วิธีการรับมือ และป้องกันโรคมือเท้าปาก เป็นอีกหนึ่งโรคในฤดูฝนที่มักพบได้บ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เป็นอันตรายได้
หน้าฝน 2567 หนึ่งในฤดูที่พบการระบาดของโรคได้มากมายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น โรคทางเดินอาหาร โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัด และอีกมากมาย แต่ยังมีหนึ่งโรคสำคัญที่มักจะเกิดกับเด็กเป็นประจำนั่นก็คือ โรคมือเท้าปาก ซึ่งสามารถติดต่อจากเชื้อไวรัสแพร่ผ่านทางระบบทางเดินอาหารและการหายใจ สามารถติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วย
โดยโรคมือเท้าปากนี้มักจะระบาดในโรงเรียน โดยเฉพาะชั้นอนุบาลเด็กเล็ก โรคนี้มีระยะฟักตัว 3-7 วัน พบเชื้อทางน้ำลาย 2-4 วัน ก่อนมีอาการ จนถึง 1-2 สัปดาห์หลังมีอาการ ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ตํ่าๆ ถึงไข้สูง อ่อนเพลีย ต่อมามีอาการเจ็บปาก กลืนนํ้าลายไม่ได้ และไม่ยอมทานอาหารเนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม บางครั้งอาจมีผื่นตามลำตัวแขนขาได้ มีอาการอาเจียน และถ่ายเหลวร่วม ทั้งหมดอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ดังนั้นอย่าให้เด็กมีไข้สูงเกินไป อาจทำให้เกิดอาการชักได้
ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรง สามารถหายป่วยได้เอง ไข้มักจะหายใน 2-3 วัน และผื่นจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 7-10 วัน ส่วนน้อยที่มีอาการโรครุนแรง พบประมาณ 0.05%-1% อาการรุนแรงมักเกิดจากเชื้อ Enterovirus 71 ที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ เยื่อบุสมองอักเสบ สมองอักเสบ แขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน รวมทั้งระบบทางเดินหายใจ และระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ภาวะน้ำท่วมปอดเฉียบพลัน ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เป็นต้น
การป้องกันโรคมือเท้าปาก
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
- ล้างมือบ่อยๆ และล้างทุกครั้งก่อนกินอาหาร ด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือ
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า และควรใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร
- หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและมีผู้คนพลุกพล่าน เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้
...
หากพบผู้ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก ควรหยุด และพักผ่อนให้หายป่วยเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ และหมั่นสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหากมีอาการดังต่อไปนี้
อาการโรคมือเท้าปาก ที่ควรรีบพบแพทย์
- ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส และนานกว่า 48 ชั่วโมง
- กระสับกระส่าย
- อาเจียนบ่อย และรับประทานได้น้อย หรือไม่ได้เลย
- มีอาการทางระบบประสาท ได้แก่ ซึม การกลอกตาที่ผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ไม่รู้สึกตัว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง แขนขาอ่อนแรง ตัวลาย ซีด หอบเหนื่อย
ข้อมูล : สสส.
ภาพ : istock