ค่าไฟหน่วยละกี่บาท 2568 เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะมีการปรับขึ้นหรือปรับลงอยู่บ่อยครั้ง อาจจะสร้างความสับสนได้ อีกทั้งการคำนวณค่าไฟขึ้นอยู่องค์ประกอบหลายอย่าง บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์จึงจะพาไปหาคำตอบค่าไฟหน่วยละกี่บาท คำนวณอย่างไร พร้อมเคล็ดลับช่วยลดค่าไฟง่ายๆ 

ไขข้อสงสัย ค่าไฟฟ้าหน่วยละกี่บาท 2568

ในประเทศไทยมีการปรับค่าไฟอยู่บ่อยครั้ง โดยล่าสุดทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้มีมติปรับค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ประจำเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนซึ่งเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าเท่ากับ 19.72 สตางค์ต่อหน่วย หรือ 0.1972 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 

รู้จัก ค่า Ft คืออะไร

ค่า Ft (Fuel Adjustment Charge (at the given time)) คือ ค่าไฟฟ้าผันแปร ที่เกิดจากการคำนวณค่าเชื้อเพลง ค่าซื้อไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะปรับขึ้นหรือลดลงตามค่าเชื้อเพลงที่แปรผัน 

แน่นอนว่าค่า Ft เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำมาคำนวณค่าไฟที่การไฟฟ้าเรียกเก็บแต่ละเดือน โดยมีวิธีคำนวณ ดังนี้

“ค่าไฟฟ้า = ค่าพลังงานไฟฟ้า+ค่าบริการรายเดือน+ค่า Ft+Vat 7%”

ทั้งนี้ หากต้องการประมาณการค่าไฟฟ้าง่ายๆ ก็สามารถคำนวณได้ผ่านระบบประมาณการค่าไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกันได้ เพียงกรอกประเภทไฟฟ้า, ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า, เดือน, ปีพุทธศักราช และปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบจะทำการคำนวณค่าไฟให้อัตโนมัติ

...

วิธีคำนวณค่าไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด

วิธีการคำนวณค่าไฟแต่ละชิ้นภายในบ้าน ให้สำรวจตัวเลขกำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ และจำนวนที่ใช้ ตามสูตรดังนี้

“(กำลังไฟฟ้า (วัตต์) ÷ 1000) x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 เดือน = จำนวนหน่วยยูนิต”

จากนั้นให้นำมาเทียบกับอัตราค่าไฟในปัจจุบัน ดังนี้

“จำนวนหน่วยยูนิต x อัตราค่าไฟต่อหน่วย = ค่าไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ใน 1 เดือน”

ส่อง 4 ปัจจัยที่มีผลต่อค่าไฟแพงขึ้น

แม้ว่าในบางเดือนใช้ไฟน้อย แต่เมื่อถึงสิ้นเดือน ค่าไฟกลับแพงขึ้นกว่า สามารถสังเกตได้จาก 5 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นสูง

ค่า Ft คือ ค่าไฟฟ้าผันแปร ที่เกิดจากการคำนวณค่าเชื้อเพลง ค่าซื้อไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะปรับขึ้นหรือลดลงตามค่าเชื้อเพลงที่แปรผัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการปรับค่า Ft เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด มีไฟรั่ว

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟสูงหากชำรุด หรือเสียหาย อาจส่งผลให้กินไฟมากกว่าปกติ หากค่าไฟเพิ่มขึ้นสูง แนะนำให้เช็กเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ร่วมด้วย

สภาพอากาศ

สภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือตู้เย็นทำงานหนักกว่าเดิม และกินไฟมากขึ้น

พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า

พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าบางอย่างอาจส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ทำงานตลอดวัน การอาบน้ำด้วยเครื่องทำน้ำอุ่น หรือการเปิดเครื่องฟอกอากาศ ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นได้

แจกทริคง่ายๆ ช่วยประหยัดไฟได้

หากใครที่ค่าไฟเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน สามารถทำตามเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยลดค่าไฟได้ ดังนี้

  • เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสม
  • ล้างเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ เพื่อลดการทำงานหนัก
  • ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า และถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน
  • ไม่เสียบปลั๊กชาร์จโทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทิ้งไว้ เมื่อแบตเตอรี่เต็ม
  • เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
  • ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ และเปิดหน้าต่างใช้แสงธรรมชาติแทน
  • ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนัง 15 เซนติเมตร และไม่นำอาหารร้อนแช่ในตู้เย็น
  • เลือกใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไฟแบบธรรมดา
  • ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์แทน
  • ปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้าน เพื่อช่วยเพิ่มความร่มรื่น และลดอุณหภูมิภายในบ้าน

ไขข้อสงสัย ค่าไฟค้างได้กี่เดือน

หลายๆ คนอาจจะเผชิญปัญหาการลืมจ่ายค่าไฟ หรือมีเหตุให้ต้องค้างชำระ ซึ่งการค้างชำระนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ โดยส่วนใหญ่มักจะไม่เกิน 1 เดือน ก็จะมีการออกใบให้ไปชำระ และทำการตัดสายไฟฟ้า และตัดมิเตอร์ตามลำดับ

...

หากใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า ชำระค่าไฟ แจ้งเหตุ หรือข้อเสนอแนะต่างๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร 1129 หรือแอปพลิเคชัน PEA Smart Plus ดาวน์โหลดได้ที่ได้ที่ App Store และ Google Play

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย