แชร์เคล็ดลับที่ทำให้สุขภาพดี แถมอารมณ์แจ่มใส สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเริ่มต้นการดูแลลำไส้และสมอง สองอวัยวะสำคัญที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งผ่านแกนลำไส้ และสมอง (Gut-Brain Axis) เนื่องจากในลำไส้ของเรามีเซลล์ประสาทมากมาย อีกทั้งจุลินทรีย์ในลำไส้ยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาทอย่างเซโรโทนิน ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์และความสุขโดยตรง
การเลือกกินอาหารที่บำรุงทั้งลำไส้และสมองไปพร้อมกันจึงเป็นหัวใจสำคัญสู่การมีสุขภาพที่ดี และอารมณ์ที่สดใส
รวมเคล็ดลับการโภชนาการเพื่อลำไส้และสมองที่แข็งแรง
เน้น Probiotics (จุลินทรีย์ดี) เพราะ Probiotics คือ จุลินทรีย์มีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดการอักเสบ และอาจช่วยผลิตสารสื่อประสาทได้ ซึ่งมีแหล่งอาหารอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ถ้าให้ดีสามารถเลือกแบบที่มี Active Live Cultures และน้ำตาลน้อย รวมถึงนมเปรี้ยว, กิมจิ, คอมบูชา, มิโสะ, เทมเป้, ซาวร์เคราต์ ทั้งหมดล้วนส่งผลที่ดีต่อลำไส้เป็นอย่างมาก
เติม Prebiotics (อาหารของจุลินทรีย์ดี) ใยอาหารที่ร่างกายย่อยไม่ได้ แต่เป็นอาหารชั้นดีให้จุลินทรีย์ดีในลำไส้เจริญเติบโตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบลำไส้ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผัก และผลไม้สดหลากหลายชนิด โดยเฉพาะหัวหอม, กระเทียม, หน่อไม้ฝรั่ง, กล้วยน้ำว้าห่าม, แอปเปิล, เบอร์รี่ถือว่ามี Prebiotics ที่สูง รวมไปถึงธัญพืชไม่ขัดสี (ข้าวโอ๊ต, ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีท), ถั่วและพืชตระกูลถั่ว (ถั่วฝักยาว, ถั่วลันเตา, ถั่วลูกไก่, ถั่วเลนทิล) ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
เลือกไขมันดีเพื่อสมองและลดการอักเสบ ไขมันดีอย่าง Omega-3 ก็มีส่วนสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของเซลล์สมอง ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และลำไส้ โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกอย่างแซลมอน, แมคเคอเรล, ซาร์ดีน, ทูน่า หรือแม้กระทั่งถั่วและเมล็ดพืช จำพวกวอลนัท, เมล็ดแฟลกซ์, เมล็ดเจีย และอะโวคาโด
...
สารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินบำรุงสมอง ทั้งหมดช่วยปกป้องเซลล์สมอง แถมวิตามินบางชนิดก็จำเป็นต่อระบบประสาทเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า, ผักโขม, บรอกโคลี หรือ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อย่างบลูเบอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, ดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไป, ขมิ้นชัน, ข้าวกล้องงอก
ลดและเลี่ยงอาหารทำร้ายลำไส้และสมอง เพราะอาหารบางชนิดอาจทำลายสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้และส่งผลเสียต่อสมอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูปสูง, น้ำตาลและเครื่องดื่มรสหวาน, ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์, แอลกอฮอล์ ของเหล่านี้ล้วนทำลายระบบลำไส้ และสมองให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง
นอกจากกินอาหารตามโภชนาการแบบ Gut-Brain Connection แล้ว ยังมีแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อสุขภาพองค์รวมที่ดี ไม่ว่าจะเป็น การดื่มน้ำเปล่าให้พอ ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น รวมถึงการนอนหลับพักผ่อน สามารถส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพสมองและอารมณ์ ช่วยจัดการความเครียด ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแกนลำไส้-สมอง
หากมีความเครียดให้ลองฝึกสมาธิ โยคะ หรือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และลดความเครียดได้เช่นกัน และการกินอาหารที่หลากหลาย เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วนและจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สมดุล
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและวิถีชีวิตทีละน้อย จะช่วยให้ลำไส้แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้สมองทำงานได้ดี มีสมาธิ และอารมณ์ดีขึ้นอย่างยั่งยืน