รู้ไว้ป้องกันได้ทัน เผยวิธีตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตนเองว่าได้ถูกรีโมตจากมิจฉาชีพเข้ามาโจรกรรมแล้วหรือไม่ พร้อมวิธีสังเกต และโทรศัพท์มีอาการอย่างไรบ้าง

เทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยความสะดวกมากขึ้น อาจเป็นช่องทางให้เหล่ามิจฉาชีพได้สรรหาวิธี และกลอุบายต่างๆ เพื่อที่จะเข้ายักยอกทรัพย์กับพวกเราได้ตลอดทุกเมื่อ การโจรกรรมทางไซเบอร์จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คนเหล่านี้มักนิยมใช้กันอย่างหลากหลาย และมีคนที่ตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน

วิธีใหม่ที่เหล่ามิจฉาชีพนิยมใช้ คือ การหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มาในรูปแบบของลิงก์ โปรแกรม หรือการแอบแฝง เพื่อให้เหยื่อทำธุรกรรมต่างๆ ที่ดูเชื่อถือได้ และแฝงตัวเข้าไปควบคุมโทรศัพท์มือถือของเหยื่ออย่างแนบเนียน และหลอกลวงด้วยการดูดเงิน รีดไถ หรือข่มขู่เอาทรัพย์สินไปอย่างน่าเจ็บใจ

ไทยรัฐออนไลน์ ได้รวบรวมวิธีการเช็ก และป้องกันภัย จากการโจรกรรมทางไซเบอร์ทางโทรศัพท์มาฝากผู้ใช้งานทุกคน เพื่อให้รู้เท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้

แอปพลิเคชันที่แอบแฝงมัลแวร์ เป็นประตูที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพมักจะมาในรูปแบบฝังตัวอยู่ได้หลากหลาย ให้ผู้ใช้งานพึงสังเกต ประกอบไปด้วย ลิงก์โฆษณาชวนเชื่อล่อตาล่อใจที่ส่งเข้ามาในเครื่อง, ลิงก์เว็บพนัน, ลิงก์การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรี หรือแม้แต่กระทั่งการท่องโลกโซเชียลก็อาจจะมีลิงก์การติดตั้งนี้แอบแฝงอยู่ตามคอมเมนต์ต่างๆ รวมไปถึงการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากทางภาครัฐ เพื่อกล่าวถึงปัญหา และแสดงท่าทีช่วยเหลืออย่างเป็นมิตร และให้หลอกดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ จากลิงก์ที่พวกเขาได้ส่งมานั่นเอง 

ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว่า "การแฝงตัวของมิจฉาชีพบนโทรศัพท์มักจะมาพร้อมอาการที่แปลกไปของโทรศัพท์ จะประกอบไปด้วยอาการเหล่านี้ คือ แบตหมดเร็ว, หน้าจอค้าง, โทรศัพท์ดับบ่อยหน้าจอเปลี่ยนเป็นสีดำ, มีการเคลื่อนไหวเองจากหน้าจอโทรศัพท์, เครื่องโทรศัพท์ช้า, เน็ตหมดเร็ว, มีแอปพลิเคชันติดตั้งเองโดยไม่รู้ตัว และมี SMS เว็บการพนัน เกมออนไลน์"

...

วิธีเช็กสังเกตเบื้องต้น บนโทรศัพท์มือถือของตนเองในระบบ iOS และ Andriod

ผู้ที่ใช้งานโทรศัพท์ iPhone ที่มีระบบ iOS หรือโทรศัพท์ของ Andriod ที่มีการป้องกันที่แน่นหนา ก็ตามสามารถตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพได้ทั้งสิ้น อาจจะต้องหมั่นสังเกตความผิดแปลกของโทรศัพท์ตนเอง ว่ามีอะไรที่แปลกไป ซึ่งสามารถเช็กได้ดังนี้

