“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” กลุ่มมิจฉาชีพที่ทำงานหลอกลวงเหยื่อเป็นขบวนการ และกลายเป็นปัญหาระดับชาติ หลังจากมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจในภาพรวม บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปทำความรู้จักแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ คือใคร มีกลลวงอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ คือใคร
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือ กลุ่มมิจฉาชีพที่ทำงานเป็นขบวนการหลอกลวงเหยื่อด้วยเทคนิคต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์ โดยส่วนใหญ่จะอ้างตนเป็นหน่วยงานรัฐหรือเจ้าที่ราชการจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เกิดความวิตกกังวล หวาดกลัว จนขาดสติโอนเงินในที่สุด
รู้ทันการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ปัจจุบันกลการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีหลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่ที่พบได้บ่อย มีดังนี้
อ้างว่าติดต่อจากธนาคาร
กรณีอ้างว่าติดต่อจากธนาคาร มิจฉาชีพจะใช้วิธีหลอกล่อโดยแจ้งว่าบัตรเครดิตมียอดค้างชำระ บัญชีมีปัญหา หรือถูกอายัด และเหยื่อจะต้องโอนเงินเพื่อดำเนินการอีกที
อ้างว่าเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ
ส่วนใหญ่มิจฉาชีพจะอ้างว่ามีคนใช้ชื่อ บัญชีธนาคารของเหยื่อไปกู้เงินนอกระบบ เพื่อไม่ให้ถูกประจานหรือถูกทำร้ายร่างกาย เหยื่อจะต้องโอนเงินคืนเพื่อใช้หนี้จำนวนดังกล่าว
อ้างว่าติดต่อจากขนส่งและตำรวจ
อีกหนึ่งกลลวงยอดฮิตคือ มิจฉาชีพจะอ้างว่าตนเองเป็นขนส่ง โดยจะแจ้งว่ามีพัสดุผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการฟอกเงินส่งถึงเหยื่อ โดยจะต้องโอนเงินเพื่อทำการตรวจสอบ บางรายจะได้โอนสายคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
...
หลอกว่าโอนเงินผิดบัญชี
กลลวงของการโอนเงินผิดบัญชี คือ มิจฉาชีพจะโอนเงินเข้าบัญชีเหยื่อก่อน 1 ครั้ง จากนั้นจะติดต่อมาเพื่อแจ้งว่าโอนผิดบัญชี และหลอกล่อให้เหยื่อโอนเงินคืนไปยังบุคคลที่สามแทน
หลอกให้ทำงานออนไลน์
การหลอกให้ทำงานออนไลน์พบได้บ่อยบนโซเชียลมีเดีย ส่วนใหญ่ระบุรายละเอียดงานว่าเป็นงานง่ายๆ รายได้ดี และใช้เวลาทำเพียงสั้นๆ ค่าแรงคุ้มค่า เพียงแต่หากจะรับค่าแรงต้องโอนค่าธรรมเนียมก่อน
หลอกว่าเป็นผู้โชคดี
กรณีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหลอกเหยื่อว่าเป็นผู้โชคดีจากการร่วมกิจกรรม ได้รับรางวัลใหญ่ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งหากต้องการจะรับรางวัล จะต้องโอนจ่ายค่าภาษีก่อน
อ้างว่าเป็นนักธุรกิจ หลอกให้ร่วมลงทุน
กลลวงหลอกให้ลงทุนธุรกิจนั้น จะอธิบายถึงธุรกิจคร่าวๆ จากนั้นจะหลอกเหยื่อร่วมลงทุน และแจ้งกับเหยื่อว่าได้กำไรเพิ่มขึ้นแล้ว โดยเหยื่อจะต้องโอนเงินเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการถอนเงินมาให้ก่อน
อ้างว่าจะถูกตัดไฟหรือน้ำประปา
มิจฉาชีพจะอ้างว่าเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าหรือการประปา จากนั้นจะแอบอ้างว่ามีการเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือมียอดค้างชำระ และเพื่อไม่ให้ถูกตัดน้ำหรือไฟ เหยื่อจะต้องโอนเงินเพื่อดำเนินการทันที
อ้างว่าเป็นพนักงานจากเครือข่ายโทรศัพท์
มิจฉาชีพจะอ้างว่าเป็นหนึ่งในพนักงานของเครื่อข่ายโทรศัพท์ จากนั้นจะแจ้งข้อมูลของเหยื่อ โดยระบุว่าได้ดำเนินการผิดกฎหมาย ก่อนจะโอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมพูดคุยต่อ
อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร
กรณีนี้มิจฉาชีพจะอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสรรพากร โดยหลอกว่าเหยื่อได้รับสิทธิ์คืนภาษี ต้องไปดำเนินการที่ตู้ ATM ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการโอนเงินให้กับมิจฉาชีพแทน
หลอกว่ามีรูปหรือวิดีโอหลุด
มิจฉาชีพจะส่งคลิปลิงก์รูปหรือวิดีโอมาให้ โดยแจ้งว่าเป็นคลิปของเหยื่อ สามารถสร้างความอับอายต่อตนเองหรือครอบครัวได้ เมื่อเหยื่อเกิดความกังวลและกดคลิก จะถูกดูดเงินออกจากบัญชี
10 วิธีป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำอย่างไรได้บ้าง
วิธีป้องกันและรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีดังนี้
- ตั้งสติ พิจารณาไตร่ตรองข้อมูลก่อนเสมอ
- ระวังการรับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือเบอร์แปลก
- ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ก่อนรับสาย โดยอาจจะค้นหาใน Google หรือแอปพลิเคชัน Whoscall ช่วยกรอกเบอร์แปลก
- คำนึงไว้เสมอว่าหน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน หรือเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่สอบถามข้อมูลผ่านโทรศัพท์
- หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัว เลขบัญชี รหัส หรือที่อยู่
- เลี่ยงการโอนเงินให้เบอร์ที่น่าสงสัยทุกกรณี
- หากไม่แน่ใจว่าปลายสายเป็นใคร ให้ติดต่อสอบถามข้อมูลกับธนาคารหรือหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง
- ห้ามคลิกลิงก์หรือไฟล์ที่ได้รับมาเด็ดขาด เนื่องจากอาจจะมีไวรัสที่ควบคุมการทำงานจากระยะไกลได้
- หลีกเลี่ยงการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่
- ดูแลผู้สูงอายุ หรือคนในครอบครัว อธิบายข้อมูลและวิธีป้องกันของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
...
ข้อควรปฏิบัติเมื่อให้ข้อมูลกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปแล้ว
หากใครที่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตร แนะนำข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
- เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ทั้งหมด โดยเลี่ยงใช้รหัสที่คล้ายเดิม, วัน เดือน ปีเกิด, เลขเรียง, ชื่อภาษาอังกฤษ หรือเลขที่คาดเดาได้ง่าย
- ระงับการใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต
- แจ้งธนาคารเจ้าของบัญชี
- รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความ
หากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกต้องทำอย่างไร
อย่างไรก็ดี หากตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แนะนำให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว เพื่อติดต่อประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเอกสารมาติดต่อธนาคารที่ทำรายการโอนเงิน ส่วนใครที่ต้องการแจ้งความตลอด 24 ชั่วโมง สามารถแจ้งผ่านช่องทาง ดังนี้
- สายด่วน สอท. 1441
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599
- แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
...
ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงระบาดหนักและมีเหยื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากรู้เท่าทันกลลวง อีกทั้งจะต้องมีสติอยู่เสมอ และไม่กดคลิกลิงก์แปลกปลอมใดๆ ก็ช่วยป้องกันการตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้แล้ว