ผักสลัด เป็นเมนูที่เหล่าคนรักสุขภาพหลายคนชื่นชอบ แล้วยังมีผักหลายชนิดให้เลือกมากมาย ทั้งสลัดใบเขียวอ่อน เขียวเข้ม สีแดง ผักสลัดเหล่านี้บางครั้งก็ไปเป็นเครื่องเคียงในอาหารจานโปรด บางครั้งก็ไปเป็นพระเอกในจานสลัดกับน้ำสลัดที่มีให้เลือกกันมากมายหลายชนิด หลายคนทานแล้วติดอกติดใจ แต่ก็อาจไม่รู้ว่าผักสลัดแต่ละชนิดนี่เขามีชื่อเรียกว่าอะไร แล้วมีประโยชน์อย่างไรกันบ้าง

กรีนโอ๊ค (Green Oak)

ผักชนิดนี้จะเป็นรูปทรงพุ่มๆ ใบหยัก มีสีเขียว ใบจะนิ่มๆ อ่อนๆ ฟูๆ จับแล้วจะนุ่มมือ คล้ายๆ กับผักกาดหอมบ้านเรา เดิมกรีนโอ๊คเป็นผักที่ปลูกในต่างประเทศ ต่อมามีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากประเทศฮอลแลนด์ เข้ามาในประเทศไทย จนทุกวันนี้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายจนเป็นหนึ่งในผักยอดนิยมของคนรักผัก ก็เพราะความนุ่มของใบที่ทำให้ซึมซับน้ำสลัดได้ง่าย เมื่อเอามาปรุงจึงได้รสชาติที่อร่อย รับประทานได้ง่าย

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

ประโยชน์ของกรีนโอ๊ค คือ การช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา อุดมไปด้วยวิตามินและเอนไซม์ที่มีประโยชน์ เราสามารถนำกรีนโอ๊คไปทานคู่กับเมนูที่หลากหลาย อย่างเช่น นำไปทำเป็นซูชิ หรือพล่าต่างๆ

เรดโอ๊ค (Red Oak)

ชื่อคล้ายๆ กับกรีนโอ๊ค นั่นเป็นเพราะรูปทรงที่คล้ายๆ กัน จะแตกต่างกันก็ที่สีสันของผักทั้งสองชนิด เรดโอ๊คจะมีสีแดงเข้มบริเวณขอบใบ และกลางใบจะมีสีเขียวเข้ม ใบหยักนุ่ม และเป็นพุ่มฟู เนื้อค่อนข้างนุ่มเช่นกัน จึงเหมาะกับการรับประทานสดๆ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ประโยชน์ของเรดโอ๊ค คือ มีกากใยที่สูง จึงช่วยล้างผนังลำไส้ให้สะอาด ช่วยกำจัดไขมัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอก สำหรับการนำไปปรุงอาหารนั้น ด้วยความที่เรดโอ๊คมีลักษณะใบที่อ่อนนุ่ม จึงเหมาะกับการทานสดๆ คู่กับน้ำพริก สลัด หรือเมนูยำง่ายๆ ที่ไม่ผ่านความร้อนสูง เพื่อรักษาคุณค่าที่ดีจากธรรมชาติเอาไว้

เรดคอรัล (Red coral)

หลายๆ คนแทบจะแยกไม่ออกระหว่างเรดโอ๊คกับเรดคอรัล เพราะมีลักษณะไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเจ้าเรดคอรัลนี้จะมีลักษณะใบที่หยักและฟูมากกว่าเรดโอ๊ค มีความคล้ายกับปะการัง รสชาติของเรดคอรัลนั้นจะออกหวานนิดๆ กรอบหน่อยๆ ต่างจากเรดโอ๊คที่จะมีรสขมนิดหน่อย เรดคอรัลจึงทานง่ายกว่า โดยเฉพาะกับเด็กๆ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ประโยชน์ของเรดคอรัล คือ มีปริมาณกากใยอาหารที่สูง จึงช่วยในเรื่องของการขับถ่ายของเสีย ทั้งช่วยล้างผนังลำไส้ กำจัดไขมัน ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ ทั้งยังให้วิตามินซีสูง ช่วยป้องกันอาการหวัด นอกจากนั้น สารอาหารที่มีประโยชน์มากมายของเรดคอรัล ยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจางอีกด้วย

เรดคอรัลเหมาะกับการนำไปทำเป็นสีสันให้จานสลัดดูน่าทานขึ้นจากสีแดงๆ สดใส นอกจากนั้นยังสามารถนำไปทำยำ หรือเป็นผักเครื่องเคียงกับเมนูต่างๆ ได้ตามใจชอบ

บัตเตอร์เฮด (Butter head)

...

ผักที่มีรอยหยักสวยๆ เหมือนกับกลีบของดอกไม้สีเขียวที่เบ่งบาน ถ้าใครได้ลองปลูกบัตเตอร์เฮดไว้ที่บ้าน อาจจะไม่อยากตัดมารับประทานกันสักเท่าไร ก็เพราะเสียดายในความสวย บัตเตอร์เฮดมีใบมน เนื้อนุ่ม ตรงกลางอัดแน่นเนื่องจากเป็นใจผัก รสชาติออกหวาน กรอบ ไม่ขม

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ประโยชน์ของบัตเตอร์เฮด คือ ช่วยบำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงระบบประสาท บำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงผิว ช่วยลดคอเลสเตอรอล นำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู อย่างเช่น นำไปทำแกงจืดบัตเตอร์เฮด หรือใช้ใบที่หนาสักนิดนำไปห่อเมี่ยงคำ นำไปลงกระทะผัดร้อนๆ หรือจะใส่ในแกงส้ม ต้มยำก็อร่อยเช่นกัน

คอส (Cos)

หลายๆ คนติดใจผักชนิดนี้ คงเพราะชื่อจำง่าย หน้าตาก็แปลกแยกไม่เหมือนผักสลัดชนิดอื่นมากนัก โดยเฉพาะถ้าใครชอบทานซีซาร์สลัดก็คงจะรักผักคอสไปโดยปริยาย กับความกรอบอร่อย ที่ยิ่งทานก็ยิ่งติดใจ คอสมีใบที่เรียวยาว สีเขียวเข้ม ทรงสูง ด้วยความที่เป็นผักเนื้อกรอบ รสชาติออกหวานหน่อยๆ และไม่มีกลิ่นรบกวนสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นเหม็นเขียวของผัก คอสจึงเข้ามาครองใจคนรักสุขภาพได้ง่ายๆ

...

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ประโยชน์ของคอส คือ อุดมไปด้วยวิตามินและธาตุเหล็ก ช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง และคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากนั้น คอสยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อย เหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีกากใยสูง ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย และการขับของเสียออกจากลำไส้อีกด้วย

ผักสลัดแต่ละชนิดก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันไป แล้วยังมีรสชาติอร่อยถูกใจสายรักสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผักสลัดชนิดใดก็ล้วนแต่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น ส่วนใครที่ไม่ชอบกินผัก ลองเริ่มต้นจากผักสลัดที่ไม่มีรสขมและไม่เหม็นเขียวอย่าง กรีนโอ๊ค เรดคอรัล บัตเตอร์เฮด และคอส ก่อน แล้วค่อยเพิ่มเลเวลไปผักชนิดอื่นๆ ซึ่งนอกจากนำมาทำเมนูสลัดแล้ว ยังทำเมนูต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยได้มากมายอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง : ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อก