ไซยาไนด์ (cyanide) สารพิษร้ายแรงสุดอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด หากโดนพิษเข้าไปจะมีอาการอย่างไร และมีวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไรเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยให้ปลอดภัย

ไซยาไนด์ คืออะไร

ไซยาไนด์ (cyanide) เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วหลังได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ไซยาไนด์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ทำให้เซลล์นำออกซิเจนไปใช้ไม่ได้ จนเป็นอันตรายถึงชีวิต และมักเป็นส่วนประกอบอยู่ในสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ ใกล้ตัว จุดเด่นของไซยาไนด์ คือมีกลิ่นเฉพาะตัวเรียกว่ากลิ่นอัลมอนด์ขม (Bitter almond) สามารถพบได้ในหลายรูปแบบ ดังนี้

ก๊าซไฮโดรเจน ไซยาไนด์ (hydrogen cyanide)

เกิดจากการเผาไหม้สารพลาสติก โพลียูริเทน (polyurethane) และหนังเทียม เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้เคราะห์ร้ายในเพลิงไหม้ เป็นก๊าซที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นคล้ายอัลมอนด์ขม และถ้าเป็นของเหลวจะมีลักษณะเป็นของเหลวใส ระเหยเป็นก๊าซได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง มีกลิ่นคล้ายอัลมอนด์ขมเช่นกัน

กลุ่มเกลือไซยาไนด์ (Sodium cyanide และ Potassium cyanide)

เป็นก้อนผลึกหรือผงสีขาว เช่น Sodium cyanide และ Potassium cyanide มักนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรม การชุบโลหะ การสังเคราะห์สารเคมี เช่น น้ำยาประสานทอง สี และสารเคมีกำจัดแมลงบางชนิด รวมทั้งยังพบได้จากเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านบางชนิดเช่นน้ำยาล้างเล็บมี acetonitrile ปนอยู่ และน้ำยาล้างเครื่องเงิน

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

ไซยาไนด์ในพืชธรรมชาติ 

จะมีสาร cyanogenic glycosides พบได้ในเมล็ดของแอปริคอท เชอร์รีดำ หน่อไม้ดิบ หัวและใบของมันสำปะหลังดิบ เป็นต้น

อาการเมื่อได้รับพิษจากไซยาไนด์

หากได้รับพิษจากไซยาไนด์ จะปรากฏอาการขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้ป่วยจะมีอาการดังต่อไปนี้

อาการไม่รุนแรง

  • กล้ามเนื้อล้า แขนขารู้สึกหนัก
  • หายใจลำบาก
  • ปวดหัว รู้สึกมึนงง วิงเวียน
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ลมหายใจมีกลิ่นอัลมอนด์จางๆ
  • รู้สึกระคายเคือง คันบริเวณจมูก คอ และปาก

อาการรุนแรง

  • คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง
  • หายใจลำบาก
  • ชักหมดสติ
  • เสียชีวิตภายใน 10 นาที

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเฉียบพลัน ส่วนมากจะได้รับไซยาไนด์เข้าสู่ทางร่างกายด้วยการหายใจ การกิน และการซึมเข้าสู่ผิวหนัง หากได้รับไซยาไนด์เข้าไปปริมาณมากจะมีฤทธิ์ยับยั้งการหายใจในระดับเซลล์ ทำให้เซลล์เสียชีวิตได้

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

นอกจากอาการเฉียบพลันแล้วผู้ป่วยบางรายก็อาจได้รับไซยาไนด์อย่างต่อเนื่องในระยะยาวจนเกิดการสะสม และก่อให้เกิดพิษเรื้อรังได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง ปวดศีรษะ และเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ มักพบกับคนที่ทำงานในโรงงานแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และคนงานขัดเครื่องเงิน

การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับไซยาไนด์

ได้รับทางการหายใจ: ควรให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจน และอากาศบริสุทธิ์ ห้ามผายปอดด้วยวิธีปากต่อปาก และรีบส่งตัวผู้ป่วยให้แพทย์ทันที

ได้รับผ่านทางผิวหนัง: ก่อนทำการปฐมพยาบาลผู้ป่วยต้องสวมถุงมือป้องกัน จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าของผู้ป่วยที่เปื้อนไซยาไนด์ออก ล้างผิวหนังด้วยน้ำจำนวนมาก แล้วนำส่งแพทย์ทันที

ได้รับทางดวงตา: ขั้นตอนแรกให้รีบล้างไซยาไนด์ออกด้วยน้ำจำนวนมากเป็นเวลาหลายนาที หากใส่คอนแทคเลนส์ให้ถอดออก แล้วรีบส่งตัวให้แพทย์ทันที

ได้รับทางปาก: ให้รีบล้างปาก และให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วย แต่ห้ามผายปอดด้วยวิธีปากต่อปาก และห้ามทำให้ผู้ป่วยอาเจียน จากนั้นรีบส่งแพทย์ทันที

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อพบผู้ป่วยที่ได้รับพิษของไซยาไนด์ไม่ว่าจะทางใดก็ตามคือการรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพราะหากได้รับในปริมาณมากจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ข้อมูลอ้างอิง: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)