ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนโลหิต โดยข้อมูลสถิติการบริจาคโลหิตในประเทศไทย ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ พบว่าในปี 2567 มีประชากรบริจาคโลหิตเพียง 1.65 ล้านคน จาก 66 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.5% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานโลก
โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) มาบริจาคเลือดเพียงแค่ 10% ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่เกือบบริจาคเลือดน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่ามีคนมาบริจาคเลือดครั้งแรก 68% แต่มีผู้มาบริจาคซ้ำเพียง 18% เท่านั้น จึงส่งผลให้สภากาชาดไทยจ่ายเลือดได้เพียง 50% ของความต้องการทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงได้ร่วมมือกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) และสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) รวมถึงองค์กรพันธมิตรกว่า 900 รายทั่วประเทศ ยกระดับการบริจาคโลหิตเป็น “วาระแห่งชาติ” ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ชวนบริจาคโลหิตผ่านแคมเปญ #BLOODCONNECT ภายใต้แนวคิด “We Are All Connected - เลือดเชื่อมชีวิต...ให้ทุกชีวิตได้ไปต่อ” เพื่อมอบโอกาสและต่อชีวิตให้ผู้ป่วย และให้คน Gen Z เห็นความสำคัญของการบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้ไทยมีปริมาณโลหิตสำรองเพียงพอสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ
รศ. พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย เผยว่า
“กลุ่มวัย Gen Z เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่สามารถบริจาคโลหิตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต หากเริ่มต้นเป็นผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่อายุ 17 ปีบริบูรณ์ จะมีช่วงระยะเวลาบริจาคโลหิตได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่จากสถิติการบริจาคโลหิตที่น่าสนใจของกลุ่มเยาวชน ที่มีอายุระหว่าง 17-20 ปี ในระหว่างปี 2566 - 2567 มีเพียง 10% จากผู้บริจาคโลหิตในทุกช่วงอายุ โดยในปี 2566 มีเยาวชนบริจาคโลหิต จำนวน 167,478 คน จากผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด 1.63 ล้านคน ขณะที่ปี 2567 มีเยาวชนบริจาคโลหิต จำนวน 162,170 คน จากผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด 1.65 ล้านคน”
...

ด้าน ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานอนุกรรมการรณรงค์เพิ่มผู้บริจาคโลหิต ในคณะกรรมการจัดหา และส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวเสริมว่าจากสถิติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง 3 ภาคีหลักในสังคมไทย ได้แก่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) และสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) พร้อมด้วยภาคเอกชนชั้นนำทั่วประเทศ สร้างสรรค์แคมเปญเพื่อขับเคลื่อนสังคมด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยมีปริมาณโลหิตสำรองเพียงพอสำหรับผู้ป่วยอย่างยั่งยืน
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) เผยว่า
“การร่วมมือครั้งนี้ก็เพื่อช่วยสร้างการขับเคลื่อนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัย Gen Z ที่มีทั้งนักเรียนไปจนถึงวัยทำงานตอนต้น ที่หลายคนอยากสร้างสังคมดีๆ และให้ความสำคัญแก่เพื่อนและครอบครัว การสร้างแคมเปญนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นใหม่ พร้อมร่วมมือกับคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจพฤติกรรมคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริงในรูปแบบภาคี เพื่อสร้างวัฒนธรรมการให้ที่ยั่งยืนในสังคม”
โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาดและนวัตกรรม เดนท์สุ ประเทศไทย ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดแนวคิดเชิงกลยุทธ์ และออกแบบโครงสร้างแคมเปญนี้ โดยเน้นทำความเข้าใจอินไซต์ของคนรุ่นใหม่อย่างลึกซึ้ง เผยว่า
“เราต้องการสร้างความคิดใหม่ให้กับเยาวชน การสื่อสารแบบเดิมที่บอกว่าบริจาคเลือดแล้วได้บุญไม่ได้ผลกับคนรุ่นใหม่อีกต่อไป การที่คิดต่างไม่ใช่เรื่องแปลก อย่าไปปรามาสกัน แต่ควรที่จะทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับโลกแห่งความเป็นจริง อย่าไปคิดแทนเขา ต้องให้คนรุ่นใหม่เข้าใจการตลาดถึงความสัมพันธ์ที่ทุกคนมีความเชื่อมโยงกัน ให้เขาเข้าใจถึงความสำคัญของการบริจาคเลือด”
นายรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย (AAT) กล่าวว่าแคมเปญนี้เป็นการอาสาสมัครจากหลายๆ องค์กรเพื่อช่วยกันเชิญชวนให้คนรุ่นใหม่มาบริจาคเลือด ซึ่งเขายอมรับว่าการสื่อสารไม่ง่ายเหมือนคนรุ่นอื่นๆ

“เพราะ Gen Z เป็นเจนที่ไม่ชอบฟังคำสั่ง แต่ต้องการให้สังคมดีขึ้นแบบยั่งยืน ทำให้กระบวนการสื่อสารต้องเป็นวิธีใหม่ เพื่อสื่อสารให้เข้าใจและอยากมีส่วนร่วม โดยไม่ใช่การออกคำสั่ง ไม่บังคับ และให้ทุกเจนมีส่วนร่วมได้ โดยเราเตรียมแคมเปญนี้มานานถึง 15 เดือนแล้ว”
...
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาในแคมเปญนี้เป็นฝีมือการกำกับของคุณสุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์และทีมงานมาร่วมสร้างสรรค์งานนี้ และเชื่อว่าแคมเปญนี้จะตอบโจทย์ insight ของ Gen Z อย่างตรงจุด รวมทั้งยังวางรากฐานของ “ทัศนคติและวัฒนธรรม” แห่ง “การให้” ผ่านการเล่าเรื่องราวที่สร้างความรู้สึกและอารมณ์ร่วมกันได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้สมาคมโฆษณาฯ ยังได้เชิญคนดัง 4 ท่าน ได้แก่ “ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน” “อุ้ม - อิษยา ฮอสุวรรณ” “กองทัพ พีค” และ “วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” มาร่วมเป็นกระบอกเสียงสร้างแรงบันดาลใจ ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เกิดการรับรู้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงพฤติกรรมและทัศนคติ ผลักดันการบริจาคโลหิตให้กลายเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน
ร่วมสร้างปรากฏการณ์ Blood Connect เลือดเชื่อมชีวิต ให้ทุกชีวิตได้ไปต่อ โดยโพสต์แบนเนอร์พร้อมกันทั่วประเทศ วันพุธที่ 18 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. ดาวน์โหลด Template ได้ที่ https://shorturl.asia/r8D2s หรือสแกน QR Code