การดูแลสุขภาพของ Gen Z ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตเท่านั้น แต่สุขภาพกายก็สำคัญเช่นกัน และพยายามดูแลตัวเองอย่างดี แต่ก็เจออุปสรรค ทั้งค่าใช้จ่าย และสื่อสารข้อมูลที่คลาดเคลื่อน

จากรายงานหัวข้อเรื่อง "Gen Z: เรียกร้องการเข้าถึงและการเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพ" ที่สำรวจ Gen Z (อายุ 18-27 ปี) จำนวน 5,000 คนใน 10 ประเทศ และใช้ข้อมูลจาก Decipher Health ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ใหม่ของบริษัทเบอร์สันวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลและการเผยแพร่ข่าวสาร พบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับทัศนคติด้านสุขภาพของ Gen Z ในปัจจุบัน

บทสรุปส่วนหนึ่งของผลสำรวจพบว่า หลังจากการระบาดของโควิด-19 Gen Z ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายพอๆ กับการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต คือ มีความกังวลด้านสุขภาพกายร้อยละ 56 และสุขภาพจิตร้อยละ 57 ขณะที่ให้ความสำคัญกับทั้งสองด้านเท่ากันที่ร้อยละ 59 ต่างจากความเชื่อทั่วไปที่มองว่า Gen Z สนใจเรื่องสุขภาพจิตมากกว่าสุขภาพกาย

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นแนวโน้มสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของ Gen Z ดังนี้

  • Gen Z ต้องการการดูแลสุขภาพของตนเองแม้ระบบน่าผิดหวัง : โดยร้อยละ 67 ของ Gen Z พอใจกับการดูแลสุขภาพของตนเอง แต่พบอุปสรรคด้านค่าใช้จ่าย การสื่อสารข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และร้อยละ 46 รู้สึกว่าการได้รับความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์เป็นเรื่องยาก
  • Gen Z ยังคงเน้นการพบแพทย์แบบตัวต่อตัว : แม้เป็นคนยุคดิจิทัล แต่ยังไม่เชื่อมั่นข้อมูลสุขภาพออนไลน์และการรักษาทางไกล โดยร้อยละ 80 เคยพบข้อมูลสุขภาพที่ผิดพลาดทางออนไลน์ และมากกว่าร้อยละ 60 ชอบพบแพทย์แบบตัวต่อตัวมากกว่า เพราะรู้สึกได้รับการดูแลที่ดีกว่า
  • Gen Z เปิดรับข้อมูลจากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ : พร้อมรับฟังข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ โดยร้อยละ 55 เชื่อว่าบริษัทด้านสุขภาพสามารถตอบสนองความต้องการได้

รายงานนี้ใช้ Decipher Health วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่มีผลต่อกลุ่ม Gen Z โดยระบบ AI นี้แสดงให้เห็นความสอดคล้องระหว่างผลการวิเคราะห์กับการสำรวจ ตัวอย่างเช่น การสำรวจพบว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาดแพร่หลายในสื่อออนไลน์ที่ Gen Z ใช้ โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ซึ่ง Decipher Health ให้คะแนนความน่าเชื่อถือสูงถึงร้อยละ 92 แสดงว่ากลุ่ม Gen Z ยอมรับว่าเป็นความจริง

เมื่อขยายการวิเคราะห์ไปยังกลุ่ม Millennials และ Gen X พบว่ามีคะแนนความน่าเชื่อถือใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 91 และ 89 ตามลำดับ) สะท้อนให้เห็นว่า Gen Z มีความกังวลคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่วงการสาธารณสุขควรให้ความสำคัญ