จากปรากฏการณ์พายุสุริยะ 2567 ที่เรียกได้ว่าเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อโลกและมนุษย์อย่างไรบ้าง

พายุสุริยะ คืออะไร

พายุสิริยะ คือ กระแสของอนุภาคพลังงานสูงที่พัดมาจากดวงอาทิตย์ด้วยปริมาณและความเร็วสูงกว่าระดับปกติ อนุภาคนี้มีทั้งอิเล็กตรอนและโปรตอน เป็นตัวการทำให้เกิดแสงเหนือ แสงใต้ และพายุแม่เหล็ก ซึ่งในกรณีที่รุนแรงก็อาจส่งผลต่อดาวเทียม ยานอวกาศ และระบบสายส่งบนโลก

องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ โนอา (NOAA : National Oceanic and Atmospheric Administration) ได้กำหนดมาตราสำหรับแสดงระดับความรุนแรงของปรากฏการณ์ทางภูมิอากาศนอกโลกที่จะมีผลต่อโลกไว้ เพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับสาธารณชน มาตรานี้แสดงด้วยตัวเลขในทำนองเดียวกับมาตราริกเตอร์ที่แสดงความรุนแรงของแผ่นดินไหว หรือมาตราฟุชิตะที่ใช้ในการแสดงความรุนแรงและผลกระทบของพายุสุริยะไว้ดังนี้

G 1 รุนแรงน้อย

ผลกระทบคือ เกิดความผันผวนของแรงดันในระบบส่งกำลังไฟฟ้าเล็กน้อย สัตว์ที่อพยพโดยใช้สนามแม่เหล็กในการกำหนดทิศอาจสับสน เกิดแสงเหนือใต้ที่ละติจูดสูง

G 2 รุนแรงปานกลาง

ส่งผลให้ระบบสายส่งไฟฟ้าที่ละติจูดสูงๆ อาจเกิดความผิดปกติของแรงดัน หากเกิดเป็นเวลานานอาจทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าเสียหาย การควบคุมทิศทางของดาวเทียมอาจเกิดความผิดปกติ แต่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบรักษาทิศทาง และอาจทำให้วงโคจรเปลี่ยนแปลง สัญญาณความถี่สูงที่ละติจูดสูงอาจอ่อนกำลัง เกิดแสงเหนือใต้ลามมาถึงระดับ 55 องศา

การเกิดพายุสุริยะ ส่งผลต่อการเกิดแสงเหนือและแสงใต้ ทำให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น (ภาพจาก iStock)
การเกิดพายุสุริยะ ส่งผลต่อการเกิดแสงเหนือและแสงใต้ ทำให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น (ภาพจาก iStock)

...

G 3 รุนแรงปานกลาง

ทำให้แรงดันไฟฟ้าในระบบส่งไฟฟ้าผิดปกติ แต่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบปรับแรงดัน อาจเกิดการสะสมประจุในชิ้นส่วนของดาวเทียม และอาจเกิดความผิดพลาดกับระบบควบคุมทิศทาง มีปัญหากับระบบกระจายสัญญาณวิทยุความถี่ต่ำเป็นระยะ เกิดแสงเหนือแสงใต้ลามลงไปถึงระดับละติจูดแม่เหล็ก 50 องศา

G 4 รุนแรงมาก

ทำให้ระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าอาจเกิดความเสียหายเป็นพื้นที่กว้าง ยานอวกาศอาจเกิดการสะสมประจุขึ้นที่พื้นผิว และอาจมีปัญหาในการสื่อสารและควบคุมทิศ เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นในท่อส่งน้ำ เกิดแสงเหนือแสงใต้ลามไปถึงละติจูดแม่เหล็ก 45 องศา การกระจายสัญญาณความถี่สูงขัดข้องเป็นระยะ

G 5 รุนแรงที่สุด

ส่งผลให้ระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าและระบบป้องกันเสียหายทั่ว ระบบสายส่งไฟฟ้าอาจล่มหรือดับถาวร หม้อแปลงไฟฟ้าอาจเสียหาย ยานอวกาศมีปัญหาจากประจุเข้มข้นที่สะสมที่ผิวยาน มีปัญหาด้านการสื่อสารและการควบคุมทิศ กระแสไฟฟ้าในท่อส่งน้ำอาจสูงหลายร้อยแอมแปร์ การกระจายสัญญาณความถี่สูงล้มเหลว เกิดแสงเหนือแสงใต้ลามไปถึงระดับละติจูดแม่เหล็ก 40 องศา

ผลกระทบจากพายุสุริยะ 2567

สำหรับการเกิดพายุสุริยะ 2567 ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ทาง NOAA ได้รายงานว่าเป็นพายุสุริยะที่มีความรุนแรงในระดับ G5 ทำให้เกิดการรบกวนที่อาจจะมีต่อดาวเทียม และกริดไฟฟ้าในประเทศแถบขั้วโลก แต่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์แต่อย่างใด ผู้สังเกตในแถบละติจูดสูงเตรียมพบกับแสงเหนือและแสงใต้ หรือที่เรียกกันว่าแสงออโรร่าได้ตลอดสุดสัปดาห์

ทั้งนี้โดยปกติแล้วพายุสุริยะจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลก เนื่องจากโลกมีบรรยากาศและสนามแม่เหล็กคุ้มกัน มีเพียงนักบินอวกาศที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอวกาศเท่านั้นที่อาจได้รับอันตราย ทั้งจากพายุสุริยะ และรังสีจากดวงอาทิตย์

ในอดีต พายุสุริยะเคยเกิดขึ้นและส่งผลกระทบแล้วหลายครั้ง เช่น ในปี ค.ศ.1859 พายุสุริยะทำให้สายโทรเลขลัดวงจรจนทำให้เกิดเพลิงไหม้หลายแห่งในยุโรปและอเมริกา ส่วนใน พ.ศ.2532 พายุสุริยะก็เคยทำให้หม้อแปลงของไฟฟ้าระเบิดจนทำให้ไฟดับทั่วทั้งจังหวัดควิเบกของแคนาดามาแล้ว

นอกจากนี้ดาวเทียมและยานอวกาศที่อยู่ในอวกาศก็อาจเสียหายจากพายุสุริยะได้ ในอดีตเคยมีดาวเทียมหลายดวงเสียหายจากเหตุการณ์นี้มาแล้ว เนื่องจากปัจจุบันชีวิตประจำวันของผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอวกาศมาก ทั้งโทรศัพท์ โทรทัศน์ การกระจายเสียงวิทยุ ระบบบอกพิกัด ฯลฯ ดังนั้นหากมีพายุสุริยะมาทำให้ดาวเทียมเหล่านี้เสียหายไป ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแน่นอน.

ข้อมูลอ้างอิง : สมาคมดาราศาสตร์ไทย