สถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex กำลังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ว่าเหมาะสมสำหรับการตั้งธุรกิจประเภทนี้ในไทยหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศใช้โมเดลนี้มาช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เป็นจำนวนมหาศาล มาดูกันว่ามีประเทศไหนบ้าง และ Entertainment Complex แต่ละที่มีไฮไลต์น่าสนใจอย่างไร
มาเลเซีย
สำหรับประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่าง มาเลเซีย นอกจากแลนด์มาร์กสำคัญอย่างตึกแฝดปิโตรนาสแล้ว Entertainment Complex ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยสถานบันเทิงครบวงจรที่ขึ้นชื่อของมาเลเซีย ได้แก่
Genting Malaysia
Genting Malaysia หรืออีกชื่อหนึ่ง Genting Highland เป็นธุรกิจในเครือ Genting Group ยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย ตั้งอยู่ที่รัฐปะหัง (Pahang) บริเวณเกือบยอดเขาอูลูกาลี ได้รวมสถานที่เพื่อความบันเทิงครบวงจร จนได้รับการขนานนามว่าเป็นลาสเวกัสแห่งเอเชีย
...
ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าทั่วไป Premium Outlets รวมแบรนด์หรู, ร้านอาหารยอดนิยมจนถึงระดับไฟน์ไดน์นิ่ง, กาสิโน, สวนสนุกระดับเฟิร์สคลาสทั้งในร่มและกลางแจ้ง ขนาด 26 เอเคอร์, โรงแรมระดับ 3-5 ดาว รวมทั้งสิ้น 7 แห่ง รวมกว่า 10,500 ห้อง โดยมีโรงแรม First World Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่บนนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต การประชุมธุรกิจ และพื้นที่สำหรับพักผ่อนและความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย
สิงคโปร์
ประเทศเล็กๆ แต่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ใช้โมเดล Entertainment Complex ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยเช่นกัน โดยสถานบันเทิงครบวงจรที่ขึ้นชื่อของสิงคโปร์คือ
Marina Bay Sand
มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sand) เป็น Entertainment Complex ที่กลายเป็นไฮไลต์ของประเทศด้วยการออกแบบตึกระฟ้า 3 ตึกที่มีเรือสำราญอยู่ด้านบนสุด ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าขนาดใหญ่ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของสิงคโปร์ได้ พร้อมด้วยคลับบนชั้นดาดฟ้า
ภายใน มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sand) ประกอบด้วย โรงแรม 5 ดาว ที่มีห้องพักกว่า 2,500 ห้อง ห้างสรรพสินค้าพร้อมคลองเทียมและการนั่งเรือกอนโดลาที่จำลองจากอิตาลี ลานสเกตน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ไนต์คลับ 2 แห่ง ร้านอาหารชั้นยอดมากมาย พื้นที่ห้องประชุมและจัดงานสัมมนาขนาดใหญ่ และที่ขาดไม่ได้คือกาสิโนระดับหรูมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ มีพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
มาเก๊า
มาเก๊า หรือชื่อเต็มคือ เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พื้นที่เล็กๆ แต่มีเม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียนจากธุรกิจหลักคือ Entertainment Complex ซึ่งมีอยู่มากมายหลายแห่งในพื้นที่แห่งนี้ โดยแต่ละที่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น
Galaxy Macau
กาแล็คซี่ มาเก๊า (Galaxy Macau) เป็นสถานบันเทิงครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์บนพื้นที่กว่า 1.1 ล้านตารางเมตร ประกอบไปด้วย โรงแรมหรู 5 ดาว ที่ได้รางวัลระดับโลกถึง 8 แห่ง เช่น บันยันทรี, โอกูระ, กาแล็คซี่, เจ ดับบลิว มาริออต, เดอะ ริตซ์-คาร์ลตัน, ราฟเฟิล, คาเปลลา, บรอดเวย์ และแอนด๊าซ ให้ผู้เข้าพักสามารถเลือกได้ตามสไตล์และความชอบ อีกทั้งยังมีไฮไลต์เป็นสวนน้ำลอยฟ้าอย่าง Grand Resort Deck ที่มีขนาดใหญ่ถึง 75,000 ตารางเมตร
...
รวมทั้งมี โรงภาพยนตร์ Galaxy Cinemas มากถึง 10 โรง ซึ่งมีตั้งแต่ระบบภาพ 3 มิติ จนถึงเทคโนโลยีการฉายภาพแบบ 4K Laser Projection ที่ช่วยให้การรับชมสมจริงและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น อีกทั้งยังมี Broadway Theatre โรงละครเวทีขนาด 2,500 ที่นั่ง ซึ่งมีโชว์จากศิลปินระดับโลก และการแสดงละคร หรือดนตรีสดหมุนเวียน มาให้ได้รับชมตลอดทั้งปี รวมถึง กาแล็คซี่ อารีน่า สถานที่จัดกิจกรรมในร่มที่พร้อมรองรับผู้ชมมากถึง 16,000 คน
นอกจากนี้ยังมี Galaxy Promenade แหล่งช็อปปิ้งพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร มีทั้งแบรนด์ระดับเวิลด์คลาส ดีไซเนอร์บูติก ตลอดจนไฮสตรีทแบรนด์ และแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยกว่า 120 ร้าน ตั้งแต่ระดับมิชลิน สตาร์ ไปจนถึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดระดับตำนาน
...
The Parisian Macao
เดอะ ปารีเซียง มาเก๊า (The Parisian Macao) เป็นรีสอร์ตในเครือของ Sands China ที่ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีตราว 3,000 ห้อง มีห้างสรรพสินค้าที่มีร้านค้าบูติกมากกว่า 150 ร้าน ทั้งร้านเสื้อผ้าแฟชั่นของดีไซเนอร์ชื่อดังและของแบรนด์ชั้นนำมากมาย แขกของรีสอร์ตและนักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงแบบฝรั่งเศสที่อัดแน่นทุกวัน รวมทั้งมี Le Chine ห้องอาหารสไตล์เอเชียของทางรีสอร์ต ซึ่งตั้งอยู่บนหอไอเฟลจำลอง
มีพื้นที่สำหรับจัดการประชุมกว่า 5,200 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยห้อง Parisian Ballroom ขนาด 3,400 ตารางเมตร และห้องประชุมอีก 7 ห้อง ที่พร้อมสำหรับทุกการประชุม รวมทั้งมีสปาระดับเวิลด์คลาส มีโซนเด็กเล่น มีฟิตเนส และสระว่ายน้ำกลางแจ้งในรูปแบบของสวนน้ำด้วย
...
นอกจากนี้ยังมีหอไอเฟลจำลองขนาดครึ่งหนึ่งของของจริงตั้งอยู่ด้านหน้าจนกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมาเก๊าที่นักท่องเที่ยวพากันมาถ่ายรูปเช็กอินเป็นจำนวนมาก
The Londoner Macao
เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า (The Londoner Macao) เป็น Entertainment Complex ในเครือ Sands China เช่นเดียวกับ เดอะ ปารีเซียง มาเก๊า (The Parisian Macao) และเวเนเชียน (Venetian) ที่มีความโดดเด่นด้วยการตกแต่งในในสไตล์อังกฤษ จึงเป็นแลนด์มาร์กที่ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปไม่ขาดสาย
ในเดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า ประกอบด้วย โรงแรมชื่อดัง 5 ราย ได้แก่ เดอะ ลอนดอนเนอร์ โฮเทล, ลอนดอนเนอร์ คอร์ท, คอนราด มาเก๊า, เชอราตัน แกรนด์ มาเก๊า และเดอะ เซนต์ รีจิส มาเก๊า มีห้องพักและห้องสวีตของโรงแรมกว่า 6,000 ห้อง ประกอบกับพื้นที่ค้าปลีก ความบันเทิง ร้านอาหาร และการประชุมและงานประชุมอีก 1.2 ล้านตารางฟุต รวมทั้งมีร้านค้าปลีกกว่า 150 แห่ง ซึ่งร่วมกับเวเนเชียน (Venetian) โฟร์ซีซันส์ (Four Seasons) และปารีเซียน (Parisian) ที่มีร้านค้าหรูปลอดภาษีรวมกันราว 850 แห่ง นอกจากนี้ เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า มีสปา 3 แห่ง คลับสุขภาพ 4 แห่ง และพื้นที่เกมมิงที่มีธีมพิเศษกว่า 365,000 ตารางฟุต
MGM MACAU
MGM MACAU (เอ็มจีเอ็ม มาเก๊า) เป็นอีกหนึ่งสถานบันเทิงครบวงจรขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของมาเก๊า ที่ประกอบด้วย โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว มีห้องพักและห้องสวีตประมาณ 580 ห้อง รวมถึง Grande Praca แหล่งบันเทิงและไลฟ์สไตล์ที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรป มาพร้อมสปาระดับ 5 ดาว ร้านอาหารและผับบาร์ชั้นยอดหลายแห่ง พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีฟังก์ชันครบถ้วนในการจัดการประชุมและกิจกรรมต่างๆ ไว้รองรับทุกความต้องการของผู้เข้าพัก
ลาสเวกัส
เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งสถานบันเทิงครบวงจรขนาดใหญ่ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2448 และเริ่มมีการขยับขยายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เป็นเมืองทะเลทรายที่ผู้คนส่วนใหญ่ทำงานเหมืองหินและค้าขาย ในช่วงยุค 90 ก็พัฒนาให้เป็นศูนย์กาสิโนขนาดใหญ่ และเติบโตอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นเมืองแห่ง Entertainment Complex ชั้นนำอันดับต้นๆ ของโลกในวันนี้ ซึ่งมีสถานบันเทิงครบวงจรหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น
MGM Grand Las Vegas
เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส (MGM Grand Las Vegas) เป็นสถานบันเทิงครบวงจรชั้นนำขนาดใหญ่ของลาสเวกัส ที่ดำเนินการโดย MGM Resorts International ประกอบด้วย โรงแรมขนาดใหญ่ที่มีห้องพักกว่า 5,000 ห้อง พื้นที่กาสิโนกว่า 171,000 ตารางฟุต ร้านอาหารของเชฟระดับมิชลินสตาร์และไนต์คลับชื่อดัง รวมถึง MGM Grand Garden Arena พื้นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมขนาดใหญ่
The Venetian Resort Las Vegas
เดอะ เวเนเชียน รีสอร์ท ลาสเวกัส (The Venetian Resort Las Vegas) นอกจากที่มาเก๊าจะมีโรงแรมที่จำลองเมืองเวนิสของอิตาลีแล้ว ที่ลาสเวกัสก็มีเช่นกัน ภายในประกอบด้วย โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ร้านอาหารหลากหลายรูปแบบที่มีให้เลือกหลายสัญชาติ รวมถึงไนต์คลับ พื้นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมต่างๆ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่และสปาสุดหรู พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ คลองเวนิสจำลองในร่มและกลางแจ้ง และที่ขาดไม่ได้คือกาสิโนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบเสี่ยงดวง
Virgin Hotel Las Vegas
โรงแรมเวอร์จิ้น ลาสเวกัส (Virgin Hotel Las Vegas) สถานบันเทิงครบวงจรของเวอร์จิ้น ซึ่งบริหารโดยเครือโรงแรมฮิลตัน ซึ่งประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ตสุดหรู สระว่ายน้ำและสปาสุดหรู ร้านค้าต่างๆ โรงละครขนาดใหญ่ที่จุได้ถึง 4,600 คน ลานกิจกรรมกลางแจ้งบนพื้นที่กว่า 13,000 ตารางฟุต ผับบาร์และร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ศูนย์จัดการประชุม และกาสิโนขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นหลายรูปแบบรองรับนักเสี่ยงดวงจากทั่วโลก
แม้ว่าหลายประเทศจะนำโมเดลธุรกิจ Entertainment Complex มาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก แต่สำหรับประเทศไทยเอง ณ ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าแผนการผลักดันสถานบันเทิงครบวงจร หรือเรียกกันตรงๆ ก็คือ “กาสิโนถูกกฎหมาย” ของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะออกมาในรูปแบบใด โดยภายใต้การทำงานของ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในบริบทของประเทศไทย จะประกอบด้วยบริการต่างๆ เช่น
- กาสิโน (สถานที่เล่นเกม)
- ห้างสรรพสินค้าครบวงจร
- โรงแรมหรู 5 ดาว
- ร้านอาหาร และบาร์
- ศูนย์การประชุม
- สนามกีฬา
- สวนสนุก
- สถานที่แสดงโชว์
- สวนน้ำ
- พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และจำหน่ายสินค้า OTOP
โดยรัฐบาลวางแผนเปิดในพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ท่าเรือคลองเตย (กทม.), พื้นที่บางกะเจ้า (สมุทรปราการ), พื้นที่ EEC, เชียงใหม่ และภูเก็ต คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2576
ด้านศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ได้วิเคราะห์ว่า การตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในไทยอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางบวกและทางลบ ซึ่งรัฐบาลควรวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
ผลกระทบทางบวกที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ได้แก่ การดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการท่องเที่ยว การสร้างงานและกระจายรายได้ในภาคบริการ รวมถึงการเพิ่มรายได้ให้รัฐผ่านภาษีและค่าธรรมเนียม
ในขณะที่ผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจใต้ดิน ผลกระทบต่อหนี้สินครัวเรือน ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ที่อาจเพิ่มขึ้น ตลอดจนต้นทุนทางสังคมจากปัญหาการติดการพนัน.
ข้อมูลอ้างอิง : ไทยรัฐ Money, ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย