การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย และ Jelly Roll Jazz Club คอมมูนิตี้และโรงเรียนสอนเต้นแนว Swing Dance จัดงาน เต้นสวิง (Swing Dance) ครั้งใหญ่ใจกลาง สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ภายใต้ชื่อ STEP INTO SWING: Take the A Train at Hua Lamphong เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยกิจกรรมนี้เป็นการต่อยอดจากเทศกาลดนตรีในสวนที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ริเริ่มเมื่อปี 2565 และจัดต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการเต้นสวิงที่หัวลำโพงในครั้งนี้ ทางผู้จัดงานได้นำกิจกรรมต่างๆ อย่าง City Battle การแข่งขันเต้นสวิงระหว่างกลุ่มนักเต้นจากต่างประเทศรอบชิงชนะเลิศ, คลาสสอนเต้นขั้นพื้นฐานและ Social Dance สำหรับทุกคน และการเต้น Shim Sham เฉลิมฉลองที่ทั้งคุณครู นักแสดง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถร่วมสนุกได้พร้อมกัน เพื่อเปิดจินตนาการให้คนไทยเห็นว่าพื้นที่สาธารณะทำอะไรได้บ้าง
...
สุไลมาน สวาเลห์ ครูสอนเต้นสวิงและหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Jelly Roll Jazz Club เผยว่า จุดเริ่มต้นของการจัดกิจกรรมนี้มาจากการที่เขาและเพื่อนๆ ชอบวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของการเต้นมากๆ โดยเริ่มจากการเปิดโรงเรียนสอนเต้น แล้วก็มาจัดกิจกรรม Swing in the Park เมื่อ 2 ปีก่อน ก็ทำให้มีคนสนใจมากขึ้น จึงได้จัดกิจกรรมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยที่หัวลำโพงนี้เป็นการจัดครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งคนที่มาร่วมกิจกรรมเต้นมีตั้งแต่เด็กอายุ 5-6 ขวบ ไปจนถึงผู้สูงวัย และมีชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ด้านคุณเจ้าขวัญ ศรีวัฒนพงศ์ แม่บ้าน วัย 59 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มาร่วมกิจกรรมเต้นสวิงครั้งนี้บอกกับไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ว่า เธอเริ่มต้นเรียนเต้นสวิงมาตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากที่ผ่านมาเธอชอบไปดูงานแสดงดนตรีแจ๊สที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นประจำทุกปี จนกระทั่งปี 2560 มีประกาศว่าจะมีโชว์เต้นสวิง ก็ไปดูอย่างต่อเนื่อง พอมีประกาศว่ามีการสอนเต้น เธอก็ตามไปเรียน เพราะชอบเพลงแจ๊สมาก และสนใจการเต้นสวิงมาก ที่หาได้ยากในเมืองไทย ส่วนกิจกรรมเต้นสวิงในพื้นที่สาธารณะนั้น เธอก็ไปมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดให้เต้นสวิงที่สวนลุมฯ เมื่อ 2-3 ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน
...
สำหรับ คุณอรนุช วิริยะยุทธ ครูสอนเต้นลีลาศ วัย 70 ปี บอกกับเราว่าเธอชอบการเต้นรำ และการเต้นสวิงที่หัวลำโพงในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอมาร่วมกิจกรรม ส่วนคุณอินทิรา ฉวีวรรณ อดีตข้าราชการบำนาญ วัย 60 ปี บอกว่าเธอชอบการเต้นรำ เพราะทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นอกจากนี้ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา และที่มาเต้นครั้งนี้ก็เพราะอยากมาดูบรรยากาศ ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารมาก็รู้สึกสนใจในสถานที่ เพราะสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย และกิจกรรมนี้ก็คล้ายกับกิจกรรมที่เธอสนใจอยู่ จึงทำให้เธอสนใจที่จะมาติดตามดู
...
ขณะที่ตัวแทนกลุ่มวัยรุ่น Gen Z อย่างเมอรี่บอกกับเราว่า เธอสนใจกิจกรรมเต้นสวิง เพราะอยากหากิจกรรมทำ ก็เลยลองมาเต้น เพราะว่าเพื่อนชวน ตอนแรกก็กลัว แต่การเต้นสวิงไม่ต้องมีพื้นฐานอะไรมาก่อนเลยก็เต้นได้ ส่วนฝ้ายบอกว่าสนใจงานนี้เพราะเป็นงานฟรี พอได้มาลองก็ติดใจ ก็หยุดเต้นสวิงไม่ได้อีกเลย และแป้งบอกว่าเธอมาเต้นสวิงเพราะมีเพื่อนๆ พี่ๆ มาชวนเต้น และเธอสนใจการเต้นอยู่แล้วก็เลยมา ซึ่งพวกเธอเริ่มเต้นสวิงมาได้ 2 ปีแล้ว
...
นอกจากความสนุกสนานที่ได้มาเต้นสวิงร่วมกันทำให้ได้พบปะรู้จักเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแล้ว งาน STEP INTO SWING: Take the A Train at Hua Lamphong ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุค ที่ทุกคนต่างแต่งกายสไตล์วินเทจ โดยฝ่ายชายสวมสูท หรือเสื้อทรงวินเทจ กางเกงเอวสูง รองเท้าหนัง เข็มขัด หมวก หรือเนกไท ส่วนฝ่ายหญิงสวมเดรส หรือเสื้อทรงวินเทจ กระโปรงเอวสูง หรือพลีต รองเท้าใส่สบาย และเครื่องประดับ จึงยิ่งทำให้งานนี้มีสีสันที่เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัยได้อย่างแท้จริง.
ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี