอกจากนี้การเช่ารถขับเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง หรือเดินทางในพื้นที่ชนบทที่ระบบขนส่งสาธารณะไม่ทั่วถึง แต่ต้องคำนึงถึงค่าทางด่วนและค่าที่จอดรถด้วย

6. ตั้งสติและงบประมาณในการช้อปปิ้ง

มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ช้อปปิ้งเลย อาจทำให้รู้สึกเหมือนมาไม่ถึง เพราะสินค้าหลายอย่างก็มีทั้งราคาและหน้าตาน่าซื้อจนทำให้กระเป๋าตังค์สั่นสะเทือน แต่ถ้าไม่อยากช้อปปิ้งจนขาดสติแล้วต้องมาใช้หนี้บัตรเครดิตทีหลัง เรามีวิธีช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นให้ประหยัดด้วยการ “ตั้งสติ” ก่อนซื้อ

อันดับแรกก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น ควรทำการบ้านดูรีวิวของที่เราอยากได้ว่ามีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ ใช้แล้วดีจริงไหม คุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง สกินแคร์ต่างๆ ที่แม้ว่าหลายคนอาจจะรีวิวว่าดี ควรค่าแก่การซื้อ แต่บางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

เมื่ออยู่หน้างาน ที่มีของให้เลือกซื้อล่อตาล่อใจเต็มไปหมด ก่อนหยิบลงตะกร้า อย่าลืมคำนวณเป็นเงินไทยแล้วเช็กว่าราคาต่างกันมากหรือไม่ ซื้อไปแล้วได้ใช้จริงหรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่ ก็ตัดใจได้ เพราะคำว่าของมันต้องมี นั้นไม่มีอยู่จริง หลายอย่างเราไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องเหมือนใครก็ได้

ถ้าหากอยากช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม นอกจากการเช็กเรทราคาเทียบญี่ปุ่นกับไทยแล้ว การไปช้อปปิ้งที่เอาท์เล็ตใกล้สนามบินก็เป็นทางเลือกที่ช่วยให้เราประหยัดขึ้นได้ เพราะมีราคาถูกกว่าร้านค้าในเมือง แต่ข้อเสียคืออาจจะไม่มีรุ่นที่เราสนใจ นอกจากนี้ในเอาท์เล็ตยังมีสินค้าของฝากในราคาจับต้องได้ให้เลือกซื้อก่อนขึ้นเครื่องกลับอีกด้วย

อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นประหยัดยิ่งขึ้นก็คือการเที่ยวนอกฤดูกาลยอดนิยมอย่างเช่นหน้าร้อน ก็มักจะมีค่าเดินทางกับค่าที่พักถูกลงกว่าเดิมมาก แต่ก็แลกมาด้วยกับอากาศที่ไม่ต่างจากไทยมากนัก แต่ถ้าอยากลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้ในบ้านเรา ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าลองไม่น้อยเช่นกัน