น้าร้อนเดือนไหน 2568 เป็นอีกคำถามที่หลายๆ คนสงสัย เนื่องจากอุณหภูมิในประเทศไทยเริ่มสูงขึ้น หลังจากที่อากาศดีติดต่อกันมาหลายเดือน บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปไขข้อสงสัยหน้าร้อนเดือนไหน พร้อมวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น จะวางแผนเที่ยวหรือออกไปกลางแจ้งก็สนุก ปลอดภัยไปกับหน้าร้อนนี้ได้

หน้าร้อนเดือนไหน 2568 แต่ละภาคต่างกันอย่างไร

เนื่องด้วยความแตกต่างของภูมิศาสตร์และพื้นที่ตั้งแตกต่างกัน ย่อมส่งผลให้ฤดูกาลหรืออิทธิพลที่ส่งผลให้เกิดฝนต่างกันด้วย ดังนี้

หน้าร้อนเดือนไหน 2568 ภาคเหนือ

ภาคเหนือเป็นภูมิภาคที่มี 3 ฤดู ได้แก่ ร้อน ฝน และหนาว ซึ่งฤดูร้อนจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยในเดือนเมษายนจะมีอากาศร้อนสูงสุด

หน้าร้อนเดือนไหน 2568 ภาคกลาง

ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีต้นไม้หรือภูเขาสูงน้อย ส่วนใหญ่จะมีแม่น้ำ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม โดยช่วงฤดูร้อนจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม

หน้าร้อนเดือนไหน 2568 ภาคใต้

ภาคใต้ นับเป็นพื้นที่ภูมิศาสตร์อยู่ติดทะเล มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน ซึ่งทางฝั่งตะวันออกหรือฝั่งอ่าวไทย ฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน ส่วนฝั่งตะวันตกหรือฝั่งทะเลอันดามัน ฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน

หน้าร้อนเดือนไหน 2568 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ช่วงเวลาหน้าฝนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะคล้ายคลึงกับภาคกลางและภาคเหนือ คือ เริ่มเข้าสู่หน้าฝนช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2568

...

หน้าร้อนเดือนไหนถึงเดือนไหนบ้าง

ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาได้กล่าวไว้ว่า ประเทศไทยสิ้นสุดฤดูหนาวและเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 และคาดว่าจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568

ทั้งนี้ อุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทยตอนบนสูงขึ้นและมีอากาศร้อน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้หรือลมฝ่ายใต้พัดปกคลุม ซึ่งเป็นการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าต่อไปอีกระยะหนึ่ง

เช็ก 5 วิธีดูแลตัวเองในช่วงหน้าร้อน

เนื่องจากในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิจะพุ่งขึ้นสูงตั้งแต่ 35-40 องศาเซลเซียส ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศที่ร้อนยิ่งขึ้น แนะนำ 5 วิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ดังนี้

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากในช่วงฤดูร้อนจะสูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติ ควรดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำแร่ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เบา หลวม เนื่องจากจะช่วยให้ร่างกายระบายอุณหภูมิได้ดียิ่งขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อน
  • ควรป้องกันแสงแดด เช่น ทาครีมกันแดด สวมเสื้อคลุม หมวก หรือแว่นกันแดด ขณะออกกลางแจ้ง
  • กินอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของแบคทีเรีย หรือไวรัส ซึ่งจะก่อให้เกิดการติดเชื้อโรคได้ง่ายในฤดูร้อน

หน้าร้อน 2568 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ อุณหภูมิจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ หากใครต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง แนะนำให้ดูแลตัวเองในเบื้องต้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการฮีทสโตรกหรือโรคยอดฮิตที่มากับหน้าร้อน

ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา