รวมเทคนิคการเตรียมตัว และฝึกฝนตนเองก่อนสัมภาษณ์งาน ที่เป็นมากกว่าการพูดคุย ส่งประวัติ และนอกเหนือจากเพียงแค่แสดงความสามารถทั่วไป ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สมัครงานนั้นได้รับเงินเดือนที่สูงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
การสัมภาษณ์งาน เป็นศาสตร์ กลยุทธ์ และวิชาอย่างหนึ่งที่ผู้สัมภาษณ์ควรกระทำ เพื่อที่จะได้รับโอกาสในการทำงานที่ตนเองสนใจ ภายใต้เงื่อนไข และรายได้ที่ตนเองนั้นคาดหวังไว้ ทำให้การสัมภาษณ์นั้น มีอะไรที่ต้องทำอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจดจำข้อมูลต่างๆ และการเก็บข้อมูลที่จำเป็น รวมทั้งบุคลิกภาพกาย ความคิด ความรู้สึก และความประพฤติที่ถูกที่ควร
แน่นอนว่ามีทักษะอื่นๆ ที่ทุกคนมองข้ามในการทำงานไป โดยเฉพาะ “ความฉลาดทางอารมณ์” (EI) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือแห่งความสำเร็จในตลาดงานในปัจจุบัน เช่น การเอาใจใส่ การทำงานร่วมกัน และการปรับตัวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญอย่าง ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) จึงเริ่มมองหาคนที่มีทักษะเหล่านี้ ที่สามารถพัฒนาได้ลักษณะเดียวกันกับการเล่นเครื่องดนตรี หรือการเล่นกีฬาให้เชี่ยวชาญ ชุดทักษะนี้จะแสดงออกมาบอกผ่านภาษากาย การแสดงออกทางสีหน้า และกิริยาท่าทาง
...
5 ความฉลาดทางอารมณ์ ทักษะจำเป็นในการสัมภาษณ์งาน
- มองโลกให้กว้างขึ้น
การมองโลกให้กว้างขึ้น เป็นหนึ่งทักษะจำเป็น ที่สามารถตัดสินได้เลยว่าคุณนั้นเป็นคนอย่างไร การมองโลกกว้างที่ดี ควรต้องนำมาใช้งานร่วมกับความรู้ ความเข้าใจด้วย หากสามอย่างนี้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นตัวช่วยในการสัมภาษณ์งานได้เป็นอย่างดี เพื่อโชว์ประสิทธิภาพของความคิด และทัศนคติได้
ชุดทักษะนี้ช่วยให้จิตใจของคุณไม่ถูกบิดเบือนไปกับสิ่งเร้า และความตื่นเต้น เมื่อสมองของคุณจดจ่ออยู่กับที่อย่างการถูกสัมภาษณ์โฟกัสสายตา และความคิดของคุณก็จะแคบลงเหมือนกับเลนส์ซูมของกล้อง ทำให้ภาพใหญ่มืดมัว และทำให้ความสามารถในการมองเห็นความเป็นไปได้แคบลง อาจทำให้การสัมภาษณ์นี้มีจุดบอด และเกิดการคิดลบโดยไม่รู้ตัว การดูภาพใหญ่ผ่านเลนส์มุมกว้างช่วยให้คุณถอยห่างจากการสัมภาษณ์งานที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ได้
แน่นอนว่าในเวลาถูกสัมภาษณ์ ตัวผู้สัมภาษณ์มักจะมองปัจจัยต่างๆ แคบลง ทำให้ไม่เป็นตัวเองเวลาถูกสัมภาษณ์ หากมีทักษะเหล่านี้ อาจทำให้ความวิตกกังวลน้อยลง มองเห็นอะไรได้กว้างขึ้น ไม่เพียงแค่สายตา แต่ยังรวมไปถึงความคิด และสมาธิที่สามารถทำให้โชว์ศักยภาพของตนได้มีประสิทธิภาพ
การมองภาพใหญ่ ช่วยให้มองเห็นความเป็นไปได้ของโอกาส ช่องทาง และทางเลือกต่างๆ ก่อนคิดคำตอบของการสัมภาษณ์งาน คุณมีสิทธิ์ที่จะขยายความ และสร้างแนวคิดต่างๆ ที่สร้างสรรค์ และกว้างมากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากข้อจำกัดของจิตใจ หากคุณมองเห็นตัวเองได้เต็มที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ รวมถึงช่วยยกระดับจิตใจได้ทันทีก่อนการสัมภาษณ์
- เอาชนะใจตนเอง
การพัฒนาความตระหนักรู้ในการพูดคุยกับตัวเอง เป็นทักษะที่สำคัญ หากคุณเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตนเอง คิดแต่เรื่องราวเชิงลบเกี่ยวกับอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น เช่น จะเป็นอย่างไรถ้าพวกเขาไม่ชอบเรซูเม่ของฉัน หรือ จะเป็นอย่างไรหากฉันล้มเหลวในการสัมภาษณ์งาน การคาดการณ์เหล่านี้เป็นความคิดที่เกินจริง ทำให้สมองทำงานโดยคิดเรื่องนี้วกวนแบบไม่มีที่สิ้นสุด จนไหลผ่านจิตใจทำให้เรายึดถือตามความเป็นจริงอย่างที่เราคิด จนเกิดเป็นความกังวล ความระแวง และการครุ่นคิดตลอดเวลา จนทำลายความสามารถของเราในการ ‘เป็นตัวของตัวเอง’ ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์อย่างการสัมภาษณ์ได้
...
นักวิทยาศาสตร์เผยว่า 90% ของความคิดในแง่ลบเหล่านี้ เป็นสัญญาณเตือนแห่งความผิดพลาด ที่ขยายความกังวล สร้างสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในใจของเรา ทำให้เราเชื่อ และเกิดผลที่คิดไว้แทนที่จะเชื่อความจริงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
การเข้าสู่การสัมภาษณ์ที่ตึงเครียดด้วยความผ่อนคลาย จะช่วยลดความรุนแรงของความเครียดได้ รวมถึงการยับยั้งความเชื่อที่ผิดๆ สร้างระยะห่างจากความคิดในการยอมแพ้ ก่อนที่จะได้ทดลอง เพียงเท่านี้จะช่วยให้คุณจัดการกับความเครียดที่แท้จริงของการสัมภาษณ์ได้อย่างง่ายดาย แถมยังช่วยขัดเกลาตัวเองในการขจัดความวิตกกังวลได้
- รู้จักเห็นอกเห็นใจตนเอง
ความเห็นอกเห็นใจในตนเอง เป็นเครื่องมือ EI ที่คอยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ที่สำคัญ ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยขัดกล่อมจิตในบรรเทาโรคทางจิต และกายภาพได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความเครียด ความวิตกกังวล ความหงุดหงิด และภาวะซึมเศร้าได้ด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มความสำเร็จของคุณในการสัมภาษณ์งานได้ด้วย "การปฏิบัติเล็กๆ น้อยๆ" ที่เพิ่มความเห็นอกเห็นใจในตนเองเพิ่มขึ้น เพื่อความสุขทางอารมณ์ และความเครียดที่ลดลง ก่อนการสัมภาษณ์งาน โดยการฝึกฝน การพูดกับตัวเองด้วยความเห็นอกเห็นใจ กำลังใจ วางมือเบาๆ บนหัวใจ และท้องเพื่อให้คุณรู้สึกถึงความอบอุ่นของมือบนหน้าอกและท้อง ส่งความคิด และความรู้สึกดีๆ ให้กับตัวเอง หายใจเข้าลึกๆ อย่างแผ่วเบาสักสองสามนาที เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผ่อนคลาย และกล้าเดินหน้าต่อสู้กับสถานการณ์ข้างหน้าได้แล้ว
การใช้แนวปฏิบัตินี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมาก ให้กับตนเอง ในเรื่องของความเครียด และวิตกกังวลในระหว่างการสัมภาษณ์ ยิ่งหากมีการทำสมาธิเป็นประจำยังช่วยปลูกฝังความเห็นอกเห็นใจ โดยส่งผลต่อบริเวณสมองที่ทำให้คุณเห็นอกเห็นใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น วงจรสมองที่ใช้ในการตรวจจับอารมณ์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อคุณฝึกสมาธิแบบเห็นอกเห็นใจ และจะสะท้อนออกมาให้เห็นในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ซึ่งช่วยได้มาก
...
- คุยกับตนเอง
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การเอ่ยชื่อตัวเองอย่างเงียบๆ เป็นการกระทำที่มีประโยชน์ ซึ่งช่วยขจัดความวิตกกังวล และกระตุ้นให้คุณเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายได้มากขึ้น และการกระทำนี้จะช่วยให้คุณพูดคุยกับตัวเอง ในแบบเดียวกันกับที่คุณเคยพูดคุยกับคนอื่น สร้างมุมมองที่เป็นกลาง และสมจริงที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัตินี้ช่วยลดความวิตกกังวล ปลูกฝังการควบคุมตนเอง และยับยั้งเสียงเชิงลบ ก่อนการสัมภาษณ์งานได้ การฝึกพูดกับตัวเองด้วยความเห็นอกเห็นใจ พูดกับตัวเองอย่างอบอุ่น โดยใช้ชื่อจริงแทนสรรพนาม “ฉัน” จะได้รับความรู้สึกเหมือนกำลัง ได้รับการปลอบโยนจากคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง
- ปรับท่าทางใบหน้า และร่างกาย
ท่าทางร่างกาย เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถบอกอะไรหลายๆ อย่างให้แก่ผู้อื่น รวมถึงความรู้สึกในใจของคุณเองได้ การแสดงออกทางสีหน้า จะส่งผลถึงทัศนคติที่มีอยู่ภายใน
ผู้สมัครงานที่วิตกกังวลมักจะก้มศีรษะ ห่อตัว หรือทรุดตัวลงเมื่อเดินโดยไม่รู้ตัว ท่าทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงสิ่งที่เรารู้สึกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกของเราอีกด้วย ทำให้เราดูมีความมั่นใจน้อยลง, การยืนสูง เชิดหัวไหล่ไปด้านหลัง ทำให้คุณดูมั่นใจ แถมยังทำให้รู้สึกมั่นใจในการสัมภาษณ์ด้วย เช่นเดียวกับการยิ้ม เมื่อคุณยิ้ม ถึงแม้คุณไม่ได้ตั้งใจ คุณจะเริ่มรู้สึกดีขึ้น และมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
...
การปรับท่าทางของร่างกาย รูปแบบการหายใจ การแสดงออกทางสีหน้า และท่าทางจะปล่อยสารเคมีจำนวนมากที่เปลี่ยนแปลงสถานะภายในของคุณและช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้ดีที่สุด รวมถึงอารมณ์ร่วมจากคนภายนอกได้ด้วย
ภาพ : istock
ข้อมูล : Forbes