แผ่นดินไหวอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับกรุงเทพมหานครอีกต่อไป แม้ว่าโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงโดยตรงในพื้นที่จะมีน้อย แต่แรงสั่นสะเทือนจากแหล่งกำเนิดที่อยู่ห่างไกลออกไปก็สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญได้ ดังนั้น การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์แผ่นดินไหวจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง

การเตรียมตัวก่อนเกิดแผ่นดินไหว (ช่วงเวลาปกติ)

ในช่วงเวลาปกติที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อใด การเตรียมพร้อมอยู่เสมอคือสิ่งที่ดีที่สุด โดยควรเตรียมสิ่งของและความรู้ที่จำเป็นดังนี้

  • เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน: ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง, วิทยุพกพา, แบตเตอรี่สำรอง
  • ชุดปฐมพยาบาล: เตรียมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้พร้อมใช้งาน
  • เรียนรู้การปฐมพยาบาล: ฝึกฝนวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น
  • อุปกรณ์ดับเพลิง: จัดเตรียมเครื่องมือดับเพลิงที่เหมาะสมไว้ในบ้านหรืออาคาร
  • รู้จักระบบตัดไฟ/น้ำ/แก๊ส: สมาชิกในบ้านหรืออาคารควรรู้ตำแหน่งและวิธีปิดวาล์วน้ำ, วาล์วแก๊ส และสะพานไฟ (เบรกเกอร์) เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน
  • จัดวางสิ่งของอย่างปลอดภัย: ไม่วางสิ่งของที่มีน้ำหนักมากไว้บนชั้นสูง เพื่อป้องกันการร่วงหล่น
  • ยึดเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์: ยึดเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักมาก เช่น ตู้หนังสือ ชั้นวางของ ให้แน่นกับพื้นหรือผนัง
  • ตรวจสอบความแข็งแรงของอาคาร: หากเป็นไปได้ ควรตรวจสอบหรือก่อสร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจมีความเสี่ยง

...

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

เมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งสติและปฏิบัติดังนี้

  1. ควบคุมสติ: พยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุด อย่าตื่นตระหนก
  2. หากอยู่ในอาคาร:
    ให้หมอบลงใต้โต๊ะหรือโครงสร้างที่แข็งแรง หรือหลบในมุมห้อง
    ป้องกันศีรษะและลำคอด้วยแขนหรือวัตถุ
    อยู่ห่างจากประตู, หน้าต่าง, กระจก, ระเบียง และสิ่งของที่อาจร่วงหล่นใส่
  3. หากอยู่ในตึกสูง:
    หาที่กำบังจากสิ่งของที่อาจตกใส่
    เมื่อการสั่นสะเทือนหยุด ให้รีบออกจากอาคารอย่างระมัดระวัง โดยใช้บันไดหนีไฟ
  4. ห้ามใช้ลิฟต์เด็ดขาด: ลิฟต์อาจค้างหรือเกิดอันตรายได้ ให้ใช้บันไดเท่านั้น
  5. หากอยู่ในที่โล่ง: อยู่ให้ห่างจากอาคาร, เสาไฟฟ้า, ป้ายโฆษณา, กำแพง หรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่มั่นคงที่อาจล้มทับได้
  6. ห้ามจุดไฟ: อย่าใช้เทียน, ไม้ขีดไฟ หรืออุปกรณ์ใดๆ ที่ทำให้เกิดประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วไหลอยู่
  7. หากกำลังขับรถ: ค่อยๆ ชะลอความเร็วและจอดรถในที่โล่งและปลอดภัย ห่างจากอาคาร สะพาน หรือเสาไฟฟ้า และอยู่ภายในรถจนกว่าการสั่นสะเทือนจะหยุด
  8. หากอยู่ใกล้ชายหาด: รีบหนีขึ้นที่สูงทันที เนื่องจากอาจเกิดคลื่นสึนามิตามมาหลังแผ่นดินไหวได้

ข้อควรปฏิบัติหลังแผ่นดินไหวสงบ

เมื่อการสั่นสะเทือนหลักหยุดลงแล้ว ให้ปฏิบัติดังนี้

  • ตรวจสอบตนเองและคนรอบข้าง: ดูว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากมี ให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามความเหมาะสม
  • ออกจากอาคารที่เสียหาย: หากอาคารที่อยู่ไม่ปลอดภัยหรือมีร่องรอยความเสียหาย ให้รีบออกจากอาคารทันทีอย่างระมัดระวัง
  • สวมรองเท้า: ควรใส่รองเท้าเสมอ โดยเฉพาะรองเท้าหุ้มส้น เพื่อป้องกันการเหยียบเศษแก้วหรือวัสดุแหลมคมที่ตกอยู่บนพื้น
  • ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภค
    ตรวจสอบสายไฟ, ท่อน้ำ, และท่อแก๊ส
    หากได้กลิ่นแก๊สรั่ว ให้รีบปิดวาล์วที่ถังแก๊สหรือมิเตอร์แก๊สทันที เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
    ห้ามเปิดสวิตช์ไฟหรือจุดประกายไฟใดๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว และแจ้งเจ้าหน้าที่
    หากพบสายไฟขาดหรือหลุดร่วง ให้อยู่ห่างๆ และแจ้งการไฟฟ้า
  • ติดตามข่าวสาร: เปิดรับฟังข้อมูลและคำแนะนำจากทางราชการผ่านวิทยุ หรือช่องทางประกาศที่น่าเชื่อถือ ใช้โทรศัพท์เท่าที่จำเป็น เพื่อสงวนช่องสัญญาณไว้สำหรับเหตุฉุกเฉิน
  • ตรวจสอบระบบสุขาภิบาล: สำรวจความเสียหายของท่อน้ำดี, ท่อน้ำทิ้ง และท่อส้วม ก่อนกลับมาใช้งาน
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่อันตราย: อย่าเข้าไปในอาคารที่เสียหาย หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง และอย่ามุงดูในที่เกิดเหตุ เพราะอาจเกิดอันตรายซ้ำซ้อน (Aftershock) หรือกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
  • ไม่สร้างและไม่ส่งต่อข่าวลือ: รับฟังข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น และตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อนส่งต่อให้ผู้อื่น

...

การเตรียมพร้อมและรู้หลักปฏิบัติที่ถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงและความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้

ที่มาข้อมูล: กรมทรัพยากรธรณี