ยุคที่ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 แนวทางการคัดเลือกบุคลากรได้เปลี่ยนไปผู้จัดการฝ่ายทรัพ ยากรบุคคลไม่ได้ให้ความสำคัญกับสถาบันการศึกษาหรือสาขาวิชาที่จบมาเป็นอันดับแรกอีกต่อไป แต่พุ่งเป้าไปที่คำถามสำคัญว่า "คุณสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้อะไรบ้าง และมีผลงานอะไรเป็นที่ประจักษ์ในอดีต"
ความสามารถในการสร้างผลลัพธ์ไม่ได้ผูกติดอยู่กับเอกสารทางการศึกษาหรือตำแหน่งทางวิชาการเพียงอย่างเดียว (แม้สิ่งเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ในบางสายอาชีพ)
ปัจจุบันมักขึ้นอยู่กับ "ทักษะ" และ "ความสามารถในการจ้างงาน" (Employability Skills) เป็นสำคัญ ตลาดงานในปี 2025 จะวัดความสามารถจากความเชี่ยวชาญในทักษะที่เป็นที่ต้องการสูงสุดของนายจ้าง
แนวโน้มนี้ได้รับการยืนยันจากองค์กรขนาดใหญ่อย่าง JPMorganChase ซึ่งตระหนักถึงคุณค่าของการจ้างงานโดยพิจารณาจากทักษะมากกว่าคุณวุฒิทางการศึกษา
รายงาน Top Companies 2025 ของ LinkedIn ระบุว่า ประมาณ 70% ของตำแหน่งงานสำหรับผู้มีประสบการณ์ที่ JPMorganChase ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย ทั้งหมดเป็นสัญญาณชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงาน
สอดคล้องกับรายงานอนาคตของงาน (Future of Jobs Report) ประจำปี 2025 โดยสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ที่ชี้ให้เห็นว่ามีทักษะบางประเภทกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่บางทักษะกำลังลดความสำคัญลง ทักษะที่กำลังเติบโตเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในสภาวะปัจจุบันที่เกิด "วิกฤตทักษะ" (Skills Crisis) ช่องว่างทางทักษะขยายกว้างขึ้นตามความก้าวหน้าของนวัตกรรมและเทคโนโลยี
...
ทั้งหมดทำให้นายจ้างต้องเผชิญความท้าทายในการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถเหมาะสม เพื่อปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และรับมือกับผลกระทบจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีใหม่ๆ
ทักษะสำคัญที่นายจ้างต้องการในปี 2025
รายงานดังกล่าวได้จำแนกทักษะออกเป็น Core Skills และ Rising Skills โดยทักษะหลักที่เป็นที่ต้องการอย่างสูงจากนายจ้างในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสะท้อนแนวโน้มสากล ประกอบด้วย
- การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking): ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์อย่างมีเหตุผล
- ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Resilience, Flexibility, and Agility): ความสามารถในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและฟื้นตัวจากอุปสรรค
- ความเป็นผู้นำและการสร้างอิทธิพลทางสังคม (Leadership and Social Influence): ความสามารถในการนำทีมและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น
- การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking): ความสามารถในการคิดนอกกรอบและสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ
- แรงจูงใจและการตระหนักรู้ในตนเอง (Motivation and Self-Awareness): ความเข้าใจในตนเองและมีแรงผลักดันในการทำงาน
- ความเห็นอกเห็นใจและการฟังอย่างตั้งใจ (Empathy and Active Listening): ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่นและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความใฝ่รู้และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Curiosity and Lifelong Learning): ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
- ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Technological Literacy): ความเข้าใจและสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม
- ปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลขนาดใหญ่ (AI and Big Data): ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ AI และการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
- การบริหารจัดการผู้มีความสามารถ (Talent Management): ทักษะในการดูแลและพัฒนาบุคลากร
ในขณะเดียวกัน Rising Skills ที่คาดว่าจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามีทักษะใหม่ๆ ที่น่าจับตามอง ได้แก่
- ปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลขนาดใหญ่ (AI and Big Data)
- เครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Networking and Cybersecurity)
- ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Technological Literacy)
- ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Resilience, Flexibility, and Agility)
- การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
- ความใฝ่รู้และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Curiosity and Lifelong Learning)
- ความเป็นผู้นำและการสร้างอิทธิพลทางสังคม (Leadership and Social Influence)
- การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking)
- การดูแลสิ่งแวดล้อม (Environmental Stewardship): ความเข้าใจและใส่ใจต่อประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
- การเขียนโปรแกรม (Programming): ทักษะพื้นฐานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์
- ความเป็นพลเมืองโลก (Global Citizenship): ความเข้าใจในความเชื่อมโยงและความรับผิดชอบในระดับสากล
ทักษะใหม่ 3 ประการที่โดดเด่นขึ้นมา คือ การดูแลสิ่งแวดล้อม, การเขียนโปรแกรม, ความเป็นพลเมืองโลกที่สะท้อนถึงแนวโน้มสำคัญของโลกปัจจุบัน ทั้งการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR), การทำงานทางไกลที่เพิ่มขึ้น และความจำเป็นของทักษะทางเทคนิคเพื่อรองรับระบบที่ซับซ้อนและการบูรณาการ AI
ข้อเสนอทักษะในการปรับปรุงเรซูเม่
เมื่อปรับปรุงเรซูเม่ ควรพิจารณาทักษะเหล่านี้อย่างรอบคอบ และหาวิธีนำเสนอที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์การทำงาน ส่วนทักษะ หรือบทสรุปทางอาชีพอย่างสร้างสรรค์
ควรระบุระดับความเชี่ยวชาญ พร้อมยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เช่น อธิบายถึงโครงการที่ริเริ่มหรือวางแผน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างผลกระทบทางสังคม หรือความร่วมมือในที่ทำงาน แม้จะเป็นงานอาสาสมัครก็ตาม สิ่งสำคัญคือการกล่าวถึงผลลัพธ์ความสำเร็จของโครงการเหล่านั้นอย่างชัดเจน
...
นอกจากนี้ หากกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาทักษะใดทักษะหนึ่ง เช่น การคิดวิเคราะห์ สามารถระบุหลักสูตรที่กำลังศึกษา หรือการศึกษาเพิ่มเติมได้
ท้ายที่สุด กุญแจสำคัญสู่ความก้าวหน้าทางอาชีพคือการทำให้ตนเองโดดเด่น ผ่านการเรียนรู้ทักษะที่เป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง และฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายในสายอาชีพ เพื่อให้พร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายในโลกการทำงานยุคใหม่
ข้อมูล : Forbes