Work-Life Balance เทรนด์การทำงานใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นหนึ่งในแรงจูงใจสำคัญ แทนที่จำนวนเงินเดือน ได้ขึ้นมาเป็นปัจจัยอันดับแรกๆ ที่คนคำนึงถึงในการทำงาน

ในยุคที่เทคโนโลยีและโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น คนทำงานรุ่นใหม่จึงมองหาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) มากกว่าแค่เงินเดือนและผลตอบแทน

การมีเวลาส่วนตัวที่เพียงพอ การได้พักผ่อน และการดูแลสุขภาพกายและใจ กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกงานและองค์กร

ปีนี้เป็นครั้งแรกในการสำรวจประจำปีของ Randstad ที่มีพนักงานทั่วโลกกว่า 26,000 คน พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 83% ระบุว่า “การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน (Work-Life Balance)” เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมีอันดับสูงกว่า “เงินเดือน” ในฐานะแรงกระตุ้นอันดับต้นๆ เป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี

แน่นอนว่าเฉพาะคน Gen Z มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมีจำนวนถึง 74% ของพวกเขาทั้งหมดมองว่า Work-Life Balance นั้นสำคัญที่สุดในการทำงาน ขณะที่การจ่ายเงินเป็นสิ่งสำคัญ มีเพียงแค่ 68% เท่านั้น 

ผลสำรวจจากทาง Gen Z ในการเลือกงานทำในปี 2025 ได้ให้ข้อมูลว่า พวกเขาจะไม่รับงานที่มีค่านิยมที่ไม่สอดคล้องกับพวกเขาถึง 48% เทียบกับปีก่อนที่ 38% และเหตุผลของการเลือกลาออกเพราะงานไม่ตอบโจทย์ หรือไม่เหมาะกับชีวิตส่วนตัวของตนเองมีถึง 43% เมื่อเทียบกับคน Baby Boomers เป็นจำนวน 28% เท่านั้น

นอกจากนี้ นายจ้าง 64% ระบุว่าการสนับสนุนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดึงดูดคนทำงานตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2030 ทั้งหมดทำให้เห็นว่าค่านิยมของการทำงานจากคนทั่วโลกนั้นกำลังจะเปลี่ยนไป 

ทำไม Work-Life Balance ถึงสำคัญกว่าเงินสำหรับคนรุ่นใหม่

...

คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองว่าการทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อนคือความสำเร็จ แต่ให้ความสำคัญกับการมีชีวิตที่มีความสุขและสมดุล และการทำงานแบบยืดหยุ่น เช่น ทำงานจากที่บ้าน หรือเลือกเวลาทำงานเองได้ เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ เพราะช่วยให้พวกเขาสามารถบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

แน่นอนว่าการทำงานหนักจนเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพ คนรุ่นใหม่จึงมองหางานที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของพนักงาน โดยไม่ได้มองแค่ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ต้องการเติบโตไปพร้อมๆ กับการมีชีวิตที่มีความสุข 

ค่านิยมนี้ทำให้องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance จะสามารถดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้ได้ นอกจากนี้ พนักงานที่มีความสุขและสมดุลยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์มากขึ้น 

แม้ว่าเงินเดือนและผลตอบแทนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกงาน แต่คนทำงานรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance มากขึ้น องค์กรที่ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้ จะสามารถประสบความสำเร็จในยุคที่การแข่งขันสูงเช่นนี้ และเป็นที่น่าติดตามต่อไปว่าอนาคตรูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่จะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด 

ข้อมูล: World Economic Forum

ภาพ : istock