สีคู่ตรงข้าม (ภาษาอังกฤษ : Complementary Color) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "สีคู่" เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเลือกใช้สีสันต่างๆ ในการออกแบบ เพื่อขับโทนสีที่อยู่ตรงข้ามกันให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกนำมาปรับใช้กับการออกแบบ หรือจะการแต่งตัวให้มิกซ์แอนด์แมตช์ด้วยสีคู่ตรงข้ามในชีวิตประจำวันก็ได้
เปิดหมายความ "สีคู่ตรงข้าม" คืออะไร?
สีคู่ตรงข้าม คือ สีที่ตัดกัน โดยมักจะเป็นสองสีที่อยู่ตรงข้ามบนกันวงจรสี (วงล้อสี) เมื่อจับมาคู่กันแล้วจะให้ความรู้สึกขัดแย้ง ทว่าเกิดความโดดเด่นและสดใสสะดุดตา เช่น สีแดง-สีเขียว โดยสีคู่ตรงข้ามจะเป็นสีที่เลือกจากสี "วรรณะร้อน" และ "วรรณะเย็น" บนวงจนสี ดังนี้
- สีวรรณะร้อน (Warm Tone) : สีที่ให้ความรู้สึกร้อน เช่น สีแดง สีส้ม สีเหลือง ฯลฯ
- สีวรรณะเย็น (Cool Tone) : สีที่ให้ความรู้สึกเย็น เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีเทา ฯลฯ
ทั้งนี้ การนำสีคู่ตรงข้ามมาใช้ในการออกแบบก็จะมีการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ที่ลงสี เพื่อให้เหมาะสมและดูสบายตามากที่สุด อาจจะเป็นการแบ่งสัดส่วนสีหนึ่งราว 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ส่วนอีกสีหนึ่งก็เป็นสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น บ้างก็แต่งแต้มสีขาวหรือสีดำเพิ่มเข้าไป เพื่อสร้างความสวยงามให้กับภาพ ลดความรู้สึกตัดกันหรือขัดแย้งกันอย่างรุนแรงของสองสีนั้น
ยกตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพบรรยากาศวันคริสต์มาส ที่มักจะใช้สีคู่ตรงข้ามคือ สีแดง-สีเขียว แม้จะเป็นสีคนละโทนกัน แต่เมื่อมีอยู่ด้วยกันกลับมาความโดดเด่นอย่างมาก พร้อมทั้งมีสีขาวของหิมะเข้ามาช่วยตัดอีกสี ทำให้กลายเป็นกลุ่มโทนสีที่มองแล้วสบายตามากขึ้น ไม่ขัดแย้งกันรุ่นแรงจนเกินไป สามารถนำไปต่อยอดงานออกแบบและงานศิลปะได้
...
"สีคู่ตรงข้าม" มีสีอะไรบ้าง เลือกสีคู่ตรงข้ามสวยๆ ไปปรับใช้กัน
สำหรับการเลือกสีคู่ตรงข้ามสามารถเลือกเฉดสีอ่อน-เข้มของในแต่ละโทนสีนั้นๆ ได้ โดยจะมีคู่สีตรงข้ามที่เด่นๆ ดังนี้
- สีคู่ตรงข้าม สีแดง คือ สีเขียว
- สีคู่ตรงข้าม สีชมพู คือ สีเขียว
- สีคู่ตรงข้าม สีน้ำเงิน คือ สีส้ม
- สีคู่ตรงข้าม สีม่วง คือ สีเหลือง
- สีคู่ตรงข้าม สีเขียวเหลือง คือ สีม่วงแดง
- สีคู่ตรงข้าม สีส้มแดง คือ สีเขียวน้ำเงิน
- สีคู่ตรงข้าม สีส้มเหลือง คือ สีม่วงน้ำเงิน
อย่างไรก็ตาม การใช้สีคู่ตรงข้ามหรือสีที่ตัดกัน ถือเป็นวิธีเลือกสีมาใช้ในการออกแบบให้มีความโดดเด่น สามารถดึงความสนใจได้ โดยขึ้นอยู่กับว่าจะนำสีคู่ตรงข้ามเหล่านี้ไปใช้เพื่อประสงค์ใด ในปัจจุบันเทคนิคเลือกสีคู่ตรงข้ามก็ถูกนำมาใช้ในวงการแฟชั่นและเครื่องแต่งกายเช่นเดียวกัน