รวม 10 อุปนิสัยที่ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม จากการ “Brain rot” บนโลกโซเชียลมีเดีย พฤติกรรมที่มาแรงจนกลายเป็นคำศัพท์แห่งปี 2567 ที่สามารถส่งผลต่อสมอง และโรคอื่นๆ ที่ตามมาได้

“Brain Rot” หรือ "สมองเน่า" กลายเป็นเทรนด์คำศัพท์ของแห่งปี 2567 ที่ได้รับการโหวต และจัดอันดับโดยสำนักพิมพ์ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University Press) เพื่อคัดเลือกให้เป็นคำศัพท์ประจำปี

โดยคำว่า “Brain rot” หรือ สมองเน่า สมองบื้อ เป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่คนวัยรุ่นบนโลกออนไลน์อย่าง Gen Z และ Gen Alpha นิยมใช้กันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งคำนี้จะใช้กับผู้เสพเนื้อหาคอนเทนต์บนโลกอินเทอร์เน็ตที่ไร้ประโยชน์ ไม่ส่งผลกระทบหรือคุณค่าอะไรต่อความคิด ความรู้สึก และปัญญา

คำศัพท์นี้สะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้เวลาในโลกออนไลน์กับคอนเทนต์ดังกล่าวมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดการเสื่อมถอยของความสามารถในการรับรู้และสมาธิของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้

นักประสาทวิทยากล่าวว่า “Brain Rot” หรือ "สมองเน่า" ที่กำลังกลายเป็นเทรนด์ ส่อแววถึงความเสี่ยงต่อโรคที่สามารถคุกคามตามมาได้ เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะคู่กายที่เปรียบเสมือนเพื่อน หากเพิกเฉยกับสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ระบบประสาทเสี่ยงต่อ “สมองเน่า”, “สมองเสื่อม” หรือ "Brain Rot" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ณ ปัจจุบัน คือการเสพสื่อวิดีโอผ่านทางอินเทอร์เน็ตด้วยการเลื่อนดูมีมอย่างไร้เหตุผล ไม่มีสาระ ไร้การวิเคราะห์ จึงทำให้เกิดคำจำกัดความอย่าง "Brain Rot" ที่เหมือนกับการเสื่อมถอยของสภาพจิตใจ หรือสติปัญญาของบุคคล ซึ่งเป็นผลมาจาก "การบริโภคมากเกินไป" ของเนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและส่วนเกินเสมือนจริง และอื่นๆ

...

ด้วยเหตุนี้ นักประสาทวิทยาสมัยใหม่ จึงได้พัฒนาเทคนิคเพื่อการพัฒนาความเข้าใจของเราเกี่ยวกับวิธีการป้องกัน “สมองเน่า” หรือ "Brain Rot" เพื่อให้เกิดการดูแลอย่างใกล้ชิด แก่คนยุคใหม่ในโลกออนไลน์ได้อย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

วิธีป้องกัน '“สมองเน่า” หรือ "Brain Rot" เพื่อทำให้สมองมีความสุข เพื่อสร้างสมองอัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย รวมถึงการเปลี่ยนนิสัยที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์ของคุณเองได้ดังต่อไปนี้

  • ความปลอดภัยทางสมอง และจิตใจ

สมองของคุณต้องการความปลอดภัยทางจิตใจจึงจะแสดงประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด การฝึกสมาธิ การโฟกัสกับงาน หรือการวางแผนหลีกเลี่ยงภัยคุกคาม สิ่งเหล่านี้จะสามารถทำให้ตัวเราควบคุมความกลัว และความไม่แน่นอนได้ นอกจากนี้การได้มีส่วนร่วมในการทำงาน ทำโปรเจ็กต์ต่างๆ จะสร้างประสิทธิภาพความมั่นใจในสมองของเรา ช่วยลดอาการ "สมองเน่า" ได้มากขึ้น

  • อาหารส่งเสริมอารมณ์

แค่เลือกกินอาหารขยะ เพราะไม่รู้จะกินอะไรก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สมองเน่าได้ ดังนั้นการมีความพิถีพิถัน หาอาหารบำรุงสมองที่ดี นอกจากจะทำให้ร่างกาย และสมองแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเพิ่มอารมณ์ และความอดทนของตัวเองได้

การลงมือง่ายๆ เช่น การตรวจสอบอาหารบนจานของตัวเอง และถามว่าอาหารนั้นส่งเสริมสุขภาพสมองโดยรวมหรือไม่ เช่น มีโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นมสัตว์ปีก ชีส และไข่ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และให้กรดอะมิโนที่จำเป็นแก่สมองของคุณในการสร้างเส้นทางของสารสื่อประสาท กรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า และซาร์ดีนช่วยให้สมองของคุณอารมณ์ดี วิตามินบีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพสมอง และสามารถพบได้ในไข่ ธัญพืชไม่ขัดสี ปลา อะโวคาโด และผลไม้รสเปรี้ยว และวิตามินดีก็เป็นตัวช่วยควบคุมอารมณ์ที่สำคัญ

  • สร้างการไหลเวียนของเลือด

“สมองเน่า” อาจเกิดจากการอยู่ประจำที่ และขาดการออกกำลังกาย ดังนั้นอย่าเป็นคนขี้เกียจทั้งบนโต๊ะ บนโซฟา บนเตียง เพราะการไหลเวียนของเลือดเป็นยาที่ดีที่ช่วยให้มีความสุข มีชีวิต และสร้างสรรค์ การออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวเป็นประจำช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง และยังช่วยชะลอการสูญเสียความทรงจำ และภาวะสมองเสื่อมอีกด้วย

ทั้งนี้ทุกคนสามารถเลี้ยงสมองด้วยเลือดส่วนเกินที่ต้องผ่านการออกกำลังกาย แอโรบิก การเดิน ยืดเส้นยืดสาย และปรับสภาพร่างกายเพื่อให้ร่างกายสดชื่น น่าดึงดูด และมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม

  • การนอนหลับที่เพียงพอ

สมองของคุณอาจเพลียได้โดยไม่ได้พักผ่อนตามที่ต้องการ การอดนอนส่งเสริมภาวะ “สมองเน่า” ซึ่งขัดขวางความสามารถในการรับมือกับความเครียดจากงาน และมักจะระบายความโกรธในระหว่างวันทำงานได้ด้วย

นอกจากนี้การอดนอนทำให้สมองทำงานช้าลง มีความคิดฟุ้งซ่าน และหลงลืม มันรบกวนความจำและการเรียนรู้และความสนใจ

การนอนหลับที่เพียงพอมีความสามารถทำให้การมองเห็นด้านบวกในอาชีพการงานของคุณได้ ทำให้คุณตอบสนองต่อความเครียดจากงานได้ดี ทั้งนี้แค่การนอนหลับที่เพียงพอจะคืนความชัดเจนและประสิทธิภาพของเยื่อหุ้มสมองอย่างจริงจัง เพื่อให้คุณสามารถจัดการความเครียดจากงานและวางรากฐานสำหรับสมองที่ชาญฉลาดได้ดี

  • มุมมองกว้าง มองโลกในแง่บวก

มุมมองที่กว้างช่วยให้สมองของคุณต่อยอดด้านบวกในอาชีพการงานและการใช้ชีวิตของตนเองได้ สิ่งนี้จะทำให้เรามองเห็นความเป็นไปได้ในอนาคต มองหาข้อดีของสถานการณ์ข้อเสีย มุ่งเน้นการแก้ปัญหาแทนการหนีปัญหา ระบุโอกาสในความท้าทาย ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอต่อการเป็นยาแก้พิษสำหรับ "สมองเน่า" ได้แล้ว

...

  • การมีสติ

การมีสติเป็นอีกยาแก้พิษอันทรงพลังที่มีประสิทธิภาพสำหรับสมองมากขึ้น เช่น การทำสมาธิอย่างมีสติและการหายใจเข้าลึกๆ จะทำให้สมองของคุณไม่วอกแวกและมีสมาธิจดจ่อ การทำสมาธิจะช่วยลดระดับคอร์ติซอลลง 25% และเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมอง

ดังนั้นการมีสติจะช่วยให้โอกาสการผิดพลาดน้อยลง ด้วยสถิติแล้วการทำผิดพลาดที่น้อยลงเกิดจากหลังทำสมาธิ สร้างสติเพียง 20 นาที

เมื่อเวลาผ่านไป สมองของคุณจะเกิดการปรับตัว สงบได้ง่ายขึ้น แม้อยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวาย

  • ออกกำลังกายสมอง

แน่นอนว่า “Brain Rot” รบกวนความสามารถของสมองในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่จำเป็นสำหรับความสุขในอาชีพการงานและความคิดสร้างสรรค์

เพื่อหลีกเลี่ยง “สมองเน่า” ต้องมีการออกกำลังกายสมองเพื่อรักษาสมองให้แข็งแรง ด้วยการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ของสมอง ออกจากกรอบเดิมๆ เพราะความแปลกใหม่จะส่งเสริมการเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยนได้ แถมยังช่วยเพิ่มความสามารถของคุณในการอัปเดตแนวคิดใหม่ๆ เช่น ปริศนา การอ่านหรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จะช่วยชะลอความเสื่อมถอยทางสติปัญญาและป้องกันความผิดปกติของความเสื่อม

  • ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ออกไปสู่โลกภายนอก สัมผัสโทนสีเขียวชดเชยแสงสีฟ้าเวลาอยู่หน้าจอ เนื่องจากสมองของผู้ที่ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติแสดงให้เห็นว่าเยื่อหุ้มสมองส่วนหน้าของพวกเขามีสสารสีเทามากกว่า และมีความสามารถในการคิดอย่างชัดเจนและควบคุมตนเองได้ดีขึ้น

สมองของคุณชอบใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงต่อสัปดาห์ในสวนสาธารณะ ป่าไม้ หรือชายหาด คนที่ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ 120 นาทีต่อสัปดาห์จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าคนที่ไม่อยู่กับธรรมชาติหรือผู้ที่ใช้เวลาน้อยกว่าสองชั่วโมงต่อสัปดาห์

  • หาวันพักผ่อน

ของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณสามารถมอบให้สมองในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้คือความสงบเรียบร้อยแทนที่จะเป็นความวุ่นวายจากงาน ดังนั้นการหยุดพักผ่อนสามารถลดความเครียดได้

บางคนอาจต้องทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกับการทำงานไปด้วย เพราะสมองลดประสิทธิภาพการทำงานลงได้ถึง 40% เกิดความเมื่อยล้าของสมอง ดังนั้นหากได้พักผ่อนแล้วควรหยุดพักผ่อนจริงๆ หรือมีการวางแผนให้เรียบร้อยเพื่อให้สมองพักผ่อนแบบจริงจัง

  • การได้รับการสนับสนุนทางสังคม

ความโดดเดี่ยวสามารถส่งเสริมภาวะ “สมองเน่า” ได้ ดังนั้นการมีคนอยู่เคียงข้าง เช่น คนรัก ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ผู้ร่วมงานที่ดี ที่คุณสามารถพูดคุยด้วยและจะรับฟังนั้นเชื่อมโยงกับสุขภาพสมองและความยืดหยุ่น ควรพบปะกับเพื่อนฝูง คนรัก และครอบครัวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง คุณจะมีสมองที่แข็งแรงมากขึ้น

ภาพ : istock

ข้อมูล : forbes