  • ระบบ iOS

เช็กดูแบตเตอรี่ และสถิติการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ หากมีแอปพลิเคชันแปลกๆ หรือเกิดการใช้งานที่หนักเกินไปให้พึงตระหนักไว้ว่าอาจมีความเสี่ยงได้
บนโทรศัพท์ iPhone สามารถเข้าไปเช็กได้ว่ามีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่แปลกปลอม หน้าตาไม่คุ้น หรือไม่เคยใช้มาก่อนได้ หากเจอให้รีบลบด่วน
เปิดการเตือนบน Safari เพื่อให้แอปพลิเคชันกรองเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายเบื้องต้น หมั่นการลบปฏิทิน ข้อความแปลกๆ จากเบอร์ที่ไม่รู้จักด้วยการบล็อกการเข้าถึงบนโทรศัพท์

  • ระบบ Android

ผู้ที่ใช้งานโทรศัพท์ Android ต้องหมั่นเข้าไปที่เข้าไปที่เมนู 'การตั้งค่า' ของเครื่องเพื่อตรวจสอบแอปพลิเคชันบ่อยๆ โดยเฉพาะในโหมดการเข้าถึงพิเศษ (Special access) ซึ่งหากเข้าไปแล้ว หน้าจอเด้งออก และไม่สามารถเข้าได้ให้คิดไว้เลยว่ามือถือของคุณอาจโดนฝังมัลแวร์ และมีการแฝงตัวของมิจฉาชีพแล้วเรียบร้อย ถ้าเจอปัญหานี้ให้รีบจัดการตัดการเชื่อมต่อทั้งหมด แล้วปิดเครื่องทันที ก่อนส่งโทรศัพท์ไปรีเซตโดยไวที่ศูนย์ให้บริการ

นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ ที่น่าสนใจในการเป็นตัวช่วยป้องกันโทรศัพท์ของคุณ ให้เข้าถึงได้ยากกว่าขึ้นเดิมเช่น 

  • ตรวจสอบการตั้งค่า Google Play Protect ของคุณ เพื่อเพิ่มมาตรการป้องกันให้แก่แอ็กเคานต์ : Google Play Protect เป็นหนึ่งในระบบป้องกันที่ดีที่สุด ในการป้องกันแอปพลิเคชันแปลกๆ ที่เป็นอันตรายในระบบแอนดรอยด์ ทั้งจากบุคคลที่สาม และใน App Store 

ก่อนใช้งานโทรศัพท์ให้ตรวจสอบการตั้งค่า Google Play Protect ของคุณผ่านแอปฯ Google Play และตรวจสอบว่าเปิดใช้งานอยู่ หรือไม่ เพราะหากปิดสวิตช์ การป้องกันเหล่านั้นจะหยุดลง เหล่ามิจฉาชีพ, สตอล์กเกอร์แวร์ หรือมัลแวร์ อาจจะเข้ามาแฝงตัวอยู่บนอุปกรณ์ได้

ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งแอปฯ ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์หรือไม่ : แน่นอนว่าแอปพลิเคชันผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ จะมีการเข้าถึงโทรศัพท์ในระบบ Android ที่คล้ายกันกับมิจฉาชีพ ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ เป็นตัวเลือกเพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์เหล่าให้บริษัทต่างๆ ใช้เพื่อจัดการโทรศัพท์ของพนักงานจากระยะไกล ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่มีความจำเป็นให้ปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ทันที เพื่อล้างข้อมูลป้องกันข้อมูลสูญหาย

  • พยายามรักษาความปลอดภัยโทรศัพท์ของคุณ : สิ่งแรกที่ควรทำ คือ การปกป้องอีเมล และบัญชีออนไลน์ต่างๆ ด้วยการตรวจสอบสิทธิ์เข้าถึงแบบสองชั้นทุกครั้งที่เป็นไปได้ หรือหากทำธุรกรรมให้ใช้รูปแบบการสแกนหน้า หรือลายนิ้วมือเป็นหลัก มากกว่ากดรหัส PIN Password ของตนเอง

ภาพ : istock

ข้อมูล : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ techcrunch